สรุปเนื้อหา บทที่ 12 เขาคือคนที่ฉันรัก! – ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] โดย Internet
บท บทที่ 12 เขาคือคนที่ฉันรัก! ของ ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] ในหมวดนิยายการเกิดใหม่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 12 เขาคือคนที่ฉันรัก!
“นะ…นี่…แกเป็นปีศาจหรือไงกัน!?”
คนขับแท็กซี่ตะโกนลั่นด้วยอาการสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง เพราะความหวาดกลัวสุดขีด
“กะ..แก ยะ..อย่า เข้ามานะ อย่าเข้ามา!”
อวี้ฮ่าวหรานค่อย ๆ เดินไปหาคนขับรถแท็กซี่อย่างใจเย็นพร้อมกับปล่อยกลิ่นอายของตัวเองกดดันไม่ให้ฝั่งตรงข้ามหนีไปไหนได้
ถึงแม้ว่าในตอนนี้เขาจะไม่มีพลังเหมือนตอนที่อยู่ในดินแดนแห่งเทพ แต่กลิ่นอายจากร่างเทวะเพียงอย่างเดียวมันก็เพียงพอแล้วที่จะสยบคนธรรมดาให้กลายเป็นอัมพาต
“ผลั่ก!”
ด้วยกลิ่นอายอันรุนแรงที่อวี้ฮ่าวหรานปลดปล่อยออกมา ในที่สุดมันก็ทำให้คนขับรถแท็กซี่ทนไม่ไหว เขาคุกเข่าลงไปที่พื้นด้วยสีหน้าหวาดกลัวสุดชีวิต
“ได้โปรดเถอะ ได้โปรด…อย่าฆ่าผมเลย ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ ผมสาบานว่าผมจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ผมสาบานว่านับจากนี้ไปผมจะหายตัวไปแล้วไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีกแน่นอน ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ…”
ถึงแม้ว่าตัวของเขาจะเคยฆ่าคนมาแล้วหลายคน แต่การที่เขาได้เห็นความสามารถที่เหนือมนุษย์ของอวี้ฮ่าวหรานมันกระทบกระเทือนจิตใจของเขามากเกินไป จนในตอนนี้เขามีเพียงความคิดเดียวในหัวก็คือหากเขารอดไปได้เขาจะไม่มีวันมาเจอกับปีศาจตนนี้อีกแน่นอน
“บทลงโทษที่เจ้าจะได้รับเมื่อทำตัวกำแหงต่อหน้าเทพผู้นี้มีเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้นและมันก็คือ…ตาย!”
“ปัง!”
อวี้ฮ่าวหรานเตะร่างของฝั่งตรงข้ามให้ลอยสูงขึ้นไปบนอากาศเพื่อให้แรงโน้มถ่วงเป็นผู้ช่วยปิดบัญชีหากฝั่งตรงข้ามรอดตายจากแรงเตะของเขา
แน่นอนว่าผลลัพธ์นั้นไม่จำเป็นต้องเดาก็รู้ว่าคนขับแท็กซี่ตายตั้งแต่โดนเขาเตะแล้ว แต่เมื่อร่วงลงมาหัวกระแทกกับพื้นมันก็ยิ่งทำให้สภาพศพของเขาเละยิ่งกว่าเดิมเนื่องจากแรงกระแทกทำให้กะโหลกของเขาแตกเป็นเสี่ยง ๆ
เมื่อจัดการกับคนขับแท็กซี่เรียบร้อย อวี้ฮ่าวหรานก็หันไปสำรวจรอบ ๆ เพื่อตรวจสอบว่ามีใครรอดอยู่อีกหรือเปล่า เขาไม่อยากทิ้งพยานใด ๆ ไว้ เพราะมันจะทำให้ชีวิตของเขายุ่งยากมากขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะตอนนี้ที่พลังของเขายังไม่ฟื้นกลับมาเหมือนเดิม
เมื่อตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครเหลือรอดแล้ว อวี้ฮ่าวหรานก็หยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาเปิดดูแผนที่ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน จากนั้นเขาก็กระโดดหายไปในทันที ทิ้งศพเหล่านี้เอาไว้โดยไม่จัดการใด ๆ เพราะเขามั่นใจว่าต่อให้มีคนไปแจ้งตำรวจเกี่ยวกับศพพวกนี้ เบาะแสทุกอย่างมันก็โยงมาถึงเขาไม่ได้แน่นอน
มันคงไม่มีใครคิดแน่นอนว่าเขาจะสามารถใช้หินธรรมดา ๆ ในการฆ่าคนเหล่านี้ได้ทั้งหมด
จากนั้นเมื่ออวี้ฮ่าวหรานวิ่งไปถึงเขตตัวเมืองเขาก็เรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่บริษัทของหลี่หรง
“อะ…เอ่อ…คุณอวี้…คุณโปรดรอก่อนได้ไหม?”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทเอ่ยขึ้นกับอวี้ฮ่าวหรานด้วยสีหน้าลังเลราวกับว่าในตอนนี้มีบางอย่างเกิดขึ้นในบริษัท ส่วนเหตุผลที่เขารู้จักอวี้ฮ่าวหรานนั่นก็เป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานหน้าบริษัทมันทำให้อวี้ฮ่าวหรานดังไปทั่วบริษัท
“ทำไม มีอะไรเกิดขึ้น?” อวี้ฮ่าวหรานหยุดมองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“อะ..เอ่อ…คือตอนนี้ประธานหลี่กำลังรับแขกอยู่ในออฟฟิศของเธอ…” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตอบกลับโดยไม่กล้าสบตา
คนที่มาหาหลี่หรงในวันนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่มันคืออู๋เส้าฮัวนั่นเอง
คนทั้งบริษัทนั้นต่างรู้กันหมดว่ามันเป็นเวลาพักใหญ่แล้วที่อู๋เส้าฮัวตามจีบเจ้านายของพวกเขา และต่อให้เจ้านายของพวกเขาจะไม่ได้ชอบคุณชายตระกูลอู๋ผู้นี้ แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ไม่กล้าที่จะหยุดฝั่งตรงข้ามไม่ให้เข้าไปเจอกับเจ้านายของเขาเองได้
อันที่จริงในเมืองฮ่วยอันนั้นแทบไม่มีใครกล้าหยุดอู๋เส้าฮัวอยู่แล้ว
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ เมื่อโดนอวี้ฮ่าวหรานจ้องมอง
“แขก?”
หากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนี้บอกกับเขาด้วยท่าทีปกติและให้เขารอ เขาคงจะไม่คิดอะไรมาก แต่ท่าทีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนี้แสดงออกมาตอนนี้มันมีพิรุธมากเกินไป
เอื้อก!
อู๋เส้าฮัวกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เขารีบเอามือบังหน้าตัวเองด้วยความตื่นตระหนก จิตใต้สำนึกของเขามันร่ำร้องว่าเหตุการณ์แบบเมื่อวันก่อนมันอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
“หึ…”
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของอู๋เส้าฮัว หลี่หรงหัวเราะอย่างดูถูกเบา ๆ เมื่อครู่อู๋เส้าฮัวสร้างความลำบากใจให้เธอเป็นอย่างมาก ดังนั้นตอนนี้เธอจึงมีความสุขเป็นพิเศษที่ฝั่งตรงข้ามแสดงท่าทีหวาดกลัวออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“อะ..อะ..ไอ้สารเลวอวี้ฮ่าวหราน แกกล้าหาว่าฉันเป็นมดแมลงงั้นเหรอ! ดี งั้นวันนี้ฉันจะแสดงให้แกเห็นว่าแกมันไร้ค่าแค่ไหนเมื่ออยู่ต่อหน้านายน้อยผู้นี้! เฮ้ย พวกแก 2 คนไปจัดการมัน ฉันต้องการให้พวกแกตัดลิ้นมันออกมาให้มันพูดไม่ได้อีกตลอดชีวิต!” อู๋เส้าฮัวตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าเดือดดาล แค่เรื่องที่อวี้ฮ่าวหรานหาว่าเขาเป็นมดแมลงมันก็น่าโมโหมากพอแล้ว แต่นี่มันกลับเกิดขึ้นต่อหน้าหลี่หรง ดังนั้นเขาจึงรู้สึกยอมไม่ได้ทันที
เมื่อไหร่กันที่คนอย่างเขาโดนคนอื่นดูถูกแบบนี้?
ทางด้านของบอดี้การ์ดสองคนเมื่อได้ยินคำสั่งพวกเขาก็พยักหน้าให้กันทันที พวกเขาพร้อมที่จะขย้ำเป้าหมายของตัวเองทุกเมื่อโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ต้องรู้ว่าในเมืองฮ่วยอันตระกูลอู๋คือตระกูลที่มีอิทธิพลอันดับต้น ๆ ดังนั้นต่อให้พวกเขาจะฆ่าอวี้ฮ่าวหรานให้ตายลงตรงนี้ พวกเขาก็จะหลุดพ้นคดีได้อย่างง่ายดายด้วยอิทธิพลของตระกูลอู๋ และนี่ยังไม่ได้พูดถึงว่าอู๋เส้าฮัวออกคำสั่งให้ตัดลิ้นฝั่งตรงข้ามเท่านั้น ซึ่งมันยิ่งไม่น่ามีปัญหาอะไรเข้าไปใหญ่
“เดี๋ยวก่อน!”
ในขณะที่บอดี้การ์ด 2 คนกำลังจะวิ่งเข้าไปจัดการกับอวี้ฮ่าวหราน จู่ ๆ หลี่หรงก็ตะโกนขัดขึ้น
เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้าหลี่หรงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเป็นห่วงอวี้ฮ่าวหราน บอดี้การ์ด 2 คนของอู๋เส้าฮัวนั้นตัวใหญ่เป็นอย่างมากจนเธอไม่มั่นใจว่าอวี้ฮ่าวหรานจะรับมือได้ยังไง และถ้าอวี้ฮ่าวหรานเป็นอะไรขึ้นมาถวนถวนคงจะรับมือกับความเสียใจที่ต้องพรากจากพ่ออีกรอบไม่ไหวแน่ ๆ
“อู๋เส้าฮัว คุณหยุดตามราวีฉันได้แล้ว ตอนนี้อวี้ฮ่าวหรานเป็นแฟนของฉัน ก่อนหน้านี้พี่สาวของฉันฝากฝังฉันเอาไว้กับเขา ดังนั้นฉันคงรับความรักจากคุณไม่ได้ กลับไปซะเถอะ!”
เมื่อพูดจบหลี่หรงรีบเดินไปหาอวี้ฮ่าวหรานทันที จากนั้นเธอก็คล้องแขนเขาเอาไว้ให้ดูเหมือนกับเป็นคู่รักกันจริง ๆ
“เขาคือคนรักของฉัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]