วันรุ่งขึ้นมณีอินเข้ามาทำงานสายเพราะอาเจียนไม่หยุดเธอจึงให้นิตยามาก่อน เมื่อมาถึงหญิงสาวก็ถูกเรียกเข้าไปที่ห้องของอมรเดชทันที
“ผมมีเรื่องจะถามคุณตรงๆ และหวังว่าคุณคงตอบผมได้นะอิน”
“ค่ะ” หญิงสาวมองหน้าเขาอย่างงงๆ
“คุณท้องใช่ไหม” หญิงสาวตะลึงกับคำถามจนพูดอะไรไม่ถูก
“ว่าไงใช่หรือเปล่า” เขาถามย้ำ
“ใช่ค่ะ” หญิงสาวตอบ
“ทำไมคุณทำตัวแบบนี้ คุณเป็นตัวอย่างที่ดีของพนักงานที่นี่มาโดยตลอดแล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับคุณ หึ ตอบผมซิ” อมรเดชถามเสียงเรียบ
“ไม่มีคำตอบค่ะ ดิฉันขอลาออกตั้งแต่วันนี้ค่ะ” หญิงสาวบอก
“คุณคิดว่ามันเป็นทางออกหรือไงที่ทำแบบนี้”ชายหนุ่มถาม เขาเองไม่ต้องการให้เธอลาออกเพราะเรื่องแค่นี้ เจาเองก็รักหญิงสาวเหมือนน้องสาวและพอรู้เรื่องจากนพมาศก็อึ้งไปเหมือนกัน
“เหตุผลนี้ใช่ไหมที่คุณไม่ต้องการทำงานกับคุณจามาลต่อ”
“บก. อย่าเอ่ยชื่อเขาให้อินได้ยินอีกนะคะ อินเกลียดเขา”
“แต่เขาเป็นพ่อของลูกคุณนะอิน คุณปฏิเสธข้อนี้ไม่ได้” ทั้งสองตะโกนใส่กันจนไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครมายืนอยู่ตรงประตูห้อง
“อินจะบอกกับลูกอินว่าพ่อเขาตายไปแล้วทุกอย่างก็จบ” หญิงสาวยักไหล่
“ทั้งที่พ่อเขายังอยู่แถมยังเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของอัลไบม่านะหรือคุณกำลังจะทำร้ายลูกคุณเองนะมณีอิน”
“อินเลี้ยงแกได้ เขาเกิดมาด้วยความไม่ตั้งใจ” หญิงสาวบอก
“คุณรู้ได้ยังไง” ทั้งมณีอินและอมรเดชหันไปทางประตูพร้อมกัน หญิงสาวใบหน้าซีดเผือดและอุทานออกมาเบาๆ
“จามาล”
“คุณกำลังจะพรากพ่อพรากลูกนะอิน คุณเกลียดผมมากขนาดนั้นเลยหรือถึงไม่ยอมให้ผมรู้เรื่องลูก” ชายหนุ่มเดินเข้ามาหาหญิงสาว ทั้งสองยืนประจันหน้ากันนิ่ง จามาลจึงเป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน
“เขาก็เป็นเลือดเนื้อของผมเหมือนกันนะ ผมไม่ยอมให้คุณเอาแกไว้คนเดียวหรอก”
“ค่อยๆพูดกันดีกว่านะครับ ใจเย็นๆนั่งลงแล้วค่อยคุยกัน” อมรเดชบอก
“อินใช้เหตุผลนะอย่าใช้อารมณ์” ชายหนุ่มบอกก่อนจะเดินออกไปและปล่อยให้ทั้งสองตกลงกันเพียงสองคน
นิตยาที่ยืนรอลุ้นอยู่ด้านนอกตรงเข้ามาหาอมรเดช
“เป็นไงบ้างคะ บก.คนนี้หรือคะคุณจามาลหล่อเป็นบ้าเลย” หญิงสาวยิ้มอย่างเพ้อฝัน
“ใช่ แล้วทำไมไม่มีใครโทรเข้าไปบอกกันบ้าง” ชายหนุ่มตำหนิลูกน้อง
“แหมก็มัวแต่มองจนเพลินนะคะก็เลยลืมโทรบอก” เลขาสาวหันมายิ้มเขินๆ
“คุณลุงคะได้ข่าวว่าคุณจามาลมาตอนนี้อยู่ที่ไหนคะ” นพมาศวิ่งออกมาจากห้องของตนเองอย่างหืดหอบ
“กำลังคุยอยู่กับมณีอินในห้อง” อมรเดชบอก นพมาศก้าวจะเดินไปที่ห้องทำงานของอมรเดชแต่นิตยาดึงแขนเอาไว้ก่อน
“จะไปไหนมิทราบ”
“ก็ไปหาคุณจามาลนะซิ” นพมาศหันมามองนิตยาตาเขียว
“ไม่ต้องเธอมานี่เลย” อมรเดชดึงตัวนพมาศออกไปจาดตรงนั้น
นิตยาได้แต่มองหน้าประตูห้องทำงานของอมรเดชอย่างเอาใจช่วยเพื่อนสาว
“ขอให้แกใจอ่อนทีเถอะนะอิน” หญิงสาวพึมพำกับตนเองเบาๆ
“ว่าไงอินคุณทำไมไม่บอกผมว่าท้อง” ชายหนุ่มถามและดันให้หญิงสาวนั่งลงส่วนตัวเองใช้สองแขนจับกับขอบเก้าอี้เพื่อกั้นไม่ให้หญิงสาวหนีจากเขา
“เขาเป็นลูกของฉันคนเดียวเท่านั้นคุณไม่มีสิทธิ์” หญิงสาวเน้นเสียงใส่หน้าชายหนุ่ม
“คุณแน่ใจนะว่าถ้าไม่มีผมเขาจะเกิดขึ้นมาได้เอง” ชายหนุ่มยิ้มใส่ตาหญิงสาว
“บ้า คนลามก”
“คุณรู้หรือเปล่ากว่าผมจะเคลียร์งานเสร็จก็แทบแย่ เพื่อมาหาคุณ” ชายหนุ่มบอกสีหน้าอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด
“มาหาฉันทำไม” หญิงสาวถาม
“เพราะว่าผม...ต้องการคุณ” น้ำเสียงของเขาจริงจังและหนักแน่น
“ต้องการงั้นหรือ” หญิงสาวทวนคำของเขาช้า ชายหนุ่มพยักหน้า
“คุณคงต้องการผู้หญิงไปทั่วเลยหรือไง” น้ำตาแห่งความน้อยใจไหลลงมาให้เขาเห็นจนได้ เธอจึงเมินหน้าหนี
“คุณร้องไห้ทำไม”
“คุณไม่น่ามาที่นี่เลย ชีวิตของฉันกำลังจะมีความสุขอยู่แล้วแต่คุณก็เข้ามาวุ่นวายอีกจนได้ ฉันถามคุณจริงๆเถอะนะคุณแค้นและเกลียดฉันมากขนาดนี่เลยหรือไงถึงได้ตามจองล้างจองพาลฉันไม่ยอมเลิกแบบนี้” หญิงสาวมองเขาผ่านม่านน้ำตา ชายหนุ่มถอยออกมาทรุดนั่งลงตรงข้ามหญิงสาวและจ้องมองหน้าเธอนิ่งนาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะเลทรายสีน้ำผึ้ง