ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย นิยาย บท 152

ดวงตาของแม่เฒ่าเจียงเบิกกว้าง “นี่เป็นความผิดของพวกเจ้า ข้าจะทำอย่างไรได้?”

“ท่านแม่ หลายปีมานี้ท่านคงเก็บเงินไว้ไม่น้อย” มู่ต้าไห่หน้าแดงก่ำ “ตอนนั้นท่านนำเงินออกมาให้เจ้ารองไปหาหมอ ตอนนี้เหตุใดถึงช่วยข้าไม่ได้?”

“ข้าไม่มีเงิน” แม่เฒ่าเจียงมองมู่ต้าไห่อย่างอ่อนล้า “ที่ดินของครอบครัวล้วนขายให้พวกเจ้าหมดแล้ว เจ้ายังคิดจะเอาเงินเล็กน้อยที่ข้าเก็บไว้กินยามแก่เฒ่าอีก เจ้ามันอกตัญญู”

ชาวบ้านต่างชี้ไปที่มู่ต้าไห่และถังซื่อแล้วพูดคุยกันอย่างออกรส สีหน้าของแต่ละคนเหลือเพียงความดูถูกดูแคลน

ถึงแม้พวกเขาจะไม่ชอบนิสัยของแม่เฒ่าเจียง แต่เมื่อเห็นมู่ต้าไห่เอาแม้กระทั่งเงินที่แม่เก็บไว้ใช้ นั่นน่ารังเกียจมากกว่าเสียอีก

“หยุดพล่ามซะที! เงินน่ะจะคืนหรือไม่คืน?” นายท่านซ่งตะคอกเสียงดังลั่น “หากไม่คืนเงินมา ข้าจะเอาพวกเจ้าไปขายเป็นทาส”

“นายท่าน แม่นางน้อยคนนั้นสวยไม่เบา…” ลูกสมุนข้างหลังเขาชี้ไปยังมู่ซือเจียว

นายท่านซ่งมองไปทางมู่ซือเจียว

มู่ซือเจียวหลบเข้าข้างหลังแม่เฒ่าเจียง “ท่านย่า ช่วยข้าด้วย”

“มู่ต้าไห่ ไม่คืนเงินมาก็ไม่เป็นไร เอาลูกสาวของเจ้ามาชดใช้หนี้ เรื่องนี้ก็ถือว่าสิ้นสุดแล้ว” นายท่านซ่งมองมู่ซือเจียวด้วยสายตามุ่งร้าย “ถึงแม้ผิวจะกระด้างไปหน่อย แต่ขายให้เรือนวสันต์ก็น่าจะได้เงินอยู่บ้าง”

เรือนวสันต์…

ทุกคนมองมู่ซือเจียวด้วยสายตาแปลกพิกล

ถึงแม้ชีวิตนี้จะไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเข้าไปในเรือนวสันต์ แต่พวกเขาก็ได้ยินชื่อนี้อยู่เสมอ

“ข้าไม่อยากไป ไม่อยากไป ท่านพ่อ ท่านแม่…”

“นายท่าน ให้เวลาข้าอีกหน่อยเถอะ ข้าจะใช้คืนอย่างแน่นอน” ถึงแม้มู่ต้าไห่จะไม่มีมนุษยธรรม แต่ก็ไม่อยากให้ลูกสาวของตนต้องถูกขายไปในสถานที่เช่นนั้น

“ให้เวลาเจ้าเพิ่มงั้นรึ? ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ช้าหนึ่งวันเพิ่มหนึ่งตำลึงเงิน หากเจ้าตกลง ข้าย่อมเพิ่มเวลาให้เจ้าได้”

“นี่มันปล้นกันชัด ๆ!” แม่เฒ่าเจียงตะโกน

“ข้าไปทำอะไรให้พวกเจ้ากัน ลูกชายของเจ้าก็ไม่ใช่ไม่รู้ ในเมื่อกล้ามายืมเงินจากข้า เช่นนั้นก็แสดงว่าเตรียมใจที่จะใช้คืนในราคาสูงแล้ว” นายท่านซ่งเย้ยหยัน “วันนี้ข้าจะทิ้งคำพูดไม่น่าฟังไว้ตรงนี้ เลือกมาระหว่างชดใช้เงินกับนำนังหนูนี่มาให้ข้า อยากจะเลื่อนเวลาออกไปสักสองสามวันเป็นไปไม่ได้ ล่าช้าหนึ่งวันดอกเบี้ยหนึ่งตำลึงเงิน”

“ท่านแม่ ท่านเอาเงินให้ข้ายืมเถอะ!” มู่ต้าไห่โขกหัวให้แม่เฒ่าเจียง “ถือว่าลูกชายท่านขอร้องท่าน ท่านคงไม่อยากให้พวกเขานำเจียวเอ๋อร์ไปกระมัง!”

“ท่านย่า….” มู่ซือเจียวมองแม่เฒ่าเจียงอย่างวิงวอน “ท่านย่า… ขอร้องท่านแล้ว ข้าจะกตัญญูทดแทนบุญคุญ ท่านต้องช่วยข้านะ”

แม่เฒ่าเจียงกวาดตามองทุกคนในครอบครัวบุตรชายคนโต ก่อนจะกระทืบเท้าด้วยความโมโห “พวกเจ้ามันผีทวงหนี้จริง ๆ ข้าจะให้เงินพวกเจ้า แต่พวกเจ้าจะต้องคืนเงินให้ข้า นี่เป็นเงินใช้ยามแก่เฒ่าของข้า”

“พวกเราจะต้องคืนแน่นอน” มู่ต้าไห่เห็นแม่เฒ่าเจียงยอมให้เงินก็ดีอกดีใจ “ท่านแม่ ในอนาคตข้าจะกตัญญูกับท่านให้มาก หากข้าไม่กตัญญูก็จงตีข้าให้ตาย”

แม่เฒ่าเจียงถอนหายใจ เข้าไปหยิบกล่องใบหนึ่งที่ใช้เก็บเงินไว้ออกมาจากในห้อง

“นายท่าน ทั้งหมดมี 28 ตำลึงเงินและอีก 300 อีแปะ ยังขาดอีก 2 ตำลึงขอรับ” ลูกสมุนรายงาน

“ยังไม่พอ!” นายท่านซ่งมองมู่ซือเจียว “สวรรค์ก็ช่วยพวกเจ้าไม่ได้”

“ช้าก่อน” มู่ซือเจียวถอดเครื่องประดับบนหัวออกมา จากนั้นก็ถอดกำไล “นี่เป็นของตบรางวัลที่ข้าได้รับมาตอนยังเป็นสาวใช้อยู่ในเมือง จะต้องมากกว่า 2 ตำลึงเงินอย่างแน่นอน ถือเป็น 2 ตำลึงไปเถิด”

“หึ!” นายท่านซ่งเยาะเย้ย “ถือว่าพวกเจ้ารู้จักเอาตัวรอด ไป! พวกเรากลับ!”

หลังจากนายท่านซ่งจากไปพร้อมกับลูกสมุนใจคอโหดเหี้ยมเลวร้าย แม่เฒ่าเจียงก็ทรุดลงกับพื้น ตบเข่าตัวเองแล้วร้องห่มร้องไห้อย่างเจ็บปวดใจ “เหตุใดชีวิตข้าถึงต้องทุกข์ทรมานเช่นนี้? สวรรค์โปรดลืมตามองข้าบ้างเถิด! จากนี้จะทำอย่างไร?”

“ท่านแม่…” มู่ต้าไห่ละอายใจ “ข้าจะคืนให้ท่าน”

“จะคืนเช่นไร? เจ้าจะเอาจากไหนมาคืน?” แม่เฒ่าเจียงจ้องมองมู่ต้าไห่ “ข้าไม่ควรให้เจ้าไปทำกิจการอะไรนั่นตั้งแต่แรกเลย เจ้าด้วย เจ้าบอกไม่ใช่หรือว่าพี่ชายเจ้าเชื่อถือได้ เชื่อถือได้เป็นเช่นนี้หรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย