หลังจากที่ออกมาจากศาลาว่าการ มู่ซืออวี่ก็ตกอยู่ในภวังค์
ผู้จัดการร้านเล่าว่าหวังซานคนนั้น เถ้าแก่เป็นคนฝากฝังมา บอกว่าเป็นญาติของเถ้าแก่ ตั้งแต่หวังซานมาที่นั่น เรื่องภายในร้านก็ถูกชี้ไม้ชี้มือสั่งไม่หยุดหย่อน แม้แต่ผู้จัดการร้านก็ทำอะไรเขาไม่ได้
ฟังดูราวกับเป็นสงครามกลางเมืองแย่งชิงชื่อเสียงลาภยศ นางรู้สึกอยู่ตลอดว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับนาง
มูซืออวี่เองก็ไม่แน่ใจ แต่พอปฏิเสธข้อเสนอจากภัตตาคารหมายเลขหนึ่งไป ภัตตาคารเจียงซื่อก็ดันเกิดปัญหาขึ้นมา ทั้งหมดนี้ค่อย ๆ เผยออกมาอย่างแยบคาย ราวกับมีคนจงใจวางแผนอย่างไรอย่างนั้น
“ท่านอย่ากังวลใจไป นายอำเภอฉินเป็นคนดี เขาจะต้องสืบให้กระจ่างแน่นอน”
“ใช่แล้ว”
มู่ซืออวี่ยิ้มน้อย ๆ “ขออภัย วันนี้ข้ารบกวนเวลาพวกท่านมากแล้ว”
“ไม่เลย ไม่เลย อย่าเอ่ยเช่นนั้นสิ”
“ข้ายังต้องไปซื้อสุรา…”
หลังจากซื้อสุราจำนวนหนึ่งมาแล้ว นางจึงซื้อของใช้จิปาถะมาด้วยไม่น้อยเพราะมีเกวียนวัวมา ตอนที่กำลังกลับบ้านนั้น ข้างหลังเกวียนวัวก็เต็มไปด้วยข้าวของมากมายหลายชนิด ทำให้มู่ต้าหนิวอิจฉายิ่งนัก
เมื่อมาถึงหมู่บ้านก็ค่ำมืดดึกดื่นแล้ว นางจ่ายเงินให้มู่ต้าหนิวและเอ้อร์หนิวคนละ 20 อีแปะ
“ไม่ใช่ตกลงกันไว้ที่ 10 อีแปะหรือ? เหตุใดจึงให้มากเช่นนี้?”
“วันนี้ทั้งวันใช้เวลานานไปสักหน่อย” มู่ซืออวี่พูดขึ้น “รบกวนทั้งสองแล้ว”
“อย่าได้เกรงใจเช่นนั้น ภายหน้าถ้ามีเรื่องอะไรก็เรียกพวกเราได้”
ข้าวของบนเกวียนวัวถูกยกลงมา
มู่ซืออวี่ไหว้วานให้มู่ต้าหนิวขับเกวียนวัวไปส่งที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน รอกระทั่งนางจัดแจงของเหล่านั้นเสร็จแล้ว จึงจะเอาสุราสักไหไปขอบคุณหัวหน้าหมู่บ้าน
“เจ้าซื้อสิ่งใดมามากมายกัน” ลู่เซวียนพึมพำอยู่ที่หน้าต่าง “เตียงหลังนั้นเจ้าขายออกไปแล้วหรือ?”
“ขายออกไปแล้ว” มู่ซืออวี่พูดอย่างลึกลับ “อยากรู้หรือไม่ว่าขายได้เงินเท่าไหร่?”
“ใครจะไปอยากรู้” ลู่เซวียนปิดหน้าต่างดังฉับ
“ปากแข็ง” มู่ซืออวี่ไม่สนใจเขาอีก นางหันมาจัดของต่อไป
ลู่ฉาวอวี่ออกมาจากห้อง แล้วช่วยยกของเหล่านั้นเข้าไปในบ้าน
“ท่านพี่กินข้าวหรือยัง?” ลู่จื่ออวิ๋นถามลู่ฉาวอวี่ “ถ้ายัง นี่เป็นขนมเปี๊ยะหน้างา ข้าซื้อมาฝากท่าน”
“ข้ากินแล้ว” ลู่ฉาวอวี่กล่าว “เจ้าเอาไปไว้ในครัว ตอนเย็นค่อยกิน”
มู่ซืออวี่จัดเก็บข้าวของทั้งหมดให้เข้าที่เข้าทาง จากนั้นจึงเก็บเงินที่ได้รับมาในวันนี้
เสียงเงินที่อยู่ในกล่องทำให้นางรู้สึกปลอดภัยเสมอ
“เสื้อผ้าของข้าเล่า?” มู่ซืออวี่เพิ่งสังเกตเห็นว่าห้องเปลี่ยนแปลงไป
“ย้ายไปไว้ที่ห้องนอนท่านพ่อแล้ว” ลู่ฉาวอวี่ยืนอยู่ที่ประตู “ตอนนี้ห้องนี้เป็นห้องของน้องสาวข้าเพียงคนเดียว”
มู่ซืออวี่ “….”
นางนึกถึงคำพูดของลู่อี้ในตอนเช้าขึ้นมาได้
หรือว่านางต้อง ‘อยู่ด้วยกัน’ กับเขาจริง ๆ?
“ท่านไม่ยินยอมหรือ?” ลู่ฉาวอวี่สงสัยขึ้นมา
“ไม่…” มู่ซืออวี่หัวเราะเจื่อน ๆ “นี่ไม่ใช่…ข้าเป็นห่วงว่าพ่อเจ้าจะไม่ชิน”
“เขารับปากแล้ว”
มู่ซืออวี่จึงไม่เอ่ยสิ่งใดอีก
หากไม่ใช่เพราะบ้านหลังเล็กเกินไป นางอยากจะทำเตียงหลังใหญ่จริง ๆ จะได้วาดเส้นแม่น้ำแบ่งแยกฉู่ฮั่น*[1] เอาไว้ตรงกลาง ถึงจะนอนอยู่บนเตียงหลังเดียวกันก็ไม่นับว่าเป็นอุปสรรคใด ๆ
“จริงสิ เมื่อครู่นี้ป้าเฉินบ้านข้าง ๆ มาหา แต่ท่านไม่อยู่ ข้าบอกให้นางค่อยมาอีกที”
“รู้แล้ว”
ในตอนที่มู่ซืออวี่กลับมาจากบ้านหัวหน้าหมู่บ้าน ก็พบกับเฉินซื่อและลู่เจินเจินเข้าพอดิบพอดี
ทั้งสองมีใบหน้าเปื้อนยิ้ม เมื่อเห็นมู่ซืออวี่เดินมาก็ยิ่งกระตือรือร้นยิ่งกว่าเดิม
“แม่ฉาวอวี่นี่เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภของพวกเราจริง ๆ” เฉินซื่อเอ่ยอย่างมีความสุข
“ดูเหมือนจะขายดีใช่หรือไม่”
ทั้งสองจึงรีบสาธยายว่ากิจการดีมากเพียงใด ช่วนช่วนเสียบไม้เหล่านั้นขายดีแค่ไหน อีกทั้งยังขอให้เพิ่มจำนวนช่วนช่วนเสียบไม้ขึ้นอีกเท่าตัวในวันพรุ่งนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...