“มีคนร้องเรียนว่าพวกเจ้าใส่ดอกฝิ่นลงไปในอาหาร ไปกับพวกเราเดี๋ยวนี้!” นักการเกาแจ้งอย่างเยือกเย็น
ผู้จัดการร้านตื่นตระหนกขึ้นมาทันที “ใต้เท้า ข้าถูกปรักปรำ! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ดอกฝิ่นเป็นของที่อันตรายเพียงใด ราชวงศ์ก่อนล้วนได้รับความเสียหายอย่างหนักเพราะมัน ราชสำนักจึงประกาศข้อห้ามออกมา ข้าน้อยย่อมไม่กล้าฝ่าฝืน!”
นักการหนุ่มคนหนึ่งออกมาจากห้องครัว เอ่ยกับนักการเกาว่า “หัวหน้า พบดอกฝิ่นข้างในจำนวนมากขอรับ”
“จะเป็นไปได้อย่างไร?” ผู้จัดการร้านมองดอกฝิ่นในมือของนักการหนุ่ม ใบหน้าซีดเผือดลงทันที “ไม่ ไม่ จะต้องมีคนใส่ร้ายร้านของเราแน่นอน”
“พอได้แล้ว พวกเราเป็นเพียงข้ารับใช้เล็ก ๆ รับผิดชอบในการจับกุมคนตามคำสั่งเท่านั้น หากเจ้ามีความคับข้องใจก็ไปให้ท่านใต้เท้าตัดสิน”
คนที่กำลังทานอาหารอยู่ เมื่อถูกนักการไล่ออกไปก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่พอรู้ว่าร้านอาหารร้านนี้ใช้ดอกฝิ่นก็ไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดอีก แต่ละคนล้วนวิ่งเร็วยิ่งกว่าใคร
นักการเกานำตัวเขาไปขังไว้ในคุก เมื่อมาถึงที่ทำงานของเสมียนประจำฝ่ายราชทัณฑ์ก็พูดกับลู่อี้ว่า “เสมียนลู่ ใต้เท้าเรียนเชิญ”
ลู่อี้ตวัดพู่กันลากเส้นสุดท้ายลงไป “รอสักครู่ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”
นักการเกาพยักหน้ารับแล้วจากไป
ลู่อี้ปิดผนึกสิ่งที่เขากำลังเขียนแล้วเอ่ยกับเวินเหวินซง “บ่ายนี้ข้าจะไปหมู่บ้านฉือโถว พี่เวินมีเวลาสักหน่อยหรือไม่?”
ดวงตาของเวินเหวินซงเปล่งประกายขึ้นมา “มี ๆ หากเจ้างานยุ่งมาก ข้าจะไปกับเจ้า”
ถังซานอวี่ปรายตามองเวินเหวินซงอย่างดูถูก
คดีของหมู่บ้านฉือโถวนั้นทำไปก็ไม่มีผลดีอันใด ยังควรค่าให้เขาสนใจอีกหรือ?
ลู่อี้ไปหานักการเกาแล้วประสานมือคำนับ “พี่เกา”
“ฮ่าฮ่า หากเป็นเรื่องที่น้องลู่ให้ข้าทำ ข้าจัดการเรียบร้อยแล้ว” นักการเกายิ้มออกมาพร้อมทำหน้ามีเล่ห์เหลี่ยม
ลู่อี้นำหินก้อนหนึ่งออกมาแล้วส่งให้นักการเกา “หินก้อนนี้ข้าได้รับมาโดยบังเอิญ ไม่รู้ว่าคือสิ่งใด ต้องรบกวนพี่เกาช่วยข้าตรวจสอบแล้ว”
“ไม่มีปัญหา ๆ” นักการเกาเก็บ ‘หิน’ ก้อนนั้นไปโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า
“หากไม่มีเรื่องอื่น ข้าคงต้องกลับไปก่อนแล้ว”
นักการเกามองแผ่นหลังของลู่อี้แล้วพึมพำกับตนเอง “อย่าได้เป็นศัตรูกับคนผู้นี้เป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นตายเช่นไรก็อาจไม่รู้ตัว”
“ท่านหัวหน้า…” หลินซาน นักการหนุ่มข้าง ๆ ขยับเข้ามา “สิ่งที่เราทำไม่ถูกต้องนะขอรับ”
“ความถูกต้องงั้นรึ? เจ้าอยากได้ความถูกต้องอะไร?” นักการเกาเย้ยหยันเสียงเย็นเยือก “เหตุใดถึงเกิดเรื่องกับภัตตาคารเจียงซื่อโดยไร้สาเหตุ เจ้าคิดว่าทุกคนไม่รู้หรือ? เราเพียงแค่ไม่พบหลักฐานเท่านั้น จึงไม่อาจจับคนของภัตตาคารหมายเลขหนึ่งได้ ในตอนที่ชายผู้นั้นทำลายผู้อื่นก็ควรคิดว่าต้องมีวันนี้ เขาลอบกัดผู้อื่นได้ ผู้อื่นก็ลอบกัดเขาได้เช่นเดียวกัน ซานซานเอ๋ย เจ้าต้องจำเอาไว้ บนโลกนี้ไม่มีขาวหรือดำสนิทหรอก ลู่อี้ผู้นี้ไร้ความปรานีจริง แต่ว่า…”
เขาให้ความสำคัญกับมิตรภาพเป็นอย่างมาก
จริง ๆ แล้วภัตตาคารเจียงซื่อกับลู่อี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน เขาจึงไม่จำเป็นต้องออกหน้าแทน
แต่ผู้จัดการร้านภัตตาคารเจียงซื่อดีต่อภรรยาของเขา ถึงจะไม่มีหนทางช่วยออกหน้า แต่ย่อมมีวิธีอื่นที่จะทวงความยุติธรรมให้
หากกล่าวให้ชัดคือ กับคนผู้นี้คบหาเป็นสหายได้เท่านั้น ไม่อาจเป็นศัตรูด้วยได้
“ไป เอาของสิ่งนี้ไปแลก เดือนนี้เราสองพี่น้องมีเงินมากพอดื่มสุราแล้ว”
“ฮ่าฮ่า”
นายอำเภอฉินมองคำร้องที่ยื่นเข้ามา ก่อนจะขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “ดอกฝิ่นงั้นหรือ?”
“ขอรับ” ที่ปรึกษาข้างกายเขาเอ่ยขึ้น “มีคนยื่นคำร้องว่าภัตตาคารหมายเลขหนึ่งใช้ดอกฝิ่นทำร้ายคน นักการเกาพบดอกฝิ่นจำนวนมากในครัวของพวกเขา”
“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ” นายอำเภอฉินกล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เหตุใดจึงมีดอกฝิ่นในพื้นที่ของพวกเรา?”
“เรื่องนี้…” ที่ปรึกษาไม่เข้าใจเช่นกัน
“ไปตรวจสอบให้ถี่ถ้วน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...