ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย นิยาย บท 139

สาวใช้ของเจิ้งซินเยว่ส่งตั๋วเงินให้เจิ้งซูอวี้ แต่เจ้าตัวไม่รับ ชิวซวงจึงรับเอาไว้แทน

“ฮูหยินท่านนี้ ทางข้าก็ขาดคนเช่นกัน หากที่นี่ของน้องสาวข้าเปิดไม่ได้แล้ว ข้าหาที่ใหม่ให้เจ้าได้ เยว่อิ๋นจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง” เจิ้งซินเยว่มองมู่ซืออวี่พร้อมรอยยิ้ม

เจิ้งซูอวี้ปรายตามองอีกฝ่ายนิ่ง ๆ “คิดจะขโมยคนของข้าหรือ?”

“ดูน้องสาวข้าพูดเข้าสิ หากที่นี่ของเจ้าเกิดเรื่องขึ้น เจ้าจะปล่อยให้ฮูหยินผู้นี้อดตายหรือ?” หลังจากที่เจิ้งซินเยว่เอ่ยจบ นางก็หันไปมองมู่ซืออวี่อีกครั้งด้วยสายตาลุ่มลึก “ข้าจะรอเจ้า”

“อย่าได้ฝัน” เจิ้งซูอวี้เอ่ยอย่างเยือกเย็น “เจ้าทำราวกับผู้อื่นล้วนเป็นเหวินเหนียง หมาป่าตาขาวผู้นั้น”

“เหวินเหนียงเป็นคนเฉลียวฉลาด รู้จักเข้าใจสถานการณ์ หากติดตามเจ้า ไม่แน่ว่านางอาจหิวตายไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้นางมีบ้านแล้ว เจ้าบอกสิว่าตามผู้ใดกันแน่ถึงจะมีอนาคตที่ดีกว่า” เจิ้งซินเยว่ทิ้งท้ายก่อนจะจากไปพร้อมกับสาวใช้ของตน

เจิ้งซูอวี้มองร่างของซินเยว่เดินจากไปอย่างเย็นชา

“ปิดประตู”

ชิวซวงตามไปปิดประตู

“อย่าได้โกรธไปเลย” มู่ซืออวี่โน้มน้าว “โกรธแล้วมีประโยชน์อะไร โกรธแล้วมีแต่จะทำร้ายสุขภาพร่างกายของตนเท่านั้น คนที่จะยินดีจริง ๆ ก็คืออีกฝ่ายต่างหาก”

“หลายวันมานี้สูญเปล่าแล้ว” เจิ้งซูอวี้ขมวดคิ้ว “การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ยุติธรรมตั้งแต่แรก ตอนนี้นางใช้ลูกไม้เช่นนี้อีก หากพวกเราตามความเร็วไม่ทัน นั่นไม่ใช่ว่าแค่รอแพ้นางหรอกหรือ?”

“ผู้ใดบอกว่าจะแพ้แน่ ๆ?” มู่ซืออวี่เอ่ยอย่างราบเรียบ “นางมีกลยุทธ์ที่ดี พวกเราก็มีบันไต่กำแพง*[1] ในเมื่อเวลาไม่เพียงพอ เช่นนั้นก็ใช้วิธีง่าย ๆ เสียหน่อย ไม่ได้ซับซ้อนอะไรด้วย”

“ท่านคิดวิธีอะไรได้รึ?” เจิ้งซูอวี้ถาม

“เฟิงเจิง ต้าชุน พาทุกคนมาทำความสะอาดที่นี่” หลังจากออกคำสั่งแก่เฟิงเจิงและคนอื่น ๆ แล้ว มู่ซืออวี่ก็ลูบไหล่ของเจิ้งซูอวี้เบา ๆ “เชื่อข้า ข้าจะไม่ทำให้ท่านแพ้แน่นอน”

นางเข้าใจความรู้สึกเช่นนี้ดี

ชีวิตที่แล้วตอนอยู่มหาวิทยาลัย อาจารย์ที่ปรึกษาจัดให้มู่ซืออวี่และรุ่นพี่แข่งออกแบบกัน มีผู้ชนะได้เพียงคนเดียวเท่านั้น งานของใครดีกว่าก็จะใช้คนนั้น รุ่นพี่จึงใช้กลโกง ในวันส่งโมเดล มีคนจงใจขังมู่ซืออวี่ไว้ในห้องน้ำ ทั้งยังจงใจทำให้โมเดลพัง สุดท้ายโอกาสเข้าร่วมแข่งขันก็ไม่มี ไม่ใช่เพราะนางไม่เก่งพอ แต่เป็นเพราะนางแพ้ให้กับวิธีการน่ารังเกียจเช่นนี้

หลังจากปัดกวาดเช็ดถูห้องเสร็จ มู่ซืออวี่ก็ให้ทุกคนทาผนังห้องเป็นสีฟ้า

เดิมทีเจิ้งซูอวี้อยากจะช่วย แต่นางมีสิ่งอื่นที่ต้องทำ หลังจากกำชับไม่กี่คำก็ต้องขอตัวออกไป

ทันทีที่ลู่อี้ก้าวเข้ามาในศาลาว่าการ เขาพบว่าบรรยากาศผิดแปลกไป เขากำลังจะกลับไปยังห้องทำงานเพื่อจัดการงานที่คั่งค้างอยู่ ที่ปรึกษากลับเดินมาจากมุมหนึ่งแล้วเรียกเขาเอาไว้

“ลู่อี้ ใต้เท้าเรียนเชิญ”

“ขอรับ”

ลู่อี้ตามที่ปรึกษาไปยังห้องตำราของนายอำเภอฉิน แต่กลับพบว่านักการเกาก็อยู่ด้านในเช่นกัน นายอำเภอกำลังเขียนอะไรบางอย่าง ไม่ได้สนใจนักการเกาแม้แต่น้อย

นักการเกาลอบมองลู่อี้แล้วขยิบตาให้เขา

“ใต้เท้า” ลู่อี้คำนับ

“ลู่อี้ เจ้าคิดว่าเจ้าหน้าที่ทางการควรได้รับโทษเช่นไรหากเขารู้กฎหมายแต่ก็ยังฝ่าฝืนมัน?” นายอำเภอฉินเขียนต่อไปโดยไม่มองพวกเขา

สีหน้าของนักการเกาหนักอึ้งขึ้นมา

หรือว่า… รู้เรื่องที่พวกเขาทำแล้วงั้นหรือ?

ทันใดนั้น เขาก็หันไปมองลู่อี้อย่างตื่นตระหนก ลู่อี้ส่งสีหน้าอันนิ่งสุขุมกลับมาให้อีกฝ่าย

“ใต้เท้า เจ้าหน้าที่ทางการที่รู้กฎหมายแต่ก็ยังฝ่าฝืน สมควรได้รับโทษสถานหนักยิ่งกว่าเดิมขอรับ” ลู่อี้กล่าว “ไม่ทราบว่าผู้ใดทำให้ใต้เท้าโกรธเช่นนี้?”

“เจ้าไม่รู้จริงหรือ?” นายอำเภอฉินเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยสายตาเฉียบคม “ดอกฝิ่นเหล่านั้นแท้จริงเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ลู่อี้ เจ้ากล้าหลอกข้าได้อย่างไร รู้หรือไม่ว่าสมควรได้รับโทษเช่นไร?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย