บทที่ 228 คู่พ่อลูกตกตะลึง
ทันทีที่หลี่จิงเทียนเห็นใบหน้าที่งดงามของซูหว่านเอ๋อร์ เขาก็อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงและพูดไม่ออก
นอกเหนือจากน้องสาวและพี่สาวของเขาแล้ว ผู้หญิงคนนี้คือหญิงสาวที่สวยแบบธรรมชาติจนเขาต้องยอมรับ
ในทางกลับกัน ซูหว่านเอ๋อร์กลับไม่ทักทายอีกฝ่ายกลับไปเนื่องจากเธอรู้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายที่ไม่ได้ความขนาดไหน ดังนั้นสายตาของเธอที่มองหลี่จิงเทียนจึงเต็มไปด้วยความรังเกียจ
ดังนั้นถึงแม้ว่าพ่อของเธอจะเอ่ยขึ้นแนะนำตัวเธอให้กับหลี่จิงเทียน เธอก็ไม่ได้สนใจอะไร หญิงสาวเดินตรงไปที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามคนทั้งหมดและนั่งลงทันที
“หว่านเอ๋อร์! ทำไมลูกถึงไร้มารยาทแบบนี้! ลูกควรจะทักทายแขกก่อนที่จะนั่งลง!”
ซูกว่างไห่ตะคอกใส่ลูกสาวของเขาทันที เขาไม่นึกเลยว่าลูกสาวของเขาที่มีมารยาทเสมอจู่ ๆ จะทำตัวแบบนี้ต่อหน้าแขก
ในเวลาเดียวกัน หลี่หรงก็เดินไปนั่งข้าง ๆ ซูหว่านเอ๋อร์เช่นกัน
เมื่อเห็นน้องสาวของตัวเอง หลี่จิงเทียนก็ฟื้นสติและเพิ่งนึกได้ว่าหลี่หรง และอวี้ฮ่าวหรานเป็นคนเรียกให้เขามาที่นี่ เขารีบลุกขึ้นไปหาหลี่หรง ทันทีและดึงตัวหลี่หรงออกจากโต๊ะ ก่อนจะถามขึ้นเสียงเบาด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“นี่ หรงหรง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมจู่ ๆ ถึงเรียกพี่มากินข้าวที่นี่? และอีกอย่าง ทำไมซูกว่างไห่และลูกชายของเขาถึงอยู่ที่นี่ด้วย?”
เมื่อหลี่หรงเห็นสีหน้าเป็นกังวลของพี่ชายตัวเอง เธอก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นแหย่
“พี่รอง! ทำไมพี่ไม่เคยบอกฉันเลยว่าพี่กำลังจะมีพ่อตาแล้ว!”
“ฉ…ฉันไม่มีสักหน่อย… เรื่องแต่งงานอะไรนี่ฉันเองก็เพิ่งรู้เมื่อสองวันที่แล้วนี่เอง!”
เมื่ออยู่ต่อหน้าน้องสาวของเขาเอง หลี่จิงเทียนยิ่งรู้สึกประหม่าเพราะเมื่อครู่เขาโอ้อวดตัวเองไปเยอะ ซึ่งในความเป็นจริงเขาไม่มีบทบาทอะไรเลยในความก้าวหน้าของตระกูล
แต่แล้วหลังจากที่ทั้งคู่แลกเปลี่ยนคำพูดกัน ประตูห้องก็เปิดออกอีกครั้งซึ่งคราวนี้เป็นอวี้ฮ่าวหรานที่เพิ่งจอดรถเสร็จและเดินเข้ามา
เมื่อเห็นไอ้ตัวปัญหาที่พาลูกสาวของเขาหนีออกจากบ้าน ซูกว่างไห่ลุกขึ้นทันทีและชี้หน้าด่าอวี้ฮ่าวหรานด้วยสีหน้าเดือดดาล
“ก…แก ไอ้สารเลว! แกเข้ามาในนี้ได้ยังไง! ออกไปเดี๋ยวนี้ แกมีสิทธิ์อะไรถึงเข้ามาในห้องนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต!”
“ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้! อย่ามาสร้างปัญหาที่นี่! คนชั้นต่ำยาจกอย่างแกไม่มีค่าพอที่จะมาอยู่ร่วมห้องเดียวกับพวกฉัน!”
ซูหว่านผิงลุกขึ้นช่วยพ่อของเขาด่าและขับไล่ชายหนุ่มเช่นกัน
แต่ในเวลาเดียวกัน ซูหว่านเอ๋อร์กลับลุกขึ้นจากโต๊ะและวิ่งไปยืนอยู่ข้างอวี้ฮ่าวหรานเพื่อเป็นการประกาศว่าเธออยู่ฝั่งไหน
หลี่จิงเทียนมองเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยสีหน้าตกตะลึง แต่เมื่อเขาได้สติ สมองเขาก็แล่นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะวิ่งไปอยู่ข้าง ๆ อวี้ฮ่าวหรานเช่นกัน
ไอ้คู่พ่อลูกตระกูลซูมันเป็นบ้าอะไรของพวกมัน พวกมันรู้หรือเปล่าว่ากำลังด่าใครอยู่?!
ในทางกลับกัน อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้สนใจกับคำด่าของพ่อลูกตระกูลซู เขาหันไปหาหลี่จิงเทียนและพูดขึ้นว่า
“ฉันต้องการให้แกพูดออกไปให้ชัดเจนว่าแกจะไม่แต่งงานกับซูหว่านเอ๋อร์ และแกจะไม่ยุ่งกับเธออีก”
อวี้ฮ่าวหรานพูดออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่ง แต่น้ำเสียงของเขากลับดูจริงจังจนน่าขนลุก
ทว่าก่อนที่หลี่จิงเทียนจะทันได้พูดอะไรขึ้น ซูกว่างไห่ก็ตะโกนขึ้นแทรกเสียก่อนด้วยความโมโห
“แกกล้าดียังไงถึงพูดกับนายน้อยหลี่แบบนี้? แกมันก็แค่คนไร้ค่าที่ต้องหาเช้ากินค่ำเพื่อประทังชีวิต คนชั้นต่ำอย่างแกถือดียังไงถึงกล้าพูดออกมาในสถานที่แห่งนี้!”
เขารู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก แผนการแต่งงานใกล้จะสำเร็จอยู่แล้ว พวกเขาไม่สามารถให้ไอ้ตัววุ่นวายนี้มาขัดขวางแผนการของเขาได้อีก ต้องรีบไล่มันออกไปให้พ้น!
ในเวลาเดียวนี้ หลี่หรงที่ชักเริ่มจะทนไม่ไหวก็ก้าวออกมา
“ฉันขอพูดอะไรบางอย่างให้ชัดเจนก่อน! นี่คือพี่เขยของฉัน เขาคือผู้ที่สืบทอดบริษัทชงซานต่อจากพ่อของฉันและเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นเครือฮ่าวหราน! ดังนั้นหากจะเรียกว่าเขาเป็นคนชั้นต่ำแล้วล่ะก็ คนในห้องนี้คงไม่มีใครมีค่าพอจะเป็นคนด้วยซ้ำ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]