ยามบ่าย มู่ซืออวี่มาศาลาว่าการก็เห็นเจ้าหน้าที่คนใหม่อยู่ที่หน้าประตู
“เจ้าเป็นใคร?” เจ้าหน้าที่หยุดนางไว้ด้วยท่าทางแข็งกร้าว
“ข้ามาหาคน” มู่ซืออวี่กล่าวว่า “ญาติของข้าคนหนึ่งทำงานอยู่ที่นี่ ไม่รู้ว่าสามารถให้ข้าพบได้หรือไม่?”
“ใต้เท้ามีคำสั่ง ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องไม่อนุญาตให้เข้าออกศาลาว่าการ รีบไปให้พ้น”
“เจ้าค่ะ” มู่ซืออวี่จึงถอยออกมา
นางมองเข้าไปข้างใน พยายามมองหาเงาร่างที่คุ้นเคย แต่กลับไม่เห็นคนที่คุ้นหน้าแม้แต่คนเดียว
หรือว่าศาลาว่าการจะเกิดเรื่องขึ้นแล้ว? ไม่เช่นนั้นเหตุใดถึงมีการเปลี่ยนคนเช่นนี้เล่า?
ลู่อี้ไม่เป็นไรใช่หรือไม่?
“เหตุใดจึงไม่ให้ข้าเข้าไป?” เสียงแหลมเสียดหูเสียงหนึ่งดังขึ้น “พี่ชายข้าเป็นปลัดอำเภออยู่ที่นี่ ข้าอยากพบพี่ชายข้า!”
มู่ซืออวี่หันกลับไปจึงเห็นเฉินชุนอวี่ถูกหยุดไว้ที่หน้าประตูเช่นกัน
เจ้าหน้าที่หลายคนมองหน้ากัน
หนึ่งในเจ้าหน้าที่เหล่านั้นเอ่ยขึ้นมา “นำนางไปขังไว้”
“พวกเจ้าจะทำอะไร คิดอะไรถึงจะมาขังข้า พี่ชายของข้าเป็นปลัดอำเภออยู่ที่นี่ ถ้าพวกเจ้ากล้ารังแกข้า ข้าจะฟ้องพี่ชาย”
เจ้าหน้าที่ปิดปากของเฉินชุนอวี่ไว้ แล้วให้อีกสองคนนำตัวนางไป
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งสังเกตเห็นว่ามู่ซืออวี่ยังไม่จากไป จึงหรี่ตาลงแล้วเดินมาทางนาง
มู่ซืออวี่วิ่งหนีสุดฝีเท้า
นางไม่ได้โง่ หากไม่วิ่งหนีแล้วจะยืนรอให้โดนจับหรือ
ภายในห้องขัง นายอำเภอฉิน เฉินเซียนเฉิง และยังมีที่ปรึกษาถูกขังไว้ด้วยกันที่นี่ ส่วนห้องขังห้องข้าง ๆ เป็นเวินเหวินซงและเสมียนคนอื่น ๆ
เมื่อมองไปยังผู้คุมห้องขังเหล่านั้น ย่อมไม่ใช่คนเดิมเช่นกัน แต่เป็นเจ้าหน้าที่คนอื่น
“พวกเราคงไม่ตายอยู่ที่นี่ใช่หรือไม่?” หนึ่งในผู้ถูกคุมขังถอนหายใจ “ข้ายังไม่ได้แต่งภรรยาเลยนะ”
“พอแล้ว อย่าได้เป็นกระต่ายตื่นตูมไป พวกเรามีหลายคนขนาดนี้ ท่านเจ้าเมืองจะกล้าลงมือหรือ?”
เฉินเซียนเฉิงหันไปมองนายอำเภอฉิน “ใต้เท้า ท่านเจ้าเมืองเพียงแค่ส่งคำเตือนมาให้เรา ขอแค่ใต้เท้าเอ่ยคำดี ๆ เพียงไม่กี่คำ บางทีอาจจะออกไปได้ ใต้เท้าไม่ควรเชื่อคำพูดใส่ร้ายของลู่อี้เลยนะขอรับ”
นายอำเภอฉินนั่งหลับตา ไม่สนใจสิ่งใด
ส่วนที่ปรึกษาขมวดคิ้ว ทว่าก็ไม่กล่าวอะไรออกมา
“เหตุใดลู่อี้จึงไม่อยู่ที่นี่” มีคนถามขึ้นมา “คงไม่ใช่ว่าไปประจบท่านเจ้าเมืองหรอกนะ?”
“พวกเราก็เหมือนตั๊กแตนถูกมัดอยู่ในเชือกเดียวกัน*[1] ลู่อี้คงทำเรื่องเช่นนั้นไม่ได้กระมัง?”
“หากไม่ใช่ แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ใด? เหตุใดพวกเราถูกขังทั้งหมด แต่เขากลับไม่อยู่ที่นี่ ยังบอกว่าไม่ได้ทรยศใต้เท้าของพวกเราอีกหรือ?”
“พอได้แล้ว” นายอำเภอฉินลืมตาขึ้นมา “เอะอะมะเทิ่งเสียงดัง!”
ทุกคนพลันเงียบเสียงลง ไม่กล้าเปิดปากอีกต่อไป
“ปลัดอำเภอเฉิน” นายอำเภอเรียกขึ้นมา
“ขอรับ ใต้เท้า”
“ห้องขังสกปรกเกินไปแล้ว ภายหน้าข้าจะส่งคนมาทำความสะอาดเสียหน่อย”
ทุกคนอึ้ง “…”
ยังมีวันหน้าอีกหรือ? พวกเขายังจะออกไปได้อีกหรือ?
เหตุใดนายอำเภอถึงได้สงบขนาดนี้? หรือว่ายังมีทางหนีทีไล่?
ทว่าจู่ ๆ ก็มีคนกรูเข้ามา
“ใคร?” ผู้คุมขังหยุดคนไว้ตรงประตู
“ข้าลู่อี้” ลู่อี้เดินเข้ามา ด้านหลังยังมีคนหลายคนตามมา
“ลู่อี้!” ทุกคนต่างรู้สึกประหลาดใจที่เห็นลู่อี้
“เจ้าก็ถูกจับมาหรือ?”
“ประจบไม่สำเร็จน่ะสิ สุดท้ายก็ยังถูกขังอยู่ดีใช่หรือไม่?” ถังซานอวี่เย้ยหยัน
ลู่อี้เมินคนโง่งมเหล่านั้น แล้วรีบเดินไปหานายอำเภอฉิน
นายอำเภอฉินมองเขาด้วยสายตาลุกโชน
ลู่อี้คุกเข่าลงตรงหน้านายอำเภอฉิน แล้วเอ่ยขึ้นด้วยความเคารพ “ใต้เท้า ภารกิจลุล่วงแล้วขอรับ เบื้องบนตรวจสอบเรื่องที่ท่านเจ้าเมืองขายดอกฝิ่นออกมาได้แล้ว เขาถูกจับกุมแล้วขอรับ ข้าน้อยมารับใต้เท้าออกไป”
“ลู่อี้ ข้ามองเจ้าไม่ผิดจริง ๆ” นายอำเภอฉินลุกขึ้นยืน “ข้าจะจดจำความดีความชอบของเจ้าเอาไว้”
“ขอบคุณใต้เท้าขอรับ”
ถังซานอวี่มีสีหน้าแข็งทื่อทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...