เนื่องจากยังไม่อยากตายก่อนวัยอันควร หลี่หรงจึงเลือกที่จะไม่กินบะหมี่ในหม้อที่อวี้ฮ่าวหรานทำไหม้
เมื่อไม่เหลือทางเลือกอื่น พวกเขาจึงพากันลงไปที่ชั้นล่างเพื่อหาร้านอะไรในละแวกใกล้เคียงกิน
ในระหว่างที่เดินผ่านสวนสาธารณะ หลี่หรงสังเกตเห็นคู่สามีภรรยาชราที่จูงมือกันมาเดินเล่นด้วยสีหน้ามีความสุข
ภาพนี้มันทำให้ในหัวของเธอเกิดภาพจินตนาการบางอย่างขึ้นมา ซึ่งมันทำให้เธออดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้น
“พี่เขย พี่คิดว่าพอเราแก่ตัวไป เราจะมีชีวิตที่มีความสุขและสงบเหมือนคู่สามีภรรยาชราคู่นั้นหรือเปล่า?”
อวี้ฮ่าวหรานยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามนี้ “ไม่ต้องห่วง เราไม่แก่กันหรอก”
น้ำเสียงของเขาดูมั่นใจจนหลี่หรงงุนงง
“หืม?”
อย่างไรก็ตาม หลังจากครุ่นคิดไปได้สักพัก หลี่หรงก็เข้าใจไปว่าการที่พี่เขยของเธอตอบกลับมาแบบนี้ มันคงเป็นเพราะว่า พี่เขยของเธอไม่ได้มีความคิดที่จะอยู่กับเธอจนแก่เฒ่า ซึ่งมันทำให้เธอพูดอะไรไม่ออก
…
คืนเดียวกัน ในที่สุดตระกูลอู๋ก็ได้ทราบข่าวการตายของอู๋เส้าฮัว!
“เส้าฮัวของแม่!!!! ฮือ…ลูกรักของแม่ ทำไมลูกถึงตายก่อนแม่ไปแบบนี้!!”
หญิงวัยกลางคนร้องไห้จนแทบขาดใจ เธอโผเข้าไปกอดร่างของอู๋เส้าฮัว พร้อมกับสะอึกสะอื้นราวกับใจจะขาด
“บัดซบ! บัดซบ! ไอ้สารเลวอวี้ฮ่าวหราน!!!!”
ที่อยู่ข้าง ๆ หญิงวัยกลางคนคืออู๋หมิ่น ผู้นำตระกูลอู๋ เขากระทืบเท้าหลายครั้งด้วยความอาฆาตแค้นสุดขีด
เขาไม่นึกเลยเช่นกันว่า แผนที่เขาวางมาอย่างดี อย่างการใช้ให้ลูกชายตัวเองไปจัดการมัน กลับผิดพลาดร้ายแรงได้ขนาดนี้
นักฆ่าทั้งหมดตายโดยที่อวัยวะภายในแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี แถมลูกชายของเขาเองก็ตายตาไม่หลับ!
มันบอกได้อย่างชัดเจนว่าก่อนตายลูกชายของเขาหวาดกลัวมากขนาดไหน!
“ไม่! ตระกูลอู๋ของฉันจะไม่ปล่อยให้ไอ้สารเลวอวี้ฮ่าวหรานมันเล่นงานได้อีกแล้ว!”
ดวงตาของอู๋หมิ่นในตอนนี้แดงก่ำจนดูราวกับว่ามันเหมือนเหล็กที่โดนไฟลนจนแดงฉาน
“คุณจะต้องฆ่าไอ้ลูกหมานั่นให้ได้! คุณต้องแก้แค้นให้กับลูกชายของเรา เส้าฮัวจะต้องไม่ตายเปล่า!”
ในขณะที่ร้องไห้ปานจะขาดใจ หญิงวัยกลางคนหันมาตะโกนใส่อู๋หมิ่น ด้วยสีหน้าเคียดแค้นสุดขีด แน่นอนว่าเธอคือภรรยาของอู๋หมิ่น
อู๋เส้าฮัวคือลูกชายของเธอ ดังนั้นเธอจะไม่โกรธแค้นได้ยังไง?
อู๋หมิ่นมองไปที่ภรรยาและศพของลูกชายตัวเองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจอะไรบางอย่างได้อย่างเด็ดขาด
“แน่นอน! เดี๋ยวฉันจะติดต่อหาคนเหล่านั้น!”
อันที่จริงตระกูลอู๋นั้นไม่ใช่ธรรมดา ตระกูลอู๋นั้นมีความสัมพันธ์กับสำนักผู้บ่มเพาะลึกลับมานานแล้ว
แต่สาเหตุที่อู๋หมิ่นไม่เคยติดต่อไปขอความช่วยเหลือเป็นเพราะค่าใช้จ่ายนั้นสูงมากเกินไป
ค่าจ้างที่สำนักผู้บ่มเพาะลึกลับต้องการนั้น มันเพียงพอที่จะทำให้ตระกูลอู๋แทบจะหมดตัวได้เลย
แต่ในตอนนี้เมื่อลูกชายของเขาตาย และตระกูลของเขาก็เสียหายยับเยินหลายครั้งเพราะอวี้ฮ่าวหราน ดังนั้นอู๋หมิ่นจึงรู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรจะเสียอีก เงินทั้งหมดที่เหลือเขาขอใช้มันเพื่อเอาคืนเป็นครั้งสุดท้าย!
…
ในขณะเดียวกัน ในห้อง VIP ของโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง
หลี่อิงไห่แห่งตระกูลหลี่กำลังรอใครบางคนด้วยสีหน้ากระวนกระวาย
“ทำไมยังไม่มาอีก…ทำไมยังไม่มาอีก?”
แต่แล้วในขณะที่เขากำลังจะหมดความอดทน ประตูของห้องก็ถูกเปิดออก และชายสองคนก็เดินเข้ามา
“ฮ่า ๆ ไม่นึกเลยว่าพี่หลี่จะมารอพวกฉันก่อนแบบนี้!”
ในสองคนที่เข้ามาในห้อง หนึ่งในนั้นคือชายชรา ซึ่งเขาเป็นคนเอ่ยทักขึ้นก่อน
หลี่อิงไห่รีบลุกขึ้นทันที เมื่อได้ยินคำทักทายของอีกฝ่าย เขารีบแสดงสีหน้าประจบประแจงอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]