ตอนนี้เป็นเวลาสี่โมงเย็นกว่า ๆ ขณะนี้หลี่หรงกลับมาถึงห้องแล้วแต่เธอไม่ได้อยู่ในครัวเพื่อทำอาหารเย็น เธอนั่งอยู่ที่โซฟาดูข่าวในทีวีอย่างตั้งใจ
เมื่อได้ยินเสียงคู่พ่อลูกเปิดประตูเข้ามา หลี่หรงรีบหันกลับไปทักทันที
“พี่เขย ฉันได้ดูข่าวเกี่ยวกับบริษัทของพี่ ตอนนี้ทุกอย่างเป็นยังไงบ้าง?”
หลังจากถามเสร็จ เธอลากตัวอวี้ฮ่าวหรานให้มานั่งที่โซฟาเพื่อคุยกับเธออย่างจริงจัง
ทางด้านของถวนถวน เด็กน้อยไม่ได้สนใจเรื่องของผู้ใหญ่สักเท่าไหร่ ดังนั้นจึงรีบวิ่งไปเล่นกับเจ้าลูกกวาดอย่างร่าเริง
อวี้ฮ่าวหรานนั่งลงบนโซฟา ก่อนที่จะครุ่นคิดเล็กน้อยว่าควรจะเล่าเรื่องยังไงดีเพราะมันมีหลายอย่างมากเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้
ท้ายที่สุดหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็เริ่มเล่า
“หัวหน้าฝ่ายบัญชีของพี่ร่วมมือกับหลี่จิงเทียนปรับแต่งบัญชีที่เพิ่งเปิดใหม่ขึ้นมา และทำให้มันดูเหมือนว่าบริษัทของพี่เลี่ยงภาษี จากนั้นเช้านี้กรมสรรพากรก็บุกเข้ามาในบริษัทของพี่…”
“หา! แล้วแบบนี้เราทำยังไงกันดี!”
หลี่หรงอุทานขึ้นแทรกเสียงดังทั้ง ๆ ที่ อวี้ฮ่าวหรานยังเล่าไม่จบ
“ฟังพี่ก่อน!”
อวี้ฮ่าวหรานรู้สึกเหนื่อยใจ หากมองจากภายนอกน้องภรรยาของเขาดูเหมือนจะเป็นคนใจเย็น แต่จริง ๆ แล้วเป็นคนที่ตื่นตูมง่ายมาก ๆ
“เมื่อตอนบ่ายที่ผ่านมา พี่รวบรวมหลักฐานทุกอย่างที่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพี่ได้ทั้งหมด และส่งไปให้กับกรมสรรพากรเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้พี่ชายของเธอก็คงจะต้องไปนอนอยู่ในคุก…”
นี่คือประเด็นที่อวี้ฮ่าวหรานเป็นห่วง ถึงแม้ว่าหลี่จิงเทียนจะสร้างปัญหาให้เขามากมาย แต่ชายหนุ่มก็ไม่ค่อยอยากจะทำอะไรรุนแรง เพราะไม่ว่ายังไงอีกฝ่ายก็เป็นน้องเขยของเขา และเป็นน้องชายของหลี่เม่ย พี่ชายของหลี่หรง
“พี่ชายของฉันต้องเข้าคุก…ช่างเถอะ ๆ ให้คนแบบนั้นได้ไปสำนึกตัวในคุกบ้างก็ดีเหมือนกัน”
หลี่หรงยักไหล่ด้วยสีหน้าไม่ใส่ใจ
หลังจากที่หลี่จิงเทียนสร้างวีรกรรมเอาไว้เยอะทั้งกับเธอ พ่อของเธอ และพี่สาว หญิงสาวก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรที่พี่ชายสุดชั่วของเธอจะได้ไปนอนในคุกบ้าง
“แต่ว่าพี่เขย ฉันรู้สึกว่าช่วงนี้มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับบริษัทพี่บ่อย ๆ ฉันคิดว่าพี่ควรจะหาฤกษ์ดี ๆ ก่อนแล้วค่อยเปิดทำการใหม่อีกที”
“อืม เธอช่วยไปหาฤกษ์มาให้พี่สักหน่อยก็แล้วกัน”
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าตกลงอย่างง่ายดาย
“ถ้างั้นขอฉันเปิดปฏิทินดูก่อน…”
หลี่หรงเอ่ยขึ้นก่อนที่จะเดินไปหยิบปฏิทินมาเปิดดูฤกษ์
หลายวันต่อมา
เครือฮ่าวหรานเปิดทำการอีกครั้ง!
ที่ด้านหน้าตึกสำนักงานถูกประดับประดาด้วยพู่และพรมสีแดง และมีพนักงานมากมายยืนเรียงแถวกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
หลังจากผ่านประสบการณ์ที่บริษัทเกือบจะถูกปิด วันนี้พวกพนักงานต่างก็รู้สึกอยากจะทำงานและหวงแหนบริษัทมากยิ่งขึ้น เครือฮ่าวหรานเป็นบริษัทที่ให้ค่าจ้างสูงกว่าบริษัทอื่น ๆ ในเมือง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากที่จะเสียงานที่นี่ไป
แน่นอนว่าเฉิงกัวอันและเฉิงชิวอวี้ไม่พลาดงานแบบนี้แน่นอน คู่พ่อลูกเดินทางมายินดีกับอวี้ฮ่าวหรานด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และยิ่งไปกว่านั้น หลินป๋อ และประธานบริษัทอีกเป็นสิบบริษัทที่เป็นคู่ค้าของอวี้ฮ่าวหราน ก็เดินทางมาร่วมพิธีเปิดบริษัทอีกครั้งเช่นกัน
“ฮ่า ๆ ประธานอวี้ คุณนี่เลือกวันได้ดีจริง ๆ ดูสิ ท้องฟ้าวันนี้ปลอดโปร่งมาก ๆ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีในการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง!”
“ใช่ ๆ หลังจากนี้เครือฮ่าวหราน จะต้องยิ่งใหญ่ขึ้นอีก รุ่งเรืองขึ้นอีก เฮง เฮง เฮง ไม่รู้จบแน่นอน!”
บรรดาประธานบริษัทต่าง ๆ เดินเข้ามาอวยพรให้กับอวี้ฮ่าวหรานอย่างอบอุ่น
อวี้ฮ่าวหรานตอบรับคำอวยพรทั้งหมดด้วยการชนแก้วไวน์กับแขกทุกคนด้วยสีหน้าเป็นกันเองเช่นกัน
ไม่นานหลังจากนั้น ช่วงเวลาสำคัญของพิธีก็มาถึง
“ขณะนี้ถึงเวลาสำคัญของงานแล้ว ขอเชิญประธานอวี้มาตัดริบบิ้นด้วยครับ!!”
หลังจากสิ้นเสียงประกาศ กรรไกรสีทองก็ค่อย ๆ ถูกส่งต่อโดยบรรดาผู้บริหารไปเรื่อย ๆ ทีละคนจนไปถึงอวี้ฮ่าวหราน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]