“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจียงเหล่าผู้นั้นเป็นใคร?” นายอำเภอฉินเอ่ยอย่างมีลับลมคมใน
ลู่อี้ส่ายหน้า “ไม่รู้ขอรับ”
“เขาคือเจียงไท่ฟู่*[1]หนึ่งในสามขุนนางใหญ่แห่งเมืองหลวง ราชครูของฝ่าบาทองค์ปัจจุบัน” นายอำเภอฉินเอ่ยเสียงเย็น ก่อนจะเดินไปเดินมาอย่างว้าวุ่นใจ “บุคคลเช่นนี้ลาออกอย่างกะทันหัน แล้วถ่อมารักษาอาการป่วยถึงอำเภอเรา ไม่รู้จริง ๆ ว่าเขามีแผนการอะไรอยู่กันแน่ แต่ไม่ว่าเขาจะมีแผนการอะไร นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ผู้น้อยอย่างพวกเราจะล่วงเกินได้…”
“ขอแสดงความยินดีกับใต้เท้า” ลู่อี้เอ่ยขัดคำพูดของนายอำเภอฉิน
“ยินดีอะไรกัน?” นายอำเภอฉินชะงัก
“เจียงไท่ฟู่เป็นถึงราชครูของฝ่าบาท หากเขาต้องการแร่เหล็กก็จัดการอย่างเปิดเผยและเป็นธรรมได้ ทว่ากลับสร้างปัญหายากเข็ญเช่นนี้ให้กับใต้เท้า ใต้เท้าไม่คิดอะไรหรือมีเบื้องลึกอะไรกันแน่?”
“เจ้าคาดเดาเจตนาของเจียงเหล่าได้แล้วหรือ? ข้าไม่อาจข่มตาหลับตลอดทั้งคืนเพราะไม่รู้จะทำเช่นไร หากเจ้ารู้แล้วก็อย่าปิดไว้ดีกว่า”
“เขากำลังทดสอบใต้เท้าฉินขอรับ”
“ทดสอบข้าหรือ? เพราะเหตุใด?”
“จะต้องเป็นเพราะได้ยินว่าใต้เท้ารักพสกดั่งลูกหลาน ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการเมืองฮู่เป่ย คงอยากเห็นว่าใต้เท้านั้นเป็นคนที่ใช้การได้จริงหรือไม่”
“นี่มัน…”
นายอำเภอฉินเดินไปมาอยู่กับที่
“หมายความว่าเขาต้องการดูว่าข้าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไรเช่นนั้นหรือ?”
“เขาต้องการดูว่าใต้เท้าจะเข้าใจเจตนาของเขาหรือไม่ขอรับ” ลู่อี้คลี่ยิ้มจาง ๆ
นายอำเภอฉินเองก็หาใช่คนโง่ พอลู่อี้เตือนสติ เขาก็ขจัดหมอกหนาทึบแล้วมองเห็นแก่นแท้ได้ทันที
“ลู่อี้ เจ้าไปที่จวนเจียงเหล่ากับข้าสักรอบเถิด” นายอำเภอฉินสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ “หากเป็นจริงอย่างที่เจ้าว่า เช่นนั้นเจ้าก็เป็นดาวนำโชคของข้า ข้าจะไม่มีทางปฏิบัติต่อเจ้าอย่างไม่เป็นธรรมแน่นอน”
ณ จวนเจียงเหล่า บ่าวรับใช้พานายอำเภอฉินและลู่อี้เข้ามายังสวนหลังเรือน
“นายท่าน คนจากศาลาว่าการมาหาขอรับ”
ชายชราที่กำลังตกปลาอยู่เอ่ยโดยไม่หันกลับมามอง “ยกชามา”
“ขอรับ”
ขณะที่นายอำเภอฉินและลู่อี้กำลังจะคำนับ ก็ได้ยินเจียงเหล่าผู้นั้นพูดขึ้น “ตกปลาเป็นหรือไม่?”
นายอำเภอฉินชะงักท่าคำนับอยู่ตรงนั้น ก่อนจะค่อย ๆ ประสานมือ “พอได้ขอรับ”
เจียงเหล่าถามอีกครั้ง “แล้วเจ้าหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆ ล่ะ?”
ลู่อี้เอ่ยว่า “ครอบครัวข้าน้อยยากแค้น มักลงน้ำจับปลา ไม่เคยตกปลามาก่อนขอรับ”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ลองดูเสียสิ ตาเฒ่าอย่างข้าอยู่คนเดียวเบื่อหน่ายนัก นาน ๆ จะมีคนมาตกปลาเป็นเพื่อน คงจะไม่เงียบเหงาถึงขนาดนั้นแล้ว”
นายอำเภอขานตอบรับแล้วเดินไปหาเบ็ดตกปลาด้านข้าง ส่วนลู่อี้เดินไปยังเบ็ดอีกคันหนึ่ง
มีที่ว่างอยู่สองที่พอดิบพอดี ราวกับคาดการณ์ไว้แล้วว่าจะมีคนสองคนมาเยี่ยมเยือน
หลังจากบ่าวรับใช้ยกชามาให้แล้วจึงถอยกลับไป
ริมทะเลสาบมีคนตกปลาอยู่เพียงสามคน ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาอีก
นายอำเภอฉินรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันรุนแรง ความรู้สึกเช่นนี้เหมือนตอนเข้ามาสอบในเมืองหลวงสมัยยังเป็นศิษย์ในสำนักไม่มีผิด เขาเขียนกระดาษข้อสอบเสร็จด้วยใจกระวนกระวาย ทว่าผู้คุมสอบคนหนึ่งที่เดินผ่านมาหยิบกระดาษคำตอบของเขาขึ้นมาแล้วอ่านแล้วอ่านอีก จากนั้นก็ทำสีหน้าเย็นชา ไม่เอ่ยอะไรออกมาสักคำ
ซ่า!
ปลาตัวหนึ่งติดเบ็ดเข้าแล้ว
เจียงเหล่าจับปลาได้ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยปรากฏรอยยิ้ม “วันนี้ได้ไม่เลว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...