“ข้าก็ต้องเก็บไว้เป็นความลับก่อนสิ” เจิ้งซูอวี้ยิ้มอย่างมีเลศนัย
“ลึกลับซับซ้อนเสียจริง” หลี่หงซูแค่นเสียงเย็นชา “ถึงตอนนั้นถ้าไม่ส่งบัตรเชิญมาให้ข้านะ”
มู่ซืออวี่นับว่าได้เห็นความสัมพันธ์ทั้งรักทั้งอยากฆ่าแกงกันของทั้งสอง อันที่จริงนางค่อนข้างอิจฉาพวกเขา
“คุณหนูซูอวี้ หากท่านคิดว่าทุกอย่างเข้าที่แล้ว เช่นนั้นข้าต้องขอจบงาน”
“เสร็จสมบูรณ์แล้วล่ะ ขอบคุณท่านมาก” เจิ้งซูอวี้กล่าว “ถึงตอนที่ข้าเปิดร้านท่านก็มาด้วยนะ”
“ข้าคงไม่ได้มาแล้วล่ะ” มู่ซืออวี่ยิ้มบาง ๆ “ที่บ้านมีหลายสิ่งต้องทำ”
“เช่นนั้นก็ได้” เจิ้งซูอวี้มองชิวซวงที่อยู่ข้าง ๆ
ชิวซวงจึงเอ่ยกับมู่ซืออวี่ว่า “ฮูหยิน เชิญทางนี้”
มู่ซืออวี่ได้รับทั้งหมด 150 ตำลึงเงิน หลังจากหักค่าใช้จ่ายในการซื้อวัสดุ กำไร เบ็ดเสร็จที่ได้รับคือ 120 ตำลึงเงิน
“พี่สะใภ้” เฟิงเจิงกล่าวทักทายนาง
“คุณหนูเจิ้งพึงพอใจมาก จ่ายค่าจ้างแล้ว นี่เป็นของพวกเจ้าตามสัญญา” มู่ซืออวี่แจกจ่ายถุงเงินให้แต่ละคน
เฟิงเจิงรู้สึกว่ามันหนักกว่าที่คิด จึงเทเงินในถุงออกมา ทันใดนั้นตาเขาก็แทบถลนออกมาทันที “เยอะขนาดนี้เลย?”
“แต่ละคนได้คนละ 8 ตำลึงเงิน” มู่ซืออวี่กล่าว “นี่เป็นเงินที่ข้าตั้งตามเนื้องาน หากพวกท่านคิดว่ายังไม่เหมาะสม พวกเราพูดคุยกันอีกทีได้”
“เหมาะสมแล้ว เหมาะสมแล้ว” ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน
“ข้ายังมีงานที่ต้องการให้พวกท่านช่วยอีก บ้านของข้ายังต้องทำเครื่องเรือน ข้าทำคนเดียวต้องใช้เวลานานแน่ ๆ สิ้นเปลืองเวลาเกินไป หากได้พวกท่านมาช่วย หลังจากงานเสร็จสิ้นแล้วแต่ละคนจะได้รับ 5 ตำลึงเงิน” มู่ซืออวี่กล่าวต่อ “คงต้องใช้เวลาประมาณครึ่งเดือน พวกท่านยินดีหรือไม่?”
“ยินดี ๆ”
แค่เพียงครึ่งเดือนก็ได้เงินถึง 5 ตำลึงเงิน ใครเล่าจะเคยนึกฝัน
เดิมทีพวกเขาติดค้างศาลาว่าการ 50 ตำลึงเงิน ทว่าเพียงแค่เดือนเดียวพวกเขาก็สามารถชำระได้สิบกว่าตำลึงเงินแล้ว สำหรับพวกเขาแล้วกล่าวได้ว่ากดดันน้อยกว่าแต่ก่อนมาก
“พี่สะใภ้”
ทุกคนคุกเข่าลง
“พวกท่านทำอะไร?” มู่ซืออวี่รีบพยุงเฟิงเจิงลุกขึ้นทันที “พวกท่านรีบลุกขึ้นเร็ว”
“พี่สะใภ้ ท่านเป็นผู้มีพระคุณของพวกเรา” เจี่ยงจงกล่าว “พวกเรายินดีติดตามท่าน ท่านสั่งให้ทำอะไรก็ทำอย่างนั้น จะไม่ปริปากบ่นแม้แต่น้อย”
“พรุ่งนี้มาที่บ้านข้าเถอะ!” มู่ซืออวี่พูดด้วยรอยยิ้ม “มาทำงานให้ข้า ข้าจะทำให้พวกท่านชำระหนี้ให้หมดภายในครึ่งปี”
…
แกร๊ง แกร๊ง…
เสียงเงินถูกเทลงมากลิ้งไปทั่วโต๊ะ
ถงซื่อเห็นเงินมากมายขนาดนี้ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ทว่าเมื่อมู่ซืออวี่ส่ง10 ตำลึงเงินมาให้ นางกลับตัวแข็งทื่อ
“เหตุใดถึงให้ข้า?”
“ช่วงนี้ท่านช่วยข้าดูแลอวิ๋นเอ๋อร์ ทั้งยังช่วยเป็นลูกมือข้า เช่นนี้ไม่สมควรได้รับเงินหรือ?” มู่ซืออวี่ยัดเงินใส่มือมารดา “รับไว้ อยากซื้ออะไรก็ซื้อสิ่งนั้น”
“ไม่เอา” ถงซื่อขมวดคิ้ว “น้องชายเจ้าเล่าเรียนก็ใช้จ่ายเงินไปมากแล้ว พวกเจ้าก็จ่ายให้ทั้งหมด ไหนจะซื้อจตุรสมบัติอะไรนั่น เจ้ากังวลเกินไปแล้ว ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย อยู่แต่บ้านทุกวัน เจ้ายังจะให้ข้าสิบตำลึงเงินอีก หากข้ารับมาจะดูเป็นคนเช่นไรกัน”
“ดูเป็นเช่นไร? ลูกสาวของท่านให้เงินทดแทนบุญคุณ อย่าว่าแต่ 10 ตำลึงเลย 100 ตำลึงท่านก็จะได้รับ รอลูกชายของท่านเป็นขุนนางก่อนเถอะ ท่านจะเจอเรื่องดี ๆ มากกว่านี้อีก ทีนี้เวลาผู้หญิงในหมู่บ้านพูดอะไร ท่านก็อย่าไปสนใจล่ะ ตอนนี้ท่านไม่จำเป็นต้องพะวงอะไรแล้ว นี่ไม่ใช่ว่าชีวิตดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนอีกหรือ?”
“ข้าจะไม่สนใจ เจ้าก็อย่าไปสนใจล่ะ” ถงซื่อเอ่ย “ข้าโง่เขลา ยังดีที่พวกเจ้าไม่เหมือนข้าตอนนี้จึงมีชีวิตดีเช่นนี้ ข้ามีความสุขจริง ๆ”
“ท่านแม่ ข้าบอกนายช่างเหลียงเอาไว้แล้ว พรุ่งนี้เขาจะพาคนมาซ่อมแซมบ้านท่านสักหน่อย”
“ไม่จำเป็นต้องซ่อมกระมัง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...