มู่ซืออวี่มาถึงประตูร้านก็เห็นว่ามีผู้คนมากมายล้อมอยู่รอบ ๆ นางจึงตะโกนทันที “เฟิงเจิง!”
เมื่อเฟิงเจิงได้ยินเสียงนั้น ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความวิตกกังวล “เจ้ามาสักที”
“เหตุใดจึงมีคนมากมายเช่นนี้?” มู่ซืออวี่ลงจากรถม้าพลางโยนเชือกรถม้าไปยังเฟิงเจิง
เฟิงเจิงรับไว้พลางกล่าวว่า “รุ่งสางของวันนี้มีคนมาเคาะประตู ต้าชุนคิดว่าเป็นคุณหนูเจิ้งก็เลยเปิดประตูให้ แต่คนเหล่านั้นพอเข้ามาก็ทุบข้าวของทั้งหมดจนพังระเนระนาด”
“ส่งคนไปแจ้งคุณหนูเจิ้งแล้วหรือยัง?”
“ยังเลย” เฟิงเจิ้งกล่าว “เราไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร”
“เจ้าไปยังจวนตระกูลเจิ้งแล้วบอกว่ามาพบคุณหนูรอง อย่าบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผู้ใด หากไม่พบคุณหนูเจิ้งก็ไปหอหลิงอวิ๋น ตามหาแม่นางชิวซวง”
หลังจากที่เฟิงเจิงออกไป มู่ซืออวี่ก็เบียดเสียดผู้คนเข้าไปในร้าน
ทุกอย่างในร้านยุ่งเหยิงมาก ทั้งหมดที่ดำเนินมาตลอดสองสามวันล้วนพังทลาย
ผมเผ้าของพวกคนงานต่างกระเซอะกระเซิง เนื้อตัวสกปรก อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บ
“น้องสะใภ้”
“พวกเขาทุบตีพวกเจ้าหรือ?” มู่ซืออวี่ขมวดคิ้ว
“เราเข้าไปหยุดพวกเขาเลยโดนทุบตีน่ะ”
“ครั้งหน้าหากเจอสถานการณ์เช่นนี้อย่าเข้าไปดีกว่า หากสู้ไม่ได้ก็อย่าอาจหาญ อย่าเอาตัวเข้าแลก ถึงตอนนี้พวกเจ้ายังหาเงินจ่ายหนี้ไม่ได้ แต่ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ทุกสิ่งย่อมเป็นไปได้ หากพวกเจ้าตาย ทุกอย่างจะไร้ประโยชน์เอานะ”
“เราทำงานอย่างหนักมาเนิ่นนาน แต่พวกเขากลับทำลายมันเพียงชั่วอึดใจ อีกทั้งคุณหนูเจิ้งยังกรุณาให้เราอาศัยอยู่ที่นี่ แต่เรากลับไม่สามารถแม้แต่จะรักษาทรัพย์สินของคุณหนูได้ เช่นนั้นแล้วเราจะมีประโยชน์อะไร?” หวังต้าชุนกล่าว
“หากข้าวของพังทลาย เราก็ยังสร้างขึ้นใหม่ได้ แต่หากต้องสูญเสียชีวิตไป จะไม่มีอะไรทดแทนได้เลย เอาเถิด พวกเจ้าไปชำระร่างกายให้สะอาด หากได้รับบาดเจ็บก็กินยา อย่าลืมเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ด้วยล่ะ”
เมื่อเจิ้งซูอวี้มาถึง ผู้คนที่มุงดูอยู่หน้าประตูก็จากไปแล้ว
นางมองเข้าไปในร้านที่เสียหายอย่างหนักด้วยแววตาโกรธจัด
“ขออภัย พวกเราดูแลได้ไม่ดีเอง” มู่ซืออวี่กล่าว “แต่อย่ากังวลเลย ข้าจะทำให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด ข้าจะอยู่ทำงานที่นี่ทุกวัน ไม่กลับบ้านก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
เจิ้งซูอวี้ส่ายศีรษะ “นี่ไม่ใช่ความผิดของท่าน ข้ารู้ว่าเป็นฝีมือผู้ใด”
“แต่ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นความผิดของเราที่ไม่ดูแลให้ดี”
“ตราบใดที่นางตั้งใจจะทำ ไม่ว่าจะดูแลดีเพียงใดก็ไร้ประโยชน์” เจิ้งซูอวี้กำหมัดแน่น “เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่เด็ก แต่หากบอกว่าเป็นฝีมือนาง ผู้ใดจะเชื่อ? ทุกคนเอาแต่บอกว่าข้าอิจฉานาง”
มู่ซืออวี่เดาได้ทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังเอ่ยถึงผู้ใด
การแย่งชิงอำนาจของคนมีฐานะก็เหมือนหนองที่ซ่อนอยู่ในร่างกาย แม้ข้างนอกจะดูรักใคร่กันดี แต่ข้างในกลับเน่าเฟะ หากพบเจอแผลก็รีบบีบหนองและสิ่งสกปรกอื่น ๆ ออกมา
“เกิดอะไรขึ้นกัน?” เสียงอ่อนหวานของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้น
มู่ซืออวี่จ้องไปยังประตู
หญิงสาวในชุดสีฟ้าอ่อนเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้า นางช่างดูบริสุทธิ์ บอบบางและงดงาม จุดสีแดงบนหน้าผากขับให้ใบหน้าไร้เดียงสามีเสน่ห์ไม่น้อย
เจ้าของร่างอันงดงามถามขณะกำลังเดินเข้ามา
เมื่อได้เห็นรูปร่างและรอบเอวอันบอบบางของนาง ไม่ต้องพูดถึงชายหนุ่ม แม้แต่หญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมอง กระดิ่งตรงเอวของนางส่งเสียงยามก้าวเดิน ผู้ใดที่ได้ยินต่างก็อยากเข้ามาดูในระยะใกล้
ริมฝีปากสีแดงสดดุจลูกอิงเถา*[1] บางเล็กชุ่มชื่น เพียงมองด้วยตาเปล่าก็รู้ว่านางไร้เดียงสาและงดงามทุกองศา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...