EP08
“กลับไปได้แล้ว” ทิศเหนือบอกยิหวาที่กำลังคลอเคลียร่างตัวเองอยู่ด้วยน้ำเสียงนึกรำคาญในช่วงสวยของอีกวัน หลังจากที่เมื่อคืนเขาได้ทำนิวาให้เจ็บปวดหัวใจเจียนตาย เกมเร่าร้อนก็ดำเนินต่อจนจบลงที่ห้องนอนไปหลายยก..
“ยิหวาขออยู่ต่ออีกหน่อยไม่ได้หรอคะ”
“จะอยู่ก็ตามใจ ฉันไปเอง”
“ก็ได้ค่ะ ยิหวากลับก็ได้” ทิศเหนือที่กำลังลุกจากเตียงนอนหยุดชะงักเมื่อยิหวายอมตอบตกลงว่าจะกลับ หญิงสาวร่างกายเปลือยเปล่าจึงลุกขึ้นแล้วเดินนวยนาดมาหยิบผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่าง พร้อมกับเดินวกกลับมาหาชายหนุ่ม “ไว้เจอกันใหม่นะคะ”
ใบหน้าสะสวยหวังจะยื่นเข้ามาหอมแก้มชายหนุ่ม แต่กลับต้องหยุดไว้และชักใบหน้ากลับเพราะสายตาแข็งกร้าวที่ตวัดมองบ่งบอกว่าเขาไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับใบหน้าตัวเองนอกเหนือจากเวลาบนเตียง..
“ขอโทษค่ะ งั้นยิหวากลับก่อนนะคะ”
เธอทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก็เดินออกมาจากห้องนอนของทิศเหนือมาหยิบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายบนพื้นบริเวณโซฟาขึ้นมาสวม พอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็เดินมาที่รถยนต์คันหรูซึ่งจอดอยู่หน้าบ้านของทิศเหนือโดยที่ไม่รู้ว่ามีใครบางคนแอบดักถ่ายรูปเอาไว้..
แฉะ! แฉะ! แฉะ!
Line!
เสียงแอปพลิเคชั่นชื่อดังแจ้งขึ้น มือหนาจึงหยืบมือถือขึ้นมาเปิดดู กฤษฎาเหลือบมองรูปภาพที่นักสืบส่งมาด้วยความรู้สึกไม่พอใจเมื่อคู่หมั้นของตนหายออกจากบ้านไปเมื่อคืน และออกจากบ้านผู้ชายในช่วงสายด้วยสภาพใบหน้าหมดเรี่ยวแรง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอพึ่งจะไปทำอะไรมา พอระงับอารมณ์ได้ประมาณหนึ่งร่างหนาจึงเดินเข้าไปในบ้านของพงศกรผู้เป็นพ่อของยิหวาทันที
“อ้าวคุณกฤษมีธุระอะไรรึป้าวครับ แล้วยัยหวาไม่ได้มาด้วยกันหรอ”
“ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ เพราะเมื่อคืนผมเลิกงานดึก แต่พอกลับมาก็ไม่เห็นยิหวาอยู่บ้านแล้ว”
“คุณกฤษหมายความว่ายิหวาแอบออกไปหาผู้ชายคนนั้นอีกแล้วหรอครับ” พงศกรถามออกมาด้วยสีหน้าที่เจื่อนลงเล็กน้อย เขารู้ดีว่ายิหวาไม่เต็มใจหมั้นแต่ก็ต้องทำเพื่อผลประโยชน์ทางบริษัท
“คงไม่ต้องให้ผมอธิบายอะไรหรอกใช่มั้ย?” กฤษฎาวางมือถือลงโต๊ะที่ปรากฏรูปยิหวาเดินออกมาจากบ้านของทิศเหนือ ซึ่งเขาก็เคยเตือนและสั่งสอนเธอไปหลายรอบแล้วแต่ดูเหมือนว่ายิหวาจะไม่เข็ด อีกทั้งฝ่ายชายยังเล่นด้วย..
“ผมขอโทษแทนยัยหวาด้วยนะครับ..”
“อย่าขอโทษผมเลยครับ เอาเวลาไปสั่งสอนลูกสาวคุณเถอะ ก่อนที่ผมจะหมดความอดทนยกเลิกงานแต่ง ถ้ามันเป็นแบบนั้นขึ้นมาจริงๆผลประโยชน์ของเราคงต้องจบเพียงเท่านี้”
“ครั้งหน้ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้วครับ..” ในขณะที่ทั้งสองกำลังเคลียร์กันสายตาของพงศกรก็เหลือบไปเห็นร่างของลูกสาวที่เดินเข้ามาข้างใน ร่างเธอหยุดชะงักเมื่อเห็นการมาของกฤษฎา ทั้งที่เธอเลี่ยงที่จะเจอหน้ากฤษฎามาที่บ้านของผู้เป็นพ่อแต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด..
“คุณกฤษ..”
“ยัยหวาฉันมีเรื่องจะคุยกับแก..” เขาพูดออกมาเสียงรอดไรฟันพงศกรลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินไปคว้าแขนยิหวาเดินเลี่ยงมาที่มุมอัปของบ้าน
“เตี่ยยิหวาเจ็บ!”
“เจ็บแล้วแกเคยจำไหม”
“โอ๊ย..เตี่ยพูดเรื่องอะไร”
“เรื่องอะไรแกคงจะรู้ดี เมื่อคืนแกไปไหนมา?”
“หวาจะไปไหนมันก็เรื่องของหวา หวาไม่ใช่เด็กสามขวบแล้วนะ!” ยิหวาพูดกระแทกเสียง กลับมาเหนื่อยๆต้องมาต่อปากต่อคำกับผู้เป็นพ่อไหนจะคู่หมั้นที่เธอกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์อีกไม่กี่เดือนอีก ทุกอย่างรอบกายมันหน้าหงุดหงิดไปหมด..
“นี่แกไม่รู้เลยรึไงว่าคุณกฤษเขาส่งคนตามตัวแก แล้วตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าแกแอบไปเอากับลูกชายคุณเกรียงไกรมาอีกแล้ว!”
“ก็ยิหวารักเหนือ ยิหวาไม่ได้รักนายนั้น เตี่ยเลิกบังคับยิหวาสักทีได้ไหม”
“ต่อไปนี้แกห้ามไปยุ่งกับเขาอีก ก่อนที่ฉันกับแกจะไม่มีที่ซุกหัวนอนเพราะธุรกิจล้มละลาย จำใส่สมองไร้รอยหยักของแกไว้ด้วย!!”
พงศกรพูดออกมาด้วยความโมโห แล้วเดินออกมาจากบริเวณนั้น ก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงที่เดิม
“หวังว่าพรุ่งนี้ผมจะเห็นยิหวาอยู่ในห้องนะครับ” กฤษฎาลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมกับส่งสายตาข่มขู่ให้พงศกร “แต่ถ้าเหตุการณ์แบบนี้ยังเกิดขึ้นอีกเราคงต้องจบกัน”
ทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นร่างหนาก็เดินออกมาจากตัวบ้านด้วยอารมณ์ที่กำลังร้อนลุ่มอยู่ ก่อนที่เขาจะเริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วขับออกมาบนท้องถนนด้วยความเร็วสูง..
“ครับ ผมจะจัดการให้ ตาเหนือเขาก็มีคู่หมั้นอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงว่าจะเกิดขึ้นอีก ไว้ใจผมได้เลยครับ” เกรียงไกรพูดผ่านปลายสายในขณะที่เดินออกมาจากองค์กรลับเกี่ยวกับคดีที่กำลังทำอยู่ในช่วงเวลาเลิกงาน..
( ขอบคุณอีกครั้งนะครับ ผมคงจะสบายใจอีกขึ้นมาก ถ้าสิ่งที่คุณไกรพูดมันจะเกิดขึ้นจริง )
“ผมเอาชื่อของผมเป็นประกัน ว่าครั้งนี้ตาเหนือจะไม่ไปยุ่งกับหนูยิหวาอีก”
( งั้นก็แค่นี้ก่อนนะครับ ผมรบกวนเวลาคุณไกรมามากพอแล้ว )
“ครับ..”
ตี้ด ! เกรียงไกรกดตัดสายแล้วยื่นมือถือให้ดนัยเก็บไว้ ก่อนที่เขาจะสอดตัวเข้าไปนั่งในรถตู้พลางถอนหายใจออกมากับเรื่องที่พึ่งได้รับฟัง เมื่อคืนลูกชายตัวดีของเขาได้ไปสร้างเรื่องเอาไว้อีกแล้วจนพ่อของยิหวาต้องโทรมาบอกให้รีบจัดการกับทิศเหนือ เพราะกฤษฎากำลังส่งคนตามดูยิหวาอยู่ เกรียงไกรไม่ได้กลัวอำนาจของกฤษฎาเขาแค่ไม่อยากให้ทิศเหนือต้องกลายเป็นคนที่ไปทำครอบครัวคนอื่นแตกแยก อีกทั้งเขายังมีชื่อเสียง..
“คุณไกรจะกลับบ้านเลยมั้ยครับ”
“แวะไปบ้านไอ้เหนือ”
“ครับคุณไกร” ดนัยตอบในขณะที่กำลังขับรถอย่างใจจดใจจ่อจนผ่านมาหลายนาทีรถตู้ก็เลี้ยวเข้ามาจอดที่บ้านของชายหนุ่ม ซึ่งแต่ก่อนเขาเคยอยู่คอนโดแต่ย้ายออกมาซื้อบ้านอยู่เพียงลำพังเมื่อไม่กี่เดือน..
“บ้านช่องตัวเองไม่มีอยู่รึไง โผล่หัวมาทุกวันอยู่ได้” ทิศเหนือที่กำลังดูดบุหรี่อยู่หางตาเหลือบไปเห็นการมาของเกรียงไกรพูดขึ้น ร่างหนาที่สวมเสื้อช็อปวิศวะพาดขาก่ายบนโต๊ะที่มีขวดเบียร์ตั้งอยู่ ตรงหน้าค่อทีวีจอยักษ์ที่กำลังฉายภาพหนังอีโรติกฉากบนเตียง เกรียงไกรจึงเดินเข้าไปคว้ารีโมทแล้วกดปิด..
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับแก”
“คุยเหี้ยไรนักหนาทุกวัน” เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงห้วนๆก่อนจะทำท่าทีเหมือนจะเดินหนีขึ้นไปบนบ้าน
“ฉันจะให้หนูนิย้ายเข้ามาอยู่กับแกเร็วๆนี้ เตรียมตัวต้อนรับว่าที่คู่หมั้นแกด้วย” คำพูดของเกรียงไกรทำให้ร่างหนาหยุดชะงัก เรียวคิ้วขมวดพันกันยุ่ง ริมฝีปากหยักที่คาบมวลบุหรี่คายลงพื้นแล้วใช้ปลายเท้าที่ยังสวมรองเท้าผ้าใบอยู่เหยียบขยี้มันจนเละ ใบหน้าหล่อเหลาหันกลับไปมองหน้าเกรียงไกร
“เพื่อ?”
“แกจะได้เลิกทำนิสัยเหี้ยๆยังไงล่ะ แล้วซากถุงยางก็เก็บด้วย อย่าทำตัวสถุนเหมือนฉันไม่เคยสั่งสอนแก”
“หึ ยัยนั้นเอาอะไรไปฟ้องอีกล่ะ” ทิศเหนือเหลือบมองซากถุงยางที่ใช้แล้ว ซึ่งติดอยู่บริเวณไกล้ๆโซฟา ชายหนุ่มคิดว่านิวาเป็นคนเอาเรื่องนี้ไปบอกเกรียงไกร เพราะเมื่อคืนเขาจงใจทำให้เธอเห็น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทาสรัก