“หวังเหยียน แจ้งราคาออกไปเป็น 5 ล้าน”
เมื่อเห็นว่าเฉินซิวสู้ไม่ถอย อวี้ฮ่าวหรานก็รู้สึกรำคาญเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเพิ่มราคาขึ้นไปอีก 1.2 ล้านเพื่อทำให้การประมูลนี้จบไปไว ๆ
“น้องอวี้ ฉันว่าของชิ้นนี้มันไม่คุ้มขนาดนั้นหรอก จากบทวิเคราะห์ที่ฉันได้รับมา ตุ๊กตาม้าหยกตัวนี้มีมูลค่าแค่ราว 4 ล้านเท่านั้นเอง”
หวังเหยียนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแนะนำขึ้น เขาคิดว่าราคา 5 ล้านหยวนมันมากเกินไป และไม่ต้องการให้อวี้ฮ่าวหรานขาดทุน!
“ไม่เป็นไร เอ่ยราคาไปเลย!”
อวี้ฮ่าวหรานไม่คิดจะอธิบายถึงเหตุผล เพราะหวังเหยียนคงไม่เข้าใจมันแน่นอน ดังนั้นเขาจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเชิงสั่ง
“ห้อง VIP หมายเลข 2 ราคา 3.8 ล้าน! มีใครเสนอต้องการราคาอีกไหม?”
“3.8 ล้าน ครั้งที่หนึ่ง! เอ๊ะเดี๋ยวนะ? ห้อง… ห้อง VIP หมายเลข 4 เสนอราคาสู้มาที่ 5 ล้านครับท่านผู้มีเกียรติ!”
พิธีกรบนเวทีต้องดูราคาที่แสดงบนหน้าจออีกรอบเพราะเขาคิดว่าเขาตาฝาดไปในตอนแรก
จนถึงตอนนี้ ราคาจบประมูลของทุกรายการที่ผ่านมามันต่ำกว่าราคาที่ประมาณการไว้สูงสุดทั้งหมด ท้ายที่สุดไม่มีใครที่ยอมโง่จ่ายราคามากกว่าที่ประเมินเอาไว้แน่นอน
อย่างไรก็ตาม จู่ ๆ ม้าหยกตัวนี้ที่ดูไม่มีอะไรพิเศษ มันกลับทำราคาทะยานขึ้นถึง 5 ล้านแล้ว!
“ห้อง VIP หมายเลข 2 สู้ราคาที่ 6 ล้าน!”
หลังจากเสียงประกาศราคา 5 ล้านเบาลงไม่กี่วินาที พิธีกรบนเวทีก็ต้องแปลกใจอีกรอบที่การสู้ราคายังคงไม่จบลง แถมเพิ่มขึ้นไปอีกถึง 1 ล้านหยวน
“พระเจ้า สองคนนี้บ้ารึเปล่า? ทำไมพวกเขาถึงยอมจ่ายราคามหาศาลขนาดนี้?”
“เอ…ฉันจำได้ว่าครั้งล่าสุดที่มีการเปิดประมูลของที่นี่ ทั้งสองห้องนี้ก็แย่งกันซื้อกำไลหยกธรรมดา ๆ อันหนึ่งในราคาเสียดฟ้าเหมือนกัน!”
“นี่พวกเขาอยากได้ของจริง ๆ หรือว่าอยากทำให้อีกฝั่งเสียหน้ากันแน่? พวกเขาโกรธกันแบบไหนถึงได้เอาเงินมาเกทับกันแบบนี้?”
“…”
บรรดาเศรษฐีที่เข้าร่วมการประมูลครั้งนี้ต่างคาดเดากันไปต่าง ๆ นานา ไม่มีใครในพวกเขาที่ต้องการประมูลราคาแข่งสู้กับห้อง VIP หมายเลข 2 และ 4 อีกแล้ว
อย่างไรก็ตาม เรื่องไม่ได้จบเพียงแค่นี้!
“ห้อง VIP หมายเลข 4 ราคา 8 ล้าน!”
เมื่อเห็นว่าเฉินซิวยังคงดิ้นรน อวี้ฮ่าวหรานก็ขึ้นราคาไปอีกสองล้าน!
เมื่อราคาดีดสูงขึ้นมาอีกแบบนี้ ห้อง VIP หมายเลข 2 ก็เงียบลงในทันใด มันบ้าไปแล้ว!
เศรษฐีคนอื่น ๆ ยิ่งตกตะลึงมากกว่าเดิม
สองล้านในหนึ่งขาน?
ในห้อง VIP หมายเลข 2
“บัดซบ! ผู้ชายคนนี้! ที่ผ่านมาฉันอุตส่าห์ยอมถอยให้ตลอด ทำไมเขาถึงไม่ยอมถอยให้ฉันบ้าง!”
เฉินซิวบดขยี้แก้วในมือของตัวเองจนแหลกละเอียดเพื่อระบายอารมณ์ ครั้งที่แล้วเขาก็พลาดกำไลหยก ดังนั้นครั้งนี้เขาจึงตั้งเป้าเอาไว้ว่าต้องได้ม้าหยกขาวตัวนี้มาให้ได้ แต่มันกลับกลายเป็นว่าเขากำลังจะถูกอวี้ฮ้าวหรานชิงไปเหมือนเดิมอีกแล้ว!
ผู้ชายคนนี้รวยเกินไปหรือเปล่า? โยนเงิน 8 ล้านออกมาอย่างกับเป็นเศษเงินเลยเนี่ยนะ?
อันที่จริงแก็งค์มังกรครามเองก็มีเงินทุนสำรองอยู่ในแก็งค์หลายสิบล้าน แต่ด้วยการที่เขาไม่ได้คาดคิดว่าอวี้ฮ่าวหราน จะโผล่มาอีกรอบแล้วทุ่มเงินหนักขนาดนี้ จึงไม่ได้นำเงินมาเผื่อมากสักเท่าไหร่ หรือต่อให้เอาเงินมามากพอ เฉินซิวก็ไม่กล้าทุ่มเงินมากกว่า 8 ล้านไปกับของแค่ชิ้นเดียวหรอก!
เฉินซิวโทรออกหาหยวนหลงด้วยความโกรธจัดทันที
“หัวหน้า คราวนี้การประมูลล้มเหลวอีกแล้ว ตอนนี้ไอ้อวี้ฮ่าวหรานมันเพิ่มราคาม้าหยกที่มีมูลค่าแค่ 3 ล้านไปถึง 8 ล้านแล้ว มันไร้ยางอายจริง ๆ มันรังแกพวกเรามากเกินไป!”
น้ำเสียงของเฉินซิวโกรธมาก แต่ปลายสายอีกด้านของโทรศัพท์กลับยังคงใจเย็นอยู่
“แน่ใจว่าเป็นเขา?”
“ผมมั่นใจ 100% ผมเห็นกับตาว่าเขาเข้าไปในห้อง VIP หมายเลข 4 แล้วหลังจากนั้นเขาก็ประมูลแข่งสู้กับผมอย่างไม่ลดละเลย!”
“งั้นหลังจากจบงานประมูล นายก็ไปเชิญเขามาพบฉันหน่อย บอกไปว่าฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเขา อ้ออย่าลืมว่านายต้องชวนเขาแบบสุภาพที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
“คุณอยากเจอเขาจริง ๆ เหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]