มีเสียงคนเข้ามา มู่ซืออวี่รีบจัดแจงเสื้อผ้า แกล้งทำเป็นล้างมือ
“ท่านแม่…” ใบหน้าน่ารักของลู่จื่ออวิ๋นเข้ามาใกล้ “หน้าท่านแดงมาก ท่านแต้มชาดใช่หรือไม่?”
“อย่าซน” ความร้อนในอกของมู่ซืออวี่ที่เพิ่งลดลงพุ่งขึ้นมาอีกครั้ง “อยากกินของอร่อยหรือไม่? ถ้าอยากกินก็ไปก่อไฟ ข้าจะทำอาหารแล้ว”
บรรยากาศในบ้านดูผิดแปลกไป มู่ซืออวี่ไม่กล้ามองสบตาลู่อี้ ลู่อี้ทำงานอยู่เงียบ ๆ ส่วนลู่เซวียนส่งเสียงหัวเราะแปลก ๆ ออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า
ปึก!
จู่ ๆ มู่ซืออวี่ก็ชนลู่อี้เสียอย่างนั้น
“ข้าขอโทษ” นางกล่าวขอโทษพลางลูบหน้าผากตัวเอง
ลู่อี้รับเอาของที่อยู่ในมือนาง แล้วนำไปให้อาหารไก่ในลานบ้าน
กุ๊ก ๆ
ทันทีที่โรยอาหารลงไป เจ้าพวกลูกเจี๊ยบก็กระโดดอย่างมีความสุข
มู่ซืออวี่มองไปทางลู่อี้ครั้งแล้วครั้งเล่า รูปร่างผ่าเผยนั้นราวกับภูผา แค่ยืนอยู่ที่นั่นก็ทำให้คนรู้สึกปลอดภัยแล้ว
“กระทะจะไหม้แล้ว” ลู่ฉาวอวี่หยุดอยู่ข้างนาง น้ำเสียงราบเรียบนั้นแฝงการกลั่นแกล้งเอาไว้นิด ๆ “ข้าไม่อยากกินขนมเปี๊ยะไหม้ อันที่จริงคำแนะนำของท่านอาก็ดี ข้าย้ายไปนอนกับท่านอาก็ได้”
มู่ซืออวี่ได้สติทันที “อย่าพูดจาไร้สาระ ข้ากำลังคิดบางสิ่งอยู่ต่างหาก”
“อ้อ” ลู่ฉาวอวี่ไม่ได้เปิดโปงความปากแข็งของนาง
ตอนกินข้าว มู่ซืออวี่กำลังจะหยิบขนมเปี๊ยะชิ้นหนึ่ง บังเอิญว่าลู่อี้ก็อยากจะกินขนมเปี๊ยะเช่นกัน ตะเกียบสองคู่จึงยื่นออกมา ชะงักค้างอยู่บนขนมเปี๊ยะชิ้นนั้น
ทั้งสองเงยหน้าขึ้นมองคนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ก่อนจะถอนสายตากลับพร้อม ๆ กัน
และแล้วตะเกียบอีกคู่ก็คีบขนมเปี๊ยะชิ้นนั้นขึ้นมา
ลู่อี้และมู่ซืออวี่มองเฉิงเหย่าจิน*[1] คนนั้น
“ข้าว่าขนมเปี๊ยะชิ้นนี้คงร้อนไปสักหน่อย พวกเจ้าคงไม่อยากกิน เช่นนั้นข้าจะกินแทนเอง” ลู่เซวียนชิมหนึ่งคำแล้วเอ่ยอย่างกำกวม “กรอบกว่าขนมเปี๊ยะชิ้นอื่นจริง ๆ ของอร่อยย่อมมีคนฉกไปกินเป็นธรรมดา”
มู่ซืออวี่ไม่เคยเป็นคนกระบิดกระบวน นางพยายามทำจิตใจของตัวเองให้สงบแล้วกลับสู่สภาพดังเดิม มีเพียงนางที่รู้ดีว่าจิตใจของตนกำลังกระสับกระส่าย
หญิงสาวไม่กล้ามองสบตาลู่อี้แม้แต่น้อย ถึงนางจะไม่ได้กล่าว ไม่ได้ทำอะไร แต่ดวงตาคู่นั้นก็มองมาราวกับว่าลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง แผดเผานางให้เป็นจุณ ความรู้สึกนี้แปลกนัก นางทำอะไรไม่ถูกอีกต่อไป
หลังจากกินข้าวเย็นแล้ว มู่ซืออวี่ก็เก็บของในครัวแล้วย้ายถังอาบน้ำเข้าไปในห้องนอน
“ข้าทำเอง” ลู่อี้ยืนอยู่ข้างหลังนาง
มู่ซืออวี่ได้ยินเสียงของเขาจึงวางถังไม้ขนาดใหญ่ที่เคลื่อนย้ายยากลงมา
นางดูเขาย้ายมันอย่างง่ายดายแล้วตามไปขอบคุณเขา
“ขอบคุณ”
“ข้าอยู่บ้าน งานหนักเช่นนี้เรียกข้าก็ได้แล้ว เจ้าอยู่บ้านตรากตำทุกวัน ข้าไปทำงานช่วยอะไรไม่ได้ ในตอนที่ข้าอยู่ เจ้าเรียกข้าก็พอ” ลู่อี้เอ่ยต่อไปว่า “อีกเรื่องก็คือ เจ้าเก็บนี่ไว้”
“นี่คืออะไร?”
นางเห็นเขาส่งห่อผ้าห่อหนึ่งมาให้จึงรับมาเปิดดู
“เงินรึ?” มู่ซืออวี่มองเขาด้วยความประหลาดใจ “เอามาจากไหน? เจ้ายังไม่ถึงเวลารับเบี้ยหวัดประจำเดือนไม่ใช่หรือ?”
“ข้าช่วยเหลือผู้อื่นเล็กน้อย เขาจึงให้ข้ามา” ลู่อี้กล่าวด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ
มู่ซืออวี่รู้สึกไม่สบายใจ นางสบตาลู่อี้ “เงินนี้… พวกเรารับมาได้จริงรึ? เจ้าฉลาดเช่นนี้ ข้าจะไม่พูดให้มากความ เจ้าเข้าใจความหมายของข้าใช่หรือไม่?”
“ก่อนหน้านี้เจ้าเคยพูดไว้ ข้าจดจำได้เสมอ นี่เป็นเงินที่ได้มาอย่างถูกต้อง ไม่สกปรกอย่างแน่นอน” ลู่อี้มองนางด้วยสายตาอบอุ่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...