ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย นิยาย บท 123

หลังออกจากร้านของเจิ้งซูอวี้ มู่ซืออวี่ก็คิดว่าตนเองมีเงินมากพอที่จะไปร้านขายหนังสือเพื่อซื้อหนังสือสองสามเล่มและกระดาษให้กับลู่เซวียน

เจ้าของร้านหนังสือทักทายนางด้วยความดีใจ

“ฮูหยิน เราเจอกันอีกแล้ว ไปยังหอหนังสือมาเป็นอย่างไรบ้าง?”

มู่ซืออวี่เผยรอยยิ้ม “ต้องขอบคุณคำแนะนำของเถ้าแก่ หอหนังสือหงเหวินยอมรับงานเขียนของข้า”

“จริงหรือ?” เถ้าแก่ร้านหนังสือกล่าวด้วยความดีใจ “ข้ายินดีกับเจ้าด้วย หอหนังสือหงเหวินมีข้อกำหนดเข้มงวด ไม่รู้เลยว่ามีนักเขียนมากมายเท่าไหร่ที่ถูกปฏิเสธ”

“หอหนังสือหงเหวินยอมรับสิ่งใด?” น้ำเสียงอันเย็นชาของบุคคลผู้หนึ่งดังขึ้น

เถ้าแก่หันไปอีกทาง ก่อนจะทักทายด้วยท่าทางกระตือรือร้น “นายน้อยอัน มาแล้วหรือ”

“เมื่อครู่พวกเจ้าพูดอะไรกัน?” นายน้อยอันมองมู่ซืออวี่

เถ้าแก่กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ ฮูหยินผู้นี้นำผลงานที่นางเขียนมาขายให้ข้า ข้าเห็นว่าผลงานนี้ยอดเยี่ยมมาก เลยแนะนำให้นางนำไปขายในหอหนังสือหงเหวิน สุดท้ายนางก็ผ่านการคัดเลือก”

อันอี้หางเอ่ยถามมู่ซืออวี่ “เจ้าเขียนด้วยตัวเองอย่างนั้นหรือ?”

“ไม่ใช่ น้องชายของสามีข้าเป็นคนเขียน” มู่ซืออวี่ไม่ได้ปิดบัง

“อืม” อันอี้หางหยิบหนังสือสองเล่มออกมาจากกระเป๋าแล้วมอบให้เถ้าแก่ร้านขายหนังสือ

เถ้าแก่ร้านขายหนังสือยังไม่ได้จ่ายเงินในทันที เขาเปิดอ่านสักพักจึงเอ่ยขึ้น “อันที่จริงด้วยความสามารถด้านงานเขียนของนายน้อยอัน ข้าก็อยากแนะนำให้ท่านนำไปขายในหอหนังสือหงเหวิน”

“ข้าไม่สนใจ ยุ่งยาก” อันอี้หางกล่าวอย่างเฉยเมย

เถ้าแก่เจ้าของร้านหนังสือจ้องมองแผ่นหลังของอันอี้หางพลางถอนหายใจ “นายน้อยอันผู้นี้ช่างแปลกประหลาด แต่อาจเป็นเพราะงานเขียนของเขาได้รับความนิยมสูง จึงไม่อยากได้รับการยอมรับจากที่นั่น”

“เถ้าแก่ ข้าขอซื้อกระดาษเพิ่ม ขอหนังสือเพิ่มด้วย” มู่ซืออวี่กล่าว “น้องชายของสามีข้าสุขภาพไม่ค่อยดี เขาอยู่บ้านตลอดเวลาคงเบื่อแย่ ท่านแนะนำหนังสือที่น่าสนใจให้ข้าหน่อยสิ”

“ฮูหยินถามถูกแล้ว ข้าเพิ่งได้หนังสือมาใหม่ราว ๆ สองสามเล่ม ทุกเล่มล้วนขายดีในเมืองหลวง ว่ากันว่าเป็นหนังสือท่องเที่ยวที่เขียนขึ้นจากชายนามว่ากงจีน มีบันทึกเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมรวมถึงความน่าสนใจของเรื่องราวและสถานที่ต่าง ๆ มากมาย”

ไม่นานก็มู่ซืออวี่ก็ได้กลิ่นหอมของปิ่งงาลอยโชยมาจากอากาศ นางจึงเดินตามกลิ่นไป

ผู้คนมากมายเข้าแถวเรียงยาวตรงหน้า ร่างของชายหนุ่มชุดขาวปรากฏขึ้นอย่างเลือนราง เขาคืออันอี้หางที่เพิ่งจากมา

เมื่อเห็นอันอี้หาง เจ้าของร้านปิ่งก็เอ่ยถามอย่างไม่สบอารมณ์ “ไม่เอางากับต้นหอมใช่หรือไม่? ปิ่งที่นี่เป็นแบบเดียวกันทั้งหมด หากเจ้าไม่ต้องการงาหรือต้นหอมก็กลับไปทำกินเอง”

“สุภาพหน่อยเถิด” ชายพิการที่อยู่เคียงข้างนางเกลี้ยกล่อม “นายน้อยอันก็เป็นลูกค้าของเรานะ”

“หึ!”

ชายพิการเผยรอยยิ้มให้กับอันอี้หาง “นายน้อยโปรดรอสักครู่ ข้าจะรีบทำให้”

“ไม่จำเป็น ข้าขอปิ่งกรอบสิบชิ้น ไม่ต้องทำสิ่งใดพิเศษ” อันอี้หางกล่าว

“เช่นนั้นก็ดี”

“เถ้าแก่เนี้ย ลูกสาวของท่านเล่า?” บุคคลผู้หนึ่งเอ่ยถาม

“นางแต่งงานออกเรือนไปแล้ว” เถ้าแก่เนี้ยกล่าวพลางจ้องมองอันอี้หาง “หากไม่ยอมให้นางแต่งงาน นางอาจกลายเป็นหญิงแก่เทื้อไร้สามี”

“ดูเจ้าพูดเข้าสิ ลูกสาวของเจ้ามีความสามารถมาก หากนางต้องการแต่งงานก็ย่อมมีบุรุษมากมายอยากแต่งกับนาง”

“ข้าดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น แม้ลูกสาวของข้าจะเป็นอย่างที่ท่านพูด แต่ก็มีหลายคนที่นางไม่ชื่นชอบ พวกเขาไม่มีวิสัยทัศน์ จะรู้ได้อย่างไรว่าหากให้นางเลือกสามีเองแล้วจะดี?”

อันอี้หางหยิบปิ่งกรอบมา ก่อนจะวางเงินไว้ที่นั่นแล้วจากไป

มู่ซืออวี่ซื้อปิ่งงาก่อนจะขึ้นรถม้า นางขับไปยังสวนหลังบ้านของหอหลิงอวิ๋น

ก่อนจะเดินทางมาถึงหอหลิงอวิ๋น นางได้ยินผู้คนมากมายพูดถึงภัตตาคารเจียงซื่อ พอได้ยินคำพูดคลุมเครือ นางก็หยุดรถม้า เงี่ยหูฟังสิ่งที่พวกเขาพูด

“ถูกตัดสินจำคุก เถ้าแก่กับผู้จัดการร้านถูกยึดทรัพย์สิน ภัตตาคารเจียงซื่อถูกปิดตาย ส่วนไอ้สารเลวผู้นั้นถูกตัดสินจำคุกสิบปี คนอื่น ๆ ต้องใช้เงินประกันคนละ 50 ตำลึงเพื่อออกจากคุก หากไม่มีเงินประกัน พวกเขาจะต้องติดคุกเป็นเวลาสามปี”

“น่ากลัวมาก”

“ก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นนี่นา”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย