“เล่มสอง 50 ตำลึง”
มู่ซืออวี่ดันกองเหรียญไปทางลู่เซวียน
ลู่เซวียนเงยหน้าขึ้นมามองนาง “นี่จะไล่ข้าออกไปรึ?”
มู่ซืออวี่หัวเราะคิกคัก ก่อนจะคว้าเงินคืนมา “ไม่ต้องการก็ช่างเถอะ”
เท่านั้นเองสีหน้าของลู่เซวียนจึงกลับมาเป็นปกติ
“เจ้าเก็บเงินไว้กับตัวสักหน่อย” ลู่อี้ที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยขึ้นมา “ที่เหลือพี่สะใภ้เจ้าจะเก็บไว้ให้เจ้าก่อน รอเจ้าแต่งงานแล้วค่อยเอาให้ภรรยาของเจ้า”
ลู่เซวียนหน้าแดงก่ำ “ท่านพี่พูดอะไรน่ะ ร่างกายของข้าเป็นแบบนี้ จะเอ่ยเรื่องภรรยาได้อย่างไร ภายหน้าข้าก็ย่อมต้องพึ่งพาพวกท่าน”
“เจ้าคิดอยากจะพึ่ง แต่ข้าไม่ยินดีจะเลี้ยง น้องสามียังหนุ่มยังแน่นไม่แต่งงาน คนอื่นจะคิดว่าพี่สะใภ้รังแกเอา” มู่ซืออวี่กล่าว “แต่ตอนนี้ยังเร็วเกินไป ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน หากโชคชะตาของเจ้ามาแล้ว ดูซิว่าเจ้ายังจะไม่รีบร้อนอีกหรือเปล่า”
ทันใดนั้น ถงซื่อได้ถือไข่เดินออกมา “ลองชิมไข่จากไก่บ้านเราดู”
“ไก่พวกนั้นออกไข่แล้วหรือ?” มู่ซืออวี่ประหลาดใจ “อวิ๋นเอ๋อร์รีบกินเร็วเข้า ไก่ที่เจ้าเลี้ยงมาอย่างยากลำบาก ตอนนี้ถึงเวลาเก็บเกี่ยวแล้ว”
มู่ซืออวี่ปอกไข่ให้ลู่จื่ออวิ๋นเสร็จ ลู่อี้ก็ส่งไข่ที่ปอกแล้วมาให้
มู่ซืออวี่เงยหน้าขึ้นมองเขา ก่อนจะรับไข่มาอย่างเคอะเขินท่ามกลางสายตาจับจ้องของคนอื่น ๆ “ขอบคุณ”
“อวิ๋นเอ๋อร์ อยากได้น้องสาวหรือเปล่า?” ลู่เซวียนถามลู่จื่ออวิ๋น
เด็กน้อยพยักหน้าอย่างตื่นเต้น “อยากเจ้าค่ะ”
ลู่เซวียนคอยกระซิบอยู่ข้าง ๆ “เช่นนั้นก็ให้พ่อแม่ของเจ้าขยันให้มากหน่อย”
“แค่ก!” มู่ซืออวี่เกือบจะสำลักไข่
ลู่อี้ลูบหลังให้นาง แล้วจ้องลู่เซวียนอย่างตำหนิ
ลู่เซวียนเบ้ปาก “ไม่ใช่ว่าไม่เคยทำเสียหน่อย จะตื่นเต้นอะไร”
ลู่จื่ออวิ๋นมองลู่อี้และมู่ซืออวี่ด้วยสายตาคาดหวัง “ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านกำลังจะมีน้องหรือ?”
มู่ซืออวี่เพิ่งจะกลืนไข่แดงลงไป ได้แต่รับน้ำที่ลู่อี้ส่งให้แล้วดื่มเข้าไป สักพักถึงได้สงบลง
“พ่อกับแม่ยุ่ง ๆ น่ะ จะเข้าไปในเมืองแล้ว เจ้าอยู่บ้านก็เชื่อฟังท่านยาย ส่วนอาของเจ้า… เจ้าคอยดูเขา อย่าให้เขาเขียนหนังสือล่ะ”
พูดจบนางก็จับแขนลู่อี้ ดึงเขาไปจากสถานที่น่ากระอักกระอ่วนแห่งนี้
“ท่านพี่ยังไม่ได้กินอะไรเลย!” ลู่เซวียนตะโกนไล่หลังพวกเขาไป
มู่ซืออวี่ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นกลับมาคว้าไข่สองฟองแล้วยัดมันใส่มือของลู่อี้
ลู่อี้กำลังจะบังคับรถม้า แต่มู่ซืออวี่หยุดเขาเอาไว้ “ข้าจะบังคับเอง เจ้ากินก่อน”
เมื่อครู่เขามัวยุ่งอยู่กับการปอกไข่ให้นาง ตนเองจึงยังไม่ได้กิน
นับจากเมื่อคืนก็เป็นเวลามากกว่าสิบชั่วโมงแล้ว ไม่ว่าชายผู้นั้นจะแข็งแรงเพียงใดก็ทนหิวไม่ได้หรอก
ทันทีที่รถม้าเคลื่อนออกจากประตู เงาคนผู้หนึ่งก็พลันโผล่มาขวางหน้า
มู่ซืออวี่รู้สึกเพียงว่ามีบางอย่างเคลื่อนไหว ยังไม่ทันได้มีเวลาตอบสนอง ลู่อี้ที่อยู่ข้าง ๆ ก็ยึดสายบังเหียนเอาไว้แล้ว
“หยุด!”
“โอ๊ย ข้ากลัวแทบตายแล้ว” อวี๋ซื่อที่กระโดดออกมากะทันหันลูบอกตนเองอย่างอกสั่นขวัญแขวน
“ป้าอวี๋ ท่านจะทำอะไร?” มู่ซืออวี่ถามขึ้น
อวี๋ซื่อก้าวมาข้างหน้า แล้วเอ่ยกับลู่อี้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ลู่อี้ เช้าขนาดนี้ก็จะไปศาลาว่าการแล้วหรือ?”
ลู่อี้ตอบอืมหนึ่งคำ
“ลู่อี้ คืนนี้เจ้ากลับมาเร็วสักหน่อย ไปกินข้าวเย็นที่บ้านข้าเถอะ” อวี๋ซื่อพูดไปหัวเราะฮ่าฮ่าไป
มู่ซืออวี่มองอวี๋ซื่ออย่างหวาดระแวง
ใจดีขนาดนี้เชียวหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...