สีหน้าของเจิ้งซูอวี้ครึ้มลง “คุณชายถัง ท่านอาจจะเข้าใจผิด ท่านพ่อของข้าแค่ขอให้ข้ามาทานข้าวที่นี่สักมื้อเท่านั้น ไม่มีความหมายอื่นใด”
“ไม่มีความหมายอื่นใด?” ถังหมิงฉงไม่อาจรักษาภาพลักษณ์ที่เสแสร้งไว้ได้อีกต่อไป
เขาลุกขึ้น จ้องมองเจิ้งซูอวี้อย่างไม่เป็นมิตร “หากไม่มีความหมายอื่น เหตุใดต้องมาที่ร้านอาหารของคุณชายเช่นข้าด้วย?”
“ไม่ใช่ว่าคุณชายเปิดประตูทำกิจการ เลือกลูกค้าได้หรือ?” เจิ้งซูอวี้ประหลาดใจ “อีกอย่าง ข้ามาทานข้าวที่นี่กับสหาย เป็นคุณชายที่พบข้าแล้วเดินเข้ามาทักทายข้าเอง ข้าคงทำเป็นไม่เห็นท่านไม่ได้กระมัง?”
“ซูอวี้ ที่แท้ท่านก็ไม่ได้สนิทกับคุณชายถังท่านนี้หรอกหรือ?” มู่ซืออวี่แปลกใจ “เช่นนั้นก็ดี ร้านอาหารของคุณชายถังแห่งนี้ดูเหมือนกิจการกำลังไปได้ดี แต่ในความเป็นจริงวัตถุดิบกลับไม่สดใหม่ รสชาติก็พอถู ๆ ไถ ๆ ที่ยังมีลูกค้าอยู่ก็เพราะราคาถูก ของถูก ๆ นั้นมีผู้ใดบ้างที่ไม่ชอบ”
“ของถูกแต่คุณภาพไม่ดีก็ไม่สามารถรักษาใจคนเอาไว้ได้หรอก คุณชายถัง ครั้งก่อนที่ข้าพบท่านยังมีจี้หยกอยู่รอบเอว วันนี้ดูสิ….”
“ไม่เห็นจี้หยกก็แล้วไปเถิด แม้แต่แหวนปานจื่อหยก*[1] ในมือก็หายไปเสียแล้ว สกุลถังของพวกท่าน… คงไม่ใช่ว่าหมดตัวแล้วหรือ?”
ถังหมิงฉงตบโต๊ะดังโครม “เจ้า!!!”
“ไม่ต้องตื่นเต้น ข้าแค่ล้อเล่นเท่านั้น ผู้ใดถือเป็นจริงจังย่อมแพ้แล้ว” มู่ซืออวี่มองเจิ้งซูอวี้แล้วเอ่ยว่า “อิ่มแล้วหรือยัง หากอิ่มแล้ว พวกเราไปเถอะ”
เจิ้งซูอวี้ขมวดคิ้ว “หลังจากที่ท่านเอ่ยขึ้นมาแล้ว ข้าก็รู้สึกว่าอาหารพวกนี้แปลก ๆ พวกเราไปทานที่อื่นกันเถอะ ที่แบบนี้ข้าจะไม่มาอีกแล้ว”
“นังหญิงบ้านนอกต่ำช้า! ไม่รู้จริง ๆ ว่าลู่อี้แต่งงานกับหญิงหยาบช้าเช่นเจ้าได้อย่างไร” ถังหมิงฉงด่าไล่หลังมู่ซืออวี่
มู่ซืออวี่หยุดชะงักทันที
ถังหมิงฉงเย้ยหยัน จ้องมองนางอย่างเป็นปฏิปักษ์ เจิ้งซูอวี้เห็นเข้าก็เขย่าแขนของมู่ซืออวี่ “อย่าไปสนใจเขาเลย”
นางรู้สึกเสียใจขึ้นมา หากรู้ว่าทั้งสองมีความแค้นต่อกันก็คงไม่พามู่ซืออวี่มาที่นี่
สาเหตุที่นางมาพบกับถังหมิงฉงเป็นความคิดของท่านพ่อ เขาบอกว่ากิจการของสกุลถังกำลังไปได้ดี หากแต่งเข้าสกุลถังได้ก็ช่วยครอบครัวได้
ด้านหนึ่งนางรู้สึกคล้อยตาม แต่อีกด้านก็รู้สึกกังวล นี่เป็นเหตุผลที่นางดึงมู่ซืออวี่มาเป็นกุนซือ
ตุบ!
มู่ซืออวี่กุมท้อง ร่างกายพลันโอนเอน โซซัดโซเซล้มลงบนโต๊ะตรงข้าม
“ท้องของข้า… ปวดเหลือเกิน อาหาร… อาหารมีปัญหา โอ๊ยยย”
“อะไรนะ? อาหารมีสิ่งผิดปกติรึ?” แขกโต๊ะข้าง ๆ ยืนขึ้นด้วยความหวาดผวา “นี่ไม่ซ้ำรอยภัตตาคารหมายเลขหนึ่งหรอกหรือ ข้างในใส่อะไรหรือเปล่า?”
ลูกค้าโต๊ะอื่น ๆ ล้วนหวาดวิตกเช่นกัน
“ทุกท่าน! หญิงผู้นี้จงใจให้ร้ายข้า อาหารของร้านเราไม่มีปัญหา!” ถังหมิงฉงตะโกน
“สีหน้าของหญิงผู้นี้ซีดเซียวเช่นนี้แล้ว ยังจะบอกว่าไม่มีปัญหาอีกหรือ?”
“ใช่ ๆ หากไม่มีปัญหาจริง ๆ เหตุใดใบหน้าของหญิงคนนี้ถึงได้ซีดขนาดนี้?”
“พวกเราไปกันเถอะ ไม่ต้องมาที่นี่แล้ว”
“ไป ๆ”
ผู้จัดการร้านรีบร้อนขวางคนเอาไว้
อย่างไรก็ตาม ลูกค้าคนแล้วคนเล่าก็ยังคงทยอยออกไป
ถังหมิงฉงร้อนรนหยุดพวกเขาเอาไว้ เมื่อเขาได้สติกลับมา มู่ซืออวี่และเจิ้งซูอวี้ก็หายไปแล้ว
มู่ซืออวี่และเจิ้งซูอวี้เดินออกมาจากร้านอาหารแห่งนั้น พอหันไปเห็นภาพอันวุ่นวายโกลาหลก็มองหน้ากันแล้วระเบิดหัวเราะออกมา
“ข้าขอโทษ ข้าไม่รู้ว่าท่านมีปัญหากับเจ้าคนแซ่ถังนั่น” เจิ้งซูอวี้ขอโทษจากใจจริง
“คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ใช่ข้าที่มีปัญหากับเขา แต่เป็นสามีของข้า คนผู้นี้จิตใจคับแคบ ตอนที่สามีข้าเรียนอยู่ในสำนักบัณฑิต สามีของข้าได้รับการยกย่องชมเชยจากเจ้าสำนัก เขาอิจฉาริษยา สร้างความลำบากให้สามีของข้า ครั้งที่แล้วก็ก่อความวุ่นวายให้สามีของข้า แม้แต่หญิงสาวตัวเล็ก ๆ อย่างข้า เขายังไม่ยอมปล่อย คนผู้นี้ไม่ใช่คู่ครองที่เหมาะสมหรอก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...