ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย นิยาย บท 178

ตอนที่ลู่อี้กลับมา มู่ซืออวี่ก็เก็บกวาดเรียบร้อยและขึ้นรถม้าแล้ว

เขาขึ้นรถม้าตามไป

มู่ซืออวี่รู้สึกแปลก ๆ จึงถามขึ้น “รถม้าของท่านอยู่ทางนั้นนะ”

“ข้าจะนั่งกับเจ้า” เขาเอ่ยพลางนั่งลงข้างนาง

“เช่นนั้นเช่ารถม้าตั้งหลายคันก็ไร้ประโยชน์น่ะสิ” มู่ซืออวี่บ่นพึมพำ

“ใครว่าไร้ประโยชน์กัน? เดี๋ยวเข้าเมืองไปก็ได้ใช้แล้ว” ลู่อี้เลิกม่านขึ้น พูดกับจือเชียนที่นั่งอย่างเดียวดายว่า “เจ้าตามมาข้างหลัง”

“ขอรับ” จือเชียนหัวเราะพลางเอ่ยตอบ

รถม้ากว้างขวางมาก อย่าว่าแต่คนสองคนเลย ต่อให้นั่งกันสักสามสี่คนก็ไม่มีปัญหา เพียงแต่ช่วงนี้ลู่อี้ติดหนึบกับภรรยาราวกับตังเม นางจึงไม่คุ้นชินกับการอยู่กับเขาตามลำพัง

ลู่อี้หลับตาลง มู่ซืออวี่เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกผ่อนคลายลง กระทั่งเอนศีรษะพิงกับผนังด้านข้างของรถม้า

รถม้าโคลงเคลง ไม่นานก็ทำให้นางง่วงงุน

ลู่อี้เห็นร่างของนางเอียงเอนจึงช่วยประคองตัวนางให้พิงไหล่ของเขา

ชายชราที่หาบของกำลังเดินอยู่ เมื่อเห็นรถม้าก็หลีกทางให้ไปด้านข้าง

หลานชายตัวน้อยที่นั่งอยู่ในกระจาดหาบเอ่ยขึ้นเสียงใส “ท่านปู่ ม้าตัวใหญ่ยิ่งนัก”

“ใช่แล้ว ตัวใหญ่มาก” สีหน้าของชายชราเต็มไปด้วยความอิจฉา

ลู่อี้มองภาพทุ่งนาและเหล่าชาวนาที่ทำงานตรากตรำอยู่ในทุ่งนา รู้สึกเพียงว่าเช้าตรู่วันนี้ช่างงดงามเป็นพิเศษ แม้แต่กลิ่นที่โชยอยู่ในอากาศก็ยังหอมหวาน

เอี๊ยด!

รถม้าหยุดลง

มู่ซืออวี่ลืมตาขึ้น นวดคลึงครู่หนึ่งแล้วหยีตามองออกไปข้างนอก “ถึงแล้วหรือ?”

“ถึงแล้ว ข้าลงรถก่อนนะ” ลู่อี้ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดมุมปากให้นาง

มู่ซืออวี่เห็นเช่นนั้นก็แทบอยากจะมุดดินหนีเสียเดี๋ยวนั้น

ช่างขายหน้านัก! นี่นางน้ำลายไหลหรือนี่?

หลังจากเข้าเมืองแล้วทั้งสองก็แยกทางกันไป ลู่อี้นั่งรถม้าที่จือเชียนขับตามมาไปทางศาลาว่าการ ส่วนมู่ซืออวี่ต้องไปจัดการร้านที่เช่าใหม่สักหน่อย

เฟิงเจิงและคนอื่น ๆ มารออยู่ในร้านนานแล้ว

“พี่สะใภ้ ชื่อร้านจะตั้งว่าอะไรหรือ?” เฟิงเจิงถาม

“ข้าคิดดูแล้ว ตั้งชื่อว่า ‘เรือนกรุ่นฝัน’ แล้วกัน”

“กรุ่นฝันหรือ?” เฟิงเจิงพึมพำ “ชื่อนี้ไพเราะนัก”

“พวกเจ้าไปดูเรือนพักรวมที่ด้านหลังแล้วหรือยัง? รีบไปดูเถอะ มีสิ่งใดต้องการก็รีบแจ้งมา หากทำเรือนพักเสร็จแล้วข้าก็ไม่สนใจแล้วนะ”

“ขอรับ!”

“เฟิงเจิง เจ้าอยู่ต่อเถิด” มู่ซืออวี่เรียกเฟิงเจิงเอาไว้ก่อน

เฟิงเจิงขยับเข้ามาใกล้ “มีเรื่องสำคัญอะไรอยากจะมอบให้ข้าทำอย่างนั้นหรือ?”

“ใช่แล้ว ข้ามีงานสำคัญจะให้เจ้าไปทำจริง ๆ” มู่ซืออวี่กล่าว “พวกเจ้ามีคนมากมายเช่นนี้ ข้าต้องเลือกใครสักคนมาจัดการดูแลทุกคน ไม่เช่นนั้นเวลาที่ข้าไม่อยู่ก็จะไม่มีผู้นำ เจ้ามั่นใจในการเป็นผู้นำหรือไม่?”

“คิดว่าข้าสามารถทำได้ไหม?”

“มีอะไรที่ไม่ได้กัน?” มู่ซืออวี่กล่าว

“แต่ว่า อย่าว่าแต่พี่น้องทั้งหลายเลย ทุกคนต่างก็รู้ไส้รู้พุง พี่ใหญ่กับพี่รองจะเชื่อฟังข้าหรือ?” เฟิงเจิงไม่มีความมั่นใจ

ต้าหนิวและเอ้อร์หนิวแข็งแกร่งทรงพลัง ทั้งยังสนิทสนมกับลู่อี้ เฟิงเจิงรู้ว่าพวกเขาพี่น้องเป็นคนซื่อสัตย์ ตนจะจัดการดูแลไหวหรือ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย