สรุปเนื้อหา บทที่ 132 วิกฤตบริษัท – ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] โดย Internet
บท บทที่ 132 วิกฤตบริษัท ของ ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] ในหมวดนิยายการเกิดใหม่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
เมื่อเห็นการแสดงออกของอีกฝ่าย อวี้ฮ่าวหราน ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกงุนงง เขาไม่เข้าใจว่าทำไม สวีรุ่ย ต้องแสดงอาการเขินอายกับคำพูดธรรมดา ๆ แบบนี้
“คืนนี้คุณว่างไหม พ่อของฉันบอกให้ฉันเชิญคุณไปกินข้าวที่บ้านอีกครั้งหนึ่ง เอ่อ…ตัวฉันเองก็อยากให้คุณไปกินด้วยเหมือนกัน”
สวีรุ่ย ข่มความเขินอายในใจของเธอจากนั้นเธอเอ่ยปากชวนด้วยแววตาคาดหวัง
ทานอาหารเย็นอีกครั้งงั้นเหรอ?
อวี้ฮ่าวหราน ยังจำอาการหงุดหงิดของ หลี่หรง ได้เป็นอย่างดีซึ่งมันทำให้เขารีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว “เอาเป็นวันอื่นก็แล้วกัน วันนี้ผมต้องรีบพาถวนถวนกลับบ้านเพราะ หลี่หรง บอกว่าคืนนี้เธออยากจะทำของอร่อย ๆ ให้ ถวนถวน ทาน”
“อ…อือ ถ้าอย่างนั้น วันหลังก็ได้…”
การแสดงออกของ สวีรุ่ย สลดไปเล็กน้อย แต่เธอไม่สนใจมากเกินไป
หลังจากที่อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ เธอยังรู้จักผู้ชายคนนี้อยู่บ้างเล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงเตรียมใจไว้แล้ว
หลังจากที่ทั้งสองคนแลกเปลี่ยนคำกันสองสามคำ อวี้ฮ่าวหราน ก็ขึ้นรถและจากไป
เมื่อเขากลับถึงบ้าน หลี่หรง ได้เตรียมอาหารไว้แล้ว
“โอ้? วันนี้พี่กลับมาเร็วดีจัง ฉันทำอาหารเสร็จพอดีเลยพี่กับถวนถวนรีบมากินตอนมันยังร้อน ๆ เถอะ”
อวี้ฮ่าวหราน แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกกับการที่เมื่อครู่เขาปฏิเสธ สวีรุ่ย ไป ไม่งั้นวันนี้ หลี่หรง คงหน้างออีกแน่ ๆ หากเขาไปกินข้าวบ้านคนอื่นโดยปล่อยให้เธอทำอาหารเก้อ
“วันนี้เธอเองก้กลับมาเร็วเหมือนกัน ช่วงนี้บริษัทไม่ค่อยยุ่งงั้นเหรอ?” อวี้ฮ่าวหราน ถามกลับ
“อืม ช่วงนี้ไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่เพราะตั้งแต่ที่พี่แสดงความสามารถให้ทุกคนเห็น เด๊๋ยวนี้พวกญาติ ๆ ของฉันก็เลยมาช่วยแก้ปัญหาให้กับบริษัทของฉันอยู่บ่อยๆ”
หลี่หรง เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเบิกบาน
“ว่าแต่ช่วงนี้ที่บริษัทพี่เป็นยังไงบ้าง ตาแก่เจิ้งนั่น…ฉันหมายถึง เจิ้งเหวยกัว เขาทำให้พี่ปวดหัวมากรึเปล่าช่วงนี้?”
“เจิ้งเหวยกัว? อันที่จริงถ้าเธอไม่ถามถึงเขาพี่ก็ว่าจะเล่าให้ฟังอยู่ว่าวันนี้เขาเพิ่งมาขอพี่ลาออกและพี่ก็อนุมัติไปแล้ว”
อวี้ฮ่าวหราน นั่งลงที่โต๊ะกินและตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
แม้ว่าเรื่องนี้จะต้องมีอะไรลับลมคมใน แต่การที่อีกฝ่ายจากไปได้อย่างน้อย ๆ มันก็ถือว่าเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง
“เอ๊ะ? เจิ้งเหวยกัวลาออก? พี่เขย พี่ทำให้เขายอมลาออกได้ยังไง? ไม่ใช่ว่าช่วงนี้ราคาหุ้นของบริษัทพี่กำลังพุ่งขึ้นไม่ใช่เหรอ ทำไมเขายอมทิ้งเงินก้อนโตไปแบบนี้?”
หลี่หรง รู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้ แม้ว่าเธอจะไม่รู้จักกับ เจิ้งเหวนกัว เป็นการส่วนตัว แต่เธอก็แน่ใจว่าคนแบบ เจิ้งเหวยกัว ไม่ใช่คนที่ยอมทิ้งผลประโยชน์ของตัวเองได้ง่าย ๆ
อย่างไรก็ตาม หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลี่หรง ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มันน่าจะซับซ้อนกว่าที่เธอเข้าใจและเมื่อเธอเห็นว่า อวี้ฮ่าวหราน ไม่ได้แสดงท่าทีอยากจะอธิบายอะไรเพิ่มเติมเธอจึงได้แต่ปล่อยวาง
“งั้นก็ช่างเถอะ อย่างน้อย ๆ สิ่งนี้ก็นับได้ว่าเป็นเรื่องดี การที่ไม่มีตาแก่ปากเสียแบบนั้นอยู่ในบริษัทอีกต่อไป มันก็หมายความว่านับจากนี้พี่เขยจะได้ไม่ต้องรำคาญพวกมารผจญแบบนั้นอีก”
จากนั้นทั้งสองก็พูดคุยกันเป็นเวลานานขณะทานอาหารและแลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับการบริหารบริษัท
เช้าวันรุ่งขึ้น
ระหว่างทางไปบริษัท โทรศัพท์ของ อวี้ฮ่าวหราน ก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล ท่านประธานอวี้ใช่ไหมครับ? ท่านประธานตอนนี้มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น!”
คนที่โทรเข้ามาคือผู้จัดการหวังซึ่งน้ำเสียงของเขาตอนนี้ฟังดูเป็นกังวลอย่างมาก
อวี้ฮ่าวหราน ขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ดูกังวล
“ใจเย็น ๆ พูดช้า ๆ มีอะไรเกิดขึ้น?”
คราวนี้ เจิ้งเหวยกัว สร้างปัญหาใหญ่ให้กับเขาอย่างแท้จริง
หลังจากจอดรถที่ข้างทางเพื่อครุ่นคิดอยู่พักใหญ อวี้ฮ่าวหราน ก็กลับรถขับตรงไปที่บริษัทของเฉิงกัวอันแทน
หลังจากครุ่นคิดแล้วเขาก็รู้ว่าเขายังไม่มีประสบการณ์พอจะแก้ไขปัญหานี้ด้วยตัวเองดังนั้นเขาจึงต้องไปปรึกษาคนที่มีประสบการณ์มากกว่าเช่น เฉิงกัวอัน
ปัจจุบันนี้ อวี้ฮ่าวหราน สามารถผ่านด่านเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขึ้นไปถึงออฟฟิศของ เฉิงกัวอัน ได้เลยทันที เพราะ เฉิงกัวอัน ได้ให้ข้อมูลของ อวี้ฮ่าวหราน กับพวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในบริษัทของเขาหมดแล้วว่าหากฝั่งตรงข้ามมาเมื่อไหร่ให้ปล่อยผ่านขึ้นมาได้เลย
“ฮ่าฮ่า น้องอวี้ เป็นยังไงบ้างไม่ได้กันนานเลย!”
ทันทีที่ อวี้ฮ่าวหราน เปิดประตูเข้าไปในออฟฟิศ เฉิงกัวอัน ก็เอ่ยทักทายขึ้นก่อนด้วยสีหน้าเบิกบาน
“ช่วงนี้ผมงานยุ่งมาก ไม่ค่อยมีเวลาว่างสักเท่าไหร่” อวี้ฮ่าวหรานยิ้มแล้วตอบกลับ
ต่อจากนั้น ทั้งสองก็พากันไปนั่งที่โซฟาและเริ่มพูดคุยกับด้วยสีหน้าจริงจัง
“…เจิ้งเหวยกัวเพิ่งลาออกไปเมื่อวาน แต่เขาไม่ได้ลาออกไปเพียงคนเดียว เขาแอบเอาเจ้าหน้าที่วิศวกรออกแบบจำนวนมากออกไปด้วย ผมไม่คิดเลยว่าเขาจะสร้างปัญหาให้ผมได้ถึงขนาดนี้”
บนโซฟา อวี้ฮ่าวหราน พูดเรื่องนี้อย่างชัดเจน
“อืม เจิ้งเหวยกัว ทำได้แสบจริง ๆ ในเรื่องนี้ หากไม่ได้รับการแก้ไขโดยเร็ว มันจะส่งผลกระทบต่อการผลิตสินค้าได้อย่างง่ายดาย จากประสบการณ์ของฉัน ตอนนี้นายยังไม่ต้องไปสนใจกับ เจิ้งเหวยกัว อะไรนั่น สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือการหาเจ้าหน้าที่วิศวกรออกแบบมาเติมส่วนที่ขาดหายไปก่อน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการผลิต”
อวี้ฮ่าวหราน พยักหน้า ตอนนี้เขาต้องแก้ปัญหาเรื่องคนงานก่อนจากนั้นเมื่อปัญหาคลี่คลายลงเขาค่อยไปล่าตัว เจิ้งเหวยกัว อีกที
“แล้วนอกเหนือจากนี้ คุณมีข้อเสนอแนะอะไรอีกไหม?”
“ก็น่าจะนั่นแหละ ไม่มีวิธีอื่นที่เหมาะสมแล้ว ก่อนอื่นต้องให้ทำตำแหน่งที่หายไปถูกเติมเต็มซะก่อน เรื่องนี้สำคัญมาก”
ทางด้านของ เฉิงกัวอัน เองก็ไม่สามารถคดวิธีทางแก้ที่ดีมากกว่านี้ได้ท้ายที่สุด การขาดเจ้าหน้าที่วิศวกรออกแบบนั้นเป็นเงื่อนไขที่ยากลำบาก และไม่ว่าจะใช้กลยุทธ์อะไรก็ตาม มันก็ไม่สามารถแก้ไขในเรื่องจำนวนคนที่ขาดได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]