ในเมื่อแก๊งวาฬยักษ์มันไม่ยอมเลิกราแบบนี้ งั้นเขาคงต้องจัดการมันให้สิ้นซากเหมือนที่ทำกับแก๊งมังกรคราม!
ไม่ว่ายังไง ฆ่าไปหนึ่งมันก็เท่ากับฆ่า การฆ่าไปสองมันจะไปแตกต่างอะไร?
หลังจากโยนอีกฝ่ายทิ้งไปเรียบร้อย อวี้ฮ่าวหรานก็ขับรถมุ่งหน้าไปที่บริษัทของตัวเองต่อ
ในทันที่เขาเข้าไปถึงบริษัท อวี้ฮ่าวหรานก็เรียกผู้จัดการหวังมาพบทันที
“เอาล่ะ รายงานสถานการ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับบริษัทในช่วงที่ผ่านมาเร็ว ๆ นี้ให้ผมฟังที”
“ได้ครับท่านประธาน!”
ผู้จัดการหวังแสดงสีหน้าเบิกบานอย่างเห็นได้ชัดเมื่อได้ยินคำถามนี้
“นับตั้งแต่ที่เราเปิดทำการใหม่อีกครั้ง ยอดการสั่งซื้อสินค้าที่เราได้รับมาก็เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมอย่างก้าวกระโดด และหัวหน้าแผนกการผลิตคนใหม่ที่เราเพิ่งรับมานั้นเป็นคนที่เก่งมาก ๆ ซึ่งมันทำให้ปัญหาในแผนกการผลิตลดลงอย่างเห็นได้ชัด และส่งผลให้เราสามารถผลิตสินค้าได้ดียิ่งขึ้น…”
เมื่อได้ฟังรายละเอียดต่าง ๆ อวี้ฮ่าวหรานก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“ดีมาก ผมขอบคุณที่คุณทำงานหนักให้กับผมเสมอมา”
ชายหนุ่มรู้สึกพึงพอใจมากกับลูกน้องของเขาคนนี้ และด้วยการที่ผู้จัดการหวังทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนหน้านี้ไม่นานนักเขาจึงเพิ่มเงินเดือนให้อีกฝ่ายจนฐานเงินเดือนของผู้จัดการหวังมากกว่าผู้บริหารคนอื่น ๆ เกือบเท่าตัว
ถึงแม้ว่าจากคำพูด อวี้ฮ่าวหรานจะขอบคุณอีกฝ่ายแค่ครั้งเดียว แต่ในใจกลับขอบคุณอีกฝ่ายอยู่หลายครั้ง เพราะการที่ผู้จัดการหวังคอยดูแลบริษัทให้ซะส่วนใหญ่ เขาจึงมีเวลาบ่มเพาะมากขึ้น
ไม่เช่นนั้นหากชายหนุ่มไม่มีคนที่ขยันและมีความสามารถอย่างผู้จัดการหวัง ป่านนี้คงต้องเอาแต่ดูแลบริษัทอย่างเดียวจนไม่ได้บ่มเพาะแน่นอน
“ขอบคุณท่านประธานที่ชม ผมรู้สึกยินดีจริง ๆ ที่ได้ทำประโยชน์ให้กับท่าน แต่ถ้าหากท่านไม่มีอะไรผมคงต้องขอตัวไปดูงานที่แผนกอื่นต่อก่อน” ผู้จัดการหวังโค้งตัวให้ก่อนที่จะขอตัวออกไปอย่างสุภาพ
“อืม ตามสบาย”
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าเล็กน้อย
แต่แล้วหลังจากที่ผู้จัดการหวังออกไปได้เพียงแค่ครู่เดียว โทรศัพท์ของ อวี้ฮ่าวหรานก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล ฮ่าวหราน ฉันได้ยินว่านายกลับมาจากไปเที่ยวพักผ่อนแล้วใช่ไหม?”
คนที่โทรเข้ามาคือเฉิงกัวอัน ซึ่งน้ำเสียงของเขาดูตื่นเต้นเล็กน้อย
“เรื่องของหลี่จิงเทียนที่นายขอให้ฉันช่วยมันใกล้เสร็จแล้ว ตอนนี้เหลือแค่นายต้องออกไปคุยด้วยตัวเอง แล้วจากนั้นทุกอย่างก็จะจบ บางทีเขาอาจจะได้ออกมาวันพรุ่งนี้เลยด้วยซ้ำ”
“อืม ผมเข้าใจแล้ว อีกสักพักผมจะไปหาคุณ”
อวี้ฮ่าวหรานเพิ่งจะนึกถึงเรื่องนี้ได้เช่นกันว่า เขาให้เฉิงกัวอันช่วยหลี่จิงเทียน ก่อนที่จะไปเที่ยว
พูดตามตรงเขาไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้นัก เพราะต่อให้มันจะไม่สำเร็จ หลี่จิงเทียนก็สมควรได้รับบทเรียนอยู่แล้ว ถ้าหากหลี่ชงซานไม่เอ่ยปากขอเขา ก็คงไม่มีทางช่วยหลี่จิงเทียนให้ออกมาจากคุกแน่นอน
เวลา10:30น.
อวี้ฮ่าวหราน ขับรถไปถึงบริษัทชิวเฮิงพอดี
เฉิงชิวอวี้ออกมารอรับเขาอยู่ที่หน้าประตู
“ฮ่าวหราน นายไปเที่ยวทำไมถึงไม่บอกฉันบ้าง ฉันเองก็อยากไปเที่ยวเหมือนกันนะ!”
ถึงแม้ว่าเธอจะถูกสอนให้ทำตัวมีมารยาทอยู่เสมอและเก็บอารมณ์ได้เก่ง แต่เมื่อเป็นเรื่องของอวี้ฮ่าวหราน เธอกลับอดเก็บความร้อนใจของตัวเองเอาไว้ไม่ไหวจนต้องออกมารอเขาและบ่นขึ้นมา
“คราวหน้านะ คราวหน้า หากว่างเมื่อไหร่ ผมจะพาคุณไปด้วยแน่นอน”
อวี้ฮ่าวหรานรู้สึกจนใจสุดขีด เขาทำได้แต่เอ่ยผลัดวันไปก่อน เพราะขืนเขาพาเฉิงชิวอวี้ไปเที่ยวด้วยจริง ๆ ละก็ หลี่หรงคงโกรธจนหัวระเบิดแน่นอน
เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูกระอักกระอ่วนของอวี้ฮ่าวหราน เฉิงชิวอวี้ก็ถอนหายใจ ก่อนที่จะพูดว่า “ช่างเถอะ ๆ ฉันคิดว่าต่อให้มีคราวหน้าคุณก็คงไม่พาฉันไปด้วยอยู่ดี รีบขึ้นไปหาพ่อของฉันเถอะ พ่อฉันกำลังรอคุณอยู่”
หลังจากรู้จักกันมาได้หลายเดือน เมื่อได้ยินการตอบกลับแบบนี้ของอวี้ฮ่าวหราน เธอก็รู้ได้ทันทีว่ามันคือการปฏิเสธอย่างสุภาพ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]