ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย นิยาย บท 151

เช้าตรู่ นกกำลังร้องจิ๊บ ๆ อยู่บนกิ่งไม้

มู่ซือเจียวอ้าปากหาว เดินออกมาอย่างเกียจคร้าน “ท่านแม่ วันนี้มีอะไรกินหรือ?”

ถังซื่อเพิ่งกลับมาจากซักผ้า เมื่อนางได้ยินเสียงของมู่ซือเจียว นางก็เอ่ยโดยไม่หันหน้ามา “ข้าจะรู้ได้อย่างไร? เจ้าไม่ได้ทำหรือ?”

มู่ซือเจียวตื่นเต็มตาทันที นางจ้องมองไปที่ถังซื่อ “เหตุใดข้าต้องทำ?”

“ตอนที่ข้าออกไปซักผ้า ไม่ใช่ข้าบอกให้เจ้าทำกับข้าวหรือ?” ถังซื่อขมวดคิ้วมองมา “อีกเดี๋ยวท่านย่าของเจ้าก็กลับมาแล้ว หากรู้ว่าเจ้าไม่ได้ทำอาหารคงโมโหอีกแน่ ยังไม่รีบทำอีก?”

“ข้า…” มู่ซือเจียวไม่พอใจ แต่ตอนนี้ย่อมไม่ง่ายที่จะโต้กลับ ไม่มีใครอยากเผชิญหน้ากับแม่เฒ่าเจียงตอนโมโห โดยเฉพาะตอนนี้ มีเพียงครอบครัวบุตรคนโตของพวกนางที่อยู่กับแม่เฒ่าเจียง

มู่ซือเจียวพลันคิดถึงคืนวันที่มีมู่ซืออวี่อยู่ที่บ้าน

ถึงมู่ซืออวี่ไม่อยู่ มีถงซื่อและมู่เจิ้งหานอยู่ก็ดี ความโกรธของแม่เฒ่าเจียงถึงได้หันเหไปทางพวกนั้น

“แค่ก แค่ก” ควันหนาลอยโขมงออกมาจากห้องครัว

“สวรรค์!” แม่เฒ่าเจียงรีบสาวเท้าวิ่งเข้าไป พอเห็นควันลอยตลบไปทั่วทั้งครัวก็ตะโกนด่ามู่ซือเจียว “เจ้าจะทำอาหารหรือจะเผาบ้าน! แม้แต่เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้เจ้ายังทำให้ดีไม่ได้ เช่นนั้นเจ้าจะมีประโยชน์อะไร!”

“ข้า…” ตาของมู่ซือเจียวตาแดงก่ำ

“แค่ก” มู่ต้าไห่ออกมาจากห้องนอน “เหตุใดถึงมีควันมากมายเช่นนี้?”

“ถามลูกสาวสุดที่รักของเจ้าดูสิ เหตุใดถึงไร้ประโยชน์เช่นนี้ แค่ทำอาหารมื้อเดียวก็จะเผาบ้านเสียแล้ว” แม่เฒ่าเจียงด่าทอ “ไม่ว่ามู่ซืออวี่จะโง่เพียงใด อย่างน้อยนางก็ทำอาหารอร่อย แม้แต่นังสารเลวมู่ซืออวี่นั่น เจ้าก็ยังสู้ไม่ได้”

คำสั่งสอนที่มู่ซือเจียวไม่อาจทนได้ที่สุดคืออะไรน่ะหรือ นั่นก็คือการพูดว่านางดีไม่สู้มู่ซืออวี่อย่างไรล่ะ

มู่ซืออวี่ทั้งอ้วนทั้งอัปลักษณ์ ทั้งยังขี้ขลาดตาขาว เป็นคนโง่เง่าที่ทำอะไรไม่เป็นนอกจากประจบเอาใจบ้านใหญ่ แม้แต่ตีลูกตัวเองให้ตายก็ยังทำได้

อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นมู่ซืออวี่ก่อนหน้านี้

ส่วนมู่ซืออวี่ในตอนนี้….

เมื่อนึกถึงเรื่องที่ตนถูกสกุลหลี่ขับไล่ออกมาเพราะมู่ซืออวี่วิ่งโร่ไปฟ้องคุณหนูหลี่ มู่ซือเจียวก็โกรธแค้นขึ้นมา นางจะไม่ปล่อยไปแน่นอน

แม่เฒ่าเจียงช่วยโจ๊กในหม้อไว้ได้ แต่ก็เกือบจะกินไม่ได้

“พรูด!” มู่ต้าไห่พ่นโจ๊กในปากออกมา “นี่อาหารคนแน่รึ?”

แม่เฒ่าเจียงลองชิมดูก่อนจะขมวดคิ้ว “ผักป่าขมไป อย่างอื่นก็กินไม่ได้ ข้าบอกเจ้าให้ใช้ข้าวน้อย ๆ ไม่ใช่ไม่ใช้เลย ไหนจะผักป่านี่อีก เจ้าไม่รู้จักกำจัดความขมก่อนรึ?”

“ข้า… ข้าทำไม่เป็นนี่” มู่ซือเจียวรู้สึกราวกับไม่ได้รับความเป็นธรรม “ท่านย่า ท่านเคยบอกว่างานบ้านเช่นนี้ข้าไม่จำเป็นต้องทำ”

“แล้วจะให้ข้าทำงั้นหรือ? ข้าแก่ปูนนี้แล้วยังต้องปรนนิบัติรับใช้พวกเจ้าอยู่อีกรึ?” แม่เฒ่าเจียงถากถาง “ตอนนี้แม้แต่สาวใช้เจ้าก็เป็นไม่ได้ ได้แต่ต้องทำงานบ้านแล้ว”

“ข้า… ข้าอยู่ในสกุลหลี่ไม่ได้ ข้าก็ไปอยู่สกุลหวังได้ ท่านอาอยู่ในสกุลหวังไม่ใช่หรือ? ขอให้ท่านอาช่วยแนะนำข้าก็ได้นี่” มู่ซือเจียวกล่าว “ท่านย่า ข้าอยู่ที่บ้านทำงานบ้านให้ท่าน เดือนหนึ่งก็ไม่ได้มีเงินอะไร หากข้าเป็นสาวใช้ได้ อย่างน้อยก็มีเงินให้ท่านเดือนละครึ่งตำลึงไม่ใช่หรือ?”

มู่ต้าไห่ได้ยินสิ่งที่มู่ซือเจียวพูด สีหน้าของเขาก็ดีขึ้น

ครอบครัวยังมีหนี้อยู่ข้างนอก เทียบกับการรอคอยความตายอยู่ที่บ้าน ไม่สู้ออกไปหางานทำดีกว่า

หากมู่ซือเจียวไปเป็นสาวใช้ เดือนหนึ่งมีเงินเพิ่มขึ้นมาอีกสักหน่อย ย่อมช่วยได้ไม่น้อย และยิ่งเป็นที่โปรดปรานของผู้ดีมีตระกูลขึ้นมาก็คงดีไม่น้อย

มู่ต้าไห่มองมู่ซือเจียวแล้วขมวดคิ้ว “เจียวเอ๋อร์ หมู่นี้เจ้าอ้วนขึ้นใช่หรือไม่?”

“เอ๊ะ” มู่ซือเจียวประหลาดใจ “ไม่นะท่านพ่อ”

ถังซื่อที่อยู่ข้าง ๆ คล้อยตาม “อ้วนขึ้นจริง ๆ เจ้าเป็นอย่างนี้ใช้ไม่ได้ รูปร่างไม่ผอมบางอีกแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย