ชาในหอหลิงอวิ๋นเป็นชาชั้นดี อบอวลไปด้วยกลิ่นหอม รสชาติของชายังคงละมุนอยู่ในคอ
มู่ซืออวี่หยิบติ่มซำเข้าปากอีกครั้ง ติ่มซำนี้รสชาติหวานฉ่ำ ไม่รู้สึกเลี่ยน แต่ให้ความรู้สึกละมุนลิ้น รสกลมกล่อมยิ่งนัก
ชิวซวงเดินเข้ามาเอ่ยว่า “ฮูหยินลู่ คุณหนูของเราว่างแล้ว โปรดตามข้ามา”
“ได้สิ” มู่ซืออวี่เช็ดคราบอาหารบนฝ่ามือด้วยผ้าเช็ดหน้า
เจิ้งซูอวี้ขึ้นมาพบ และกล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า “ท่านคงคอยข้าอยู่นานทีเดียว”
การแสดงออกของนางไม่ต่างไปจากเดิม แววตายังคงอบอุ่น จิตใจเปี่ยมด้วยความเมตตา ราวกับไม่ได้รับผลกระทบจากการทะเลาะวิวาทเมื่อครู่
“ข้าเองก็เพิ่งมาถึงเช่นเดียวกัน”
“นั่งลงก่อนเถิด”
มู่ซืออวี่นั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามอีกฝ่าย
ชิวซวงนำน้ำชามาให้อีกครั้ง
“ขอบคุณมาก”
เนื่องจากนางดื่มไปมากแล้ว กระเพาะจึงไม่มีที่ว่างสำหรับการดื่มชาอีกต่อไป
“ไม่ทราบว่าคุณหนูเรียกข้ามาพบเพราะอะไรหรือ?”
“มู่ซืออวี่ ท่านรู้เรื่องตระกูลเจิ้งของเรามากน้อยเพียงใด?” เจิ้งซูอวี้จ้องมองมู่ซืออวี่
“ข้าจะตอบตามจริงด้วยความเคารพ ข้าเป็นเพียงหญิงสาวชาวบ้านที่ยุ่งอยู่กับการหาเลี้ยงชีพ ข้าไม่มีเวลาว่างไปสืบเสาะหรือสอบถามถึงเรื่องราวของผู้อื่นหรอก”
“หากเป็นเช่นนั้นจริงก็ถือเป็นเรื่องดี ท่านมีเป้าหมายในชีวิต พยายามมุ่งมั่นทำงานอย่างหนักเพื่อเป้าหมายนั้น ใช้ชีวิตอย่างชัดเจน” เจิ้งซูอวี้จ้องมองด้วยรอยยิ้ม “นี่จึงเป็นเหตุผลที่ข้าชื่นชอบท่าน”
“ข้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบกับคุณหนูซูอวี้ คุณหนูเป็นดังรากแก้วของข้า หากไม่มีคุณหนู ชีวิตของข้าก็คงไม่เหมือนตอนนี้”
“เราไม่จำเป็นต้องสุภาพต่อกันถึงเพียงนั้น” เจิ้งซูอวี้กล่าว “ข้าเชิญท่านมาที่นี่เพราะมีเรื่องอยากขอความช่วยเหลือ”
“เชิญพูดมาเถิด”
“พ่อของข้าเป็นลูกชายคนที่สองของตระกูลเจิ้ง เขามีพี่ชายคนหนึ่ง หรือก็คือลุงของข้า ท่านลุงกับท่านพ่อต่างมีลูกสาวเช่นเดียวกัน นางก็เหมือนพี่สาวของข้า ตระกูลเจิ้งมีอาชีพและฐานะทางการเงินมั่นคง แต่ไม่มีทายาทผู้ชาย ดังนั้นเพื่อจัดการปัญหาในการสืบทอดมรดก ข้ากับพี่สาวจึงถูกสอนให้ค้าขายตั้งแต่ยังเล็ก ข้ากับนางจะต้องแข่งขันกันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งเจ้าของตระกูล ผู้ชนะจะต้องมีเพียงคนเดียว ตอนนี้ตระกูลของเรามอบร้านค้าใหญ่ให้เราคนละร้าน”
แม้มู่ซืออวี่จะไม่รู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับนางอย่างไร แต่นางก็ยังคงตั้งใจฟัง ไม่ขัดจังหวะ
“ข้าอยากจะมอบความไว้วางใจให้ท่านช่วยปรับปรุงร้านของข้า” เจิ้งซูอวี้กล่าว “เรื่องที่ท่านบอกว่าสามารถปรับปรุงห้องได้ในวันนั้น ข้ายังจำได้ดี”
“คุณหนูซูอวี้ ต้องการฝากเรื่องสำคัญเช่นนี้ไว้กับข้าจริง ๆ หรือ?” มู่ซืออวี่เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ
“ใช่ ข้าจะให้ท่านเป็นผู้จัดการ” เจิ้งซูอวี้พยักหน้าอย่างจริงจัง “ไม่รู้ว่าด้วยเหตุใด แต่ข้ามองท่านในมุมที่แตกต่างออกไป ทันทีที่ข้าได้รับภารกิจนี้ ข้านึกถึงท่านเป็นบุคคลแรก”
“ท่านอาจจะยังไม่รู้เรื่องนี้” มู่ซืออวี่เอ่ยขึ้น “คุณหนูหลี่ปฏิเสธภาพแบบของข้า บอกว่าการออกแบบไม่ตรงกับความต้องการของนาง”
“ข้ารู้แล้ว แต่ข้าและหลี่หงซูไม่เหมือนกัน เราแค่อยู่ในสังคมเดียวกัน ผู้คนรอบตัวพูดถึงกิตติศัพท์ของนางให้ข้าฟังบ่อย ๆ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับความเชื่อมั่นของข้าที่มีต่อท่าน ข้ายังคงเชื่อในตัวท่านอยู่เสมอ”
“เอาล่ะ ในเมื่อคุณหนูมั่นในตัวข้า ข้าก็จะทำให้ดีที่สุด ข้าจะลงมือทำไปก่อน หากคุณหนูไม่พอใจ ข้าจะไม่เรียกเก็บเงินจากคุณหนู”
“หากท่านทำเช่นนั้นข้าคงลำบากใจไม่น้อย ข้ารบกวนท่านให้ช่วยเป็นธุระให้ จะไม่จ่ายให้ท่านเลยได้อย่างไร”
“ข้ารู้ว่าท่านไม่ใช่คนเช่นนั้น”
ทั้งสองจ้องมองกันแล้วคลี่ยิ้ม
หลังจากทำข้อตกลงแล้ว เจิ้งซูอวี้ก็พามู่ซืออวี่ไปยังร้านใหม่ของนาง
“ไกลทีเดียว”
เจิ้งซืออวี่กล่าวอย่างเย็นชา “ใช่แล้ว แต่ก็ไม่เป็นอะไร ความสามารถของข้า แม้จะถูกจัดให้อยู่ท่ามกลางเหล่าขอทาน ข้าก็เอาชนะนางได้”
มู่ซืออวี่ตบไหล่อีกฝ่ายเบา ๆ “ดีกว่าอยู่ในตัวเมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย สถานที่แห่งนี้สะอาดตา จะสร้างประโยชน์ได้ในอนาคตอย่างแน่นอน เชื่อข้าเถิด…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...