สตรีในหมู่บ้านช่วยเก็บกวาดข้าวของ เมื่อมีหลายคนช่วยกันเช่นนี้ การทำความสะอาดจึงไม่ยากนัก ไม่นานก็เก็บเสร็จอย่างรวดเร็ว
“สะใภ้อี้ โต๊ะที่เจ้าใช้วันนี้ช่างกลมดีจริง ทั้งยังหมุนได้อีกด้วย ใช้สะดวกจริง ๆ อยากกินอะไรก็หมุนมาได้ อาหารอยู่ตรงไหนล้วนกินได้หมด”
“ใช่แล้ว ท่านอยากซื้อหรือไม่? ถ้าท่านเอาไม้มาเอง ข้าคิดแค่ค่าฝีมือ โต๊ะหนึ่งตัว 100 อีแปะ” มู่ซืออวี่เอ่ยยิ้ม ๆ
“ฮ่า ๆ ข้าแค่พูดเรื่อยเปื่อยไปน่ะ” หญิงนางนั้นหน้าเจื่อนทันที
มู่ซืออวี่ยิ้มบาง ๆ ไม่เปิดโปงเรื่องที่อีกฝ่ายคิดจะเอาเปรียบ
หญิงออกเรือนคนอื่น ๆ ล้วนเข้าใจความหมายของมู่ซืออวี่ ดูเหมือนหากคิดจะฉวยประโยชน์จากนางคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ คิดอยากได้ของจากบ้านนางก็ย่อมได้ แต่เจ้าจะได้ในสิ่งที่เจ้าจ่าย ไม่เช่นนั้นผู้ใดก็อย่าได้แม้แต่จะคิด
“พี่สะใภ้อี้” จางโม่หลานเดินเช็ดไม้เช็ดมือออกมา “ข้างในเรียบร้อยแล้ว”
“ขอบคุณเจ้ามากนะ โม่หลาน” มู่ซืออวี่กล่าว “รอข้าสักประเดี๋ยว…”
ผ่านไปครู่หนึ่ง มู่ซืออวี่ก็ออกมาจากข้างในพร้อมผ้าในมือ “นี่เหลือจากที่ทำเสื้อผ้าของเด็ก ๆ ในครอบครัวเรา เอาไปทำเสื้อผ้าชั้นในให้เด็กได้พอดี เจ้าดูว่าใช้ได้หรือไม่”
“ใช้ได้ เหมาะกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว” เหยาซื่อเดินเข้ามาหยิบไปจากมือของมู่ซืออวี่ “เจ้านี่คิดรอบคอบจริงเชียว”
“ป้าเหยา สะใภ้บ้านพวกท่านมีลูกแล้วหรือ?” หญิงออกเรือนที่อยู่ข้าง ๆ ประหลาดใจ
เหยาซื่อพยักหน้าด้วยความภูมิใจ “ใช่แล้ว สามเดือนแล้ว”
“โอ้ ยินดีด้วย ๆ”
“ความสัมพันธ์ของพวกท่านสองครอบครัวคงดีมาก พวกเรายังไม่รู้ ภรรยาลู่อี้กลับรู้ก่อนแล้ว”
“ข้าเองก็ยังไม่ได้บอกนาง แต่นางเอาใจใส่น่ะ ก็เลยสังเกตเห็นด้วยตนเอง” เหยาซื่อหันมาเอ่ยถาม “ใช่หรือไม่ล่ะ?”
“ใช่แล้ว” มู่ซืออวี่ยิ้ม “ครั้งก่อนข้าเห็นโม่หลานอาเจียน ตอนแรกก็แค่สงสัย แต่เมื่อครู่ข้าเห็นนางระมัดระวังตรงท้องเป็นพิเศษ มักจะวางมือไว้บนท้องบ่อย ๆ นี่ย่อมเป็นสัญชาตญาณต้องการปกป้อง ข้าเลยเดาว่าโม่หลานอาจจะท้อง แล้วนึกขึ้นมาได้ว่าผ้าที่บ้านข้า นางอาจจะใช้ได้ ป้าเหยาชอบก็ดีแล้ว แต่ถ้าไม่ชอบก็ช่างเถอะ เช่นนั้นข้าก็ไม่ให้แล้ว”
“ผู้ใดไม่ชอบ? ผู้ใดจะไม่ชอบกัน? เสื้อบนตัวของเด็กบ้านเจ้าไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะซื้อได้ มีของถูกไม่รีบคว้าไว้ก็เป็นไข่ตะพาบ*[1] สิ!” เหยาซื่อกล่าวเกินจริง
คนอื่น ๆ หัวเราะครื้นเครงไปตาม ๆ กัน
ถึงแม้จะเป็นถ้อยคำหยาบคาย แต่บางครั้งหากเอ่ยออกมาก็อาจทำให้ผู้คนผ่อนคลายมีความสุข
“พี่สะใภ้อี้ สามีของท่านดื่มมากไป ข้าเอาเขาไปหย่อนไว้ข้างในนะ!” เอ้อร์หนิวประคองลู่อี้เข้ามา
“จะเอาเข้าไปข้างในทำไม? เอาไปโยนไว้ในบ้านเสี่ยวเฮยนู่น” มู่ซืออวี่เอ่ยด้วยความโมโห
“ฮ่าฮ่า เช่นนั้นท่านมาทำเองเถิด ข้าไม่กล้า เดี๋ยวพี่อี้จะตีข้าเอา” เอ้อร์หนิวประคองลู่อี้เข้าไปในห้อง
คนอื่นค่อย ๆ ทยอยกลับไปแล้ว ของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เหลือนั้นใช้เวลาไม่นานก็เก็บจนเสร็จเรียบร้อย
“ท่านแม่ ท่านนั่งลงสักหน่อย” มู่ซืออวี่พยุงถงซื่อ
“มีอะไรหรือ?” ถงซื่องุนงง
“ท่านปวดหลังใช่หรือไม่?” มู่ซืออวี่เอ่ยขึ้นมา “เมื่อครู่นี้ข้าเห็นท่านชะงักไปครู่หนึ่ง”
“ข้าแก่ปูนนี้แล้ว ก็ตามประสาคนแก่น่ะ ไม่เป็นอะไรหรอก” ถงซื่ออยากจะลุกขึ้น ทว่าทันใดนั้นก็ต้องส่งเสียงสูดปากออกมา ตามมาด้วยความเจ็บปวดบนใบหน้า
“หานเอ๋อร์!” มู่ซืออวี่ร้องเรียกมู่เจิ้งหาน
มู่เจิ้งหานออกมาจากห้องของฉาวอวี่ “ท่านพี่ ข้าอยู่นี่”
“เจ้าไปเชิญท่านหมอจูมาดูอาการท่านแม่ให้ที”
“ท่านแม่เป็นอะไรหรือ?”
“ปวดหลังน่ะ”
“ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”
ถงซื่อพยายามเกลี้ยกล่อมว่าตนไม่เป็นอะไร แต่สุดท้ายก็ทนการรบเร้าของลูกชายและลูกสาวไม่ได้ ทำได้เพียงยอมรับแต่โดยดี
“วันนี้ทุกคนยุ่งอยู่กับการรับรองแขก ไม่ได้ดูแลเด็ก ๆ ไม่รู้ว่าพวกเขาได้กินอะไรหรือยัง” ถงซื่อกล่าว
“เด็ก ๆ โตขนาดนี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงพวกเขา”
มู่ซืออวี่ก็ไม่รู้ว่าเด็ก ๆ ขอของกินไปทำอะไร เพียงแต่ไม่อยากบอกถงซื่อ เดี๋ยวมารดาจะเสียดายเนื้อและเครื่องปรุงเสียเปล่า
“ท่านแม่ ห้องข้าง ๆ สองห้องเป็นห้องของท่านกับหานเอ๋อร์ พวกท่านจะมาตอนไหนก็ได้” มู่ซืออวี่กล่าว “ข้าจะพาท่านเข้าไปนอนสักพัก จะได้สบายขึ้นสักหน่อย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...