รถม้าเคลื่อนไปยังบ้านถงซื่อ
หน้าประตูมีเงาตะคุ่ม ๆ อยู่ เมื่อเข้าไปใกล้ถึงรู้ว่าเป็นถงซื่อและลู่จื่ออวิ๋นที่รออยู่ที่นั่น
“ท่านแม่ อวิ๋นเอ๋อร์ ยืนทำอะไรอยู่ที่นี่ รีบเข้าไปเร็ว”
“ท่านแม่กลับมาแล้ว! ท่านแม่กลับมาแล้ว!” ลู่จื่ออวิ๋นกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ
ถงซื่อเอ่ยอย่างช่วยไม่ได้ “เมื่อวานนี้เจ้าไม่ได้กลับมา เด็กคนนี้เอ่ยถึงเจ้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฟ้ายังไม่มืดก็มาอยู่ที่นี่เสียแล้ว พวกเราคิดว่าเจ้าคงใกล้จะกลับมาแล้วก็เลยมารออยู่ที่นี่”
“เมื่อครู่นี้มีเรื่องทำให้ล่าช้าออกไป ข้าเลยกลับมาช้า” มู่ซืออวี่พูดอย่างสบาย ๆ “ส่วนลู่อี้ยังวุ่นอยู่ วันนี้ไม่กลับมาแล้ว”
ทันทีที่รถม้าหยุดลง เสียงของลู่เซวียนก็ดังขึ้นมา “พี่ชายข้ายังไม่กลับมาหรือ? เจ้าเป็นหญิงสาวคนเดียว ไม่รู้จักกลับมาให้เร็วเสียหน่อย ดึกดื่นมืดค่ำแล้ว หากตกลงไปในคูน้ำคงไม่มีผู้ใดพบเห็นกระมัง”
“เฮอะ เจ้าสิตกลงไปในคูน้ำ” มู่ซืออวี่ปล่อยสายบังเหียนม้าลง “อวิ๋นเอ๋อร์ มาเอาหญ้าให้ม้ากินหน่อย”
“ได้เลยเจ้าค่ะ”
ลู่จื่ออวิ๋นนำฟางที่เตรียมไว้นานแล้วไปให้ม้ากิน เมื่อเห็นม้าเคี้ยวกร้วม ๆ อย่างเอร็ดอร่อยจึงลูบขนมันพร้อมบอกมันด้วยท่าทางจริงจัง “เจ้าต้องรีบแข็งแรงขึ้น แล้วดูแลแม่ข้าให้ดีนะ”
ถงซื่อหัวเราะร่วน “มันจะฟังคำพูดเจ้าเข้าใจหรือ?”
“มันฟังเข้าใจ ท่านดูสิ มันกินอย่างมีความสุขขนาดไหน!” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ยอย่างแข็งขัน “ท่านแม่บอกไว้ว่าทุกสิ่งมีจิตวิญญาณ พวกเราแค่ดีกับพวกมัน มันก็จะตอบแทนพวกเรา”
“คืนนี้กินอะไร?” มู่ซืออวี่ถามขึ้นมา
“ข้าทำของง่าย ๆ ไว้ แต่ไม่รู้ว่าจะถูกปากพวกเจ้าหรือไม่” ถงซื่อพูดแล้วก็เหนียมอายขึ้นมา
“อาหารของท่านยายก็อร่อย” ลู่จื่ออวิ๋นพูดขึ้น “เหมือนรสชาติของท่านแม่เลยเจ้าค่ะ”
หลายวันมานี้อยู่ด้วยกัน ถงซื่อดูมู่ซืออวี่ทำอาหาร จึงแอบจดจำเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ มาบ้าง
เดิมทีนางก็ไม่ได้โง่ บวกกับมีประสบการณ์ทำอาหารมานานหลายปี ขอแค่เพียงไม่ตระหนี่ตอนที่ต้องใช้น้ำมัน เกลือ และเครื่องปรุงรส เช่นนั้นก็ไม่มีทางที่จะไม่อร่อย
“หอมจริง ๆ” มู่ซืออวี่ไม่รีรอที่จะเอ่ยชม “ข้ารู้ว่ามอบอวิ๋นเอ๋อร์ให้ท่านแม่ดูแลเหมาะสมที่สุดแล้ว ข้ากับพ่อของนางจะได้จดจ่อกับงาน”
ถงซื่อยิ้มอย่างขัดเขิน
“จริงสิ วันนี้หัวหน้าหมู่บ้านมาหาข้า ทั้งยังนำหมูตุ๋นมาให้พวกเราด้วย ข้าจะไปเอาออกมา”
ถงซื่อนำหมูตุ๋นออกมาจากครัว
“หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวว่ากิจการไม่ค่อยสู้ดีนัก อยากจะฟังความคิดเห็นจากเจ้า”
“ร้านกิจการหมู่บ้านมีคนอยู่มากหรือน้อย?” มู่ซืออวี่คีบขึ้นมาหนึ่งชิ้น
ถงซื่อคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ยี่สิบสามคน”
“คนมากขนาดนี้เชียว” มู่ซืออวี่ขมวดคิ้วขณะเคี้ยวหมูตุ๋น “รสชาติจืดเกินไป ความร้อนไม่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นตัวส่วนผสมหรือเวลาที่ใช้ในการทำก็ยังไม่ได้ตามที่กำหนด รสชาติจะยอดเยี่ยมได้อย่างไร?”
“นี่เป็นร้านกิจการภายในหมู่บ้าน ทุกคนล้วนอยากมีส่วน แต่กลับโต้แย้งทะเลาะวิวาทกันทุกวัน” ถงซื่อกล่าวต่อ “ข้าเข้าใจความหมายของหัวหน้าหมู่บ้าน หากดำเนินต่อไปเช่นนี้ เกรงว่าร้านกิจการหมู่บ้านจะต้องปิดลง”
“หากต้องการการจัดการที่ดี เช่นนั้นจำต้องเปลี่ยนวิธี” มู่ซืออวี่พูดขึ้นมา “คนงานในร้านไม่อาจเป็นคนในหมู่บ้าน จะต้องหาคนมาจากที่อื่น ถ้าทำได้ไม่ดีก็ไล่ออก ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องสายสัมพันธ์ คนในหมู่บ้านสามารถซื้อเนื้อจากร้านในราคาที่ต่ำที่สุด พวกเขาขายได้มากเท่าไหร่ก็เป็นของพวกเขาเท่านั้น คำนวณรายได้ของร้านกิจการหมู่บ้านทุก ๆ ครึ่งปี จากนั้นปันผลให้แต่ละครัวเรือนตามข้อตกลงเดิม”
“เยี่ยม” เสียงชื่นชมดังมาจากลานบ้าน
มู่ซืออวี่และถงซื่อมองหน้ากันและกัน ก่อนจะออกไปต้อนรับ
“หัวหน้าหมู่บ้าน ท่านมาได้อย่างไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...