หลี่หงซูเพิ่งมากลับมาจากจวนตระกูลฉิน จึงได้เห็นคนสนิทข้างกายบิดารีบร้อนออกไปพอดี
“เจ้ากำลังจะไปที่ใด?”
“คุณหนู ศาลาว่าการส่งข่าวมา บอกว่านายน้อยป่วยหนักมาก นายท่านสั่งให้ผู้น้อยไปดูเสียหน่อยขอรับ”
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นเจ้าก็รีบไปเถอะ ใช้เงินให้มากหน่อย เวลาเช่นนี้ไม่ต้องประหยัดแล้ว”
ทันทีที่หลี่หงซูเข้าไปในลานบ้าน แม่นมข้างกายฮูหยินหลี่ก็รีบร้อนเข้ามาต้อนรับ สายตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น เห็นได้ชัดว่ากำลังรอฟังข่าวดีจากนาง
“ข้าพบคุณหนูฉินแล้ว แต่สุขภาพของฮูหยินฉินไม่สู้ดี ไม่เหมาะที่จะต้องลม ข้าจึงไม่ได้พบ ข้ายังต้องออกไปอีกสักรอบ ข้าไม่ไปพบท่านแม่แล้ว”
“คุณหนูจะไปที่ใดหรือ?”
“ผูกเองก็ต้องไปแก้เอง” หลี่หงซูถอนหายใจเบา ๆ
ในเขตชนบท ชายหนุ่มเปลือยท่อนบนทั้งหลายกำลังทำงานอย่างขยันขันแข็ง เหงื่อไหลจากใบหน้าซื่อ ๆ ลงไปบนท้องนา เหมาะกับวลีที่ว่า ‘หยาดเหงื่อหยดลงดิน’ อย่างยิ่ง
เจิ้งซูอวี้เปิดม่านออก มองดูทิวทัศน์ของชนบท ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ข้าไม่ได้ออกมาสูดอากาศหายใจมากกว่าครึ่งปีแล้ว ยุ่งอยู่แต่กับเรื่องของกิจการตลอด ราวกับวัวแก่ ไม่มีเวลาได้ผ่อนคลายสักครั้ง”
“หากไม่มีอะไรแล้ว ถึงตอนนั้นเจ้าสามารถผ่อนคลายได้ ไม่จำเป็นต้องสู้กับพี่หญิงของเจ้าทุกวัน” หลี่หงซูกล่าว “ขอบคุณที่เจ้ามากับข้าวันนี้ ฮูหยินลู่เห็นเจ้าเป็นคนสูงส่ง เจ้ามาด้วยกันดีกว่าข้ามาคนเดียว”
“ขอบอกเจ้าไว้ก่อน เรื่องของพี่ใหญ่เจ้า ข้าล่ะรับไม่ได้จริง ๆ หากเป็นเพราะเรื่องนี้จริง ๆ นั่นก็เป็นเขาที่รนหาที่เอง ครั้งนี้ข้าแค่มากับเจ้า แต่จะไม่ช่วยเจ้าพูด”
ทางด้านลู่จื่ออวิ๋นนั้นนั่งอยู่ข้างหน้าเสี่ยวเฮย นางส่งเสียงจุ๊ ๆ ให้เสี่ยวเฮยเงียบ ๆ “เสี่ยวเฮยเด็กดี อย่ารบกวนการพักผ่อนของท่านแม่ล่ะ”
ถงซื่อเดินออกมาจากห้องครัว เมื่อเห็นลู่จื่ออวิ๋นนั่งอยู่จึงตะโกนเรียก “อวิ๋นเอ๋อร์! ที่บ้านไม่มีอาหาร เจ้าไปที่แปลงผัก ถอนกลับมาสักสองสามอย่างเถอะ”
“ได้เจ้าค่ะ” ลู่จื่ออวิ๋นคว้าตะกร้าผักแล้วเดินออกไป
ท่านหมอจูเพิ่งตรวจดูชีพจรของมู่ซืออวี่เสร็จก็เดินออกมาพลางกล่าวว่า “ไข้ลดแล้ว”
“ดีแล้ว” ถงซื่อกล่าว “ยาต้มเสร็จแล้ว ข้าจะเอาไปให้นางดื่ม”
“รอก่อนเถอะ เหงื่อเพิ่งออก เมื่อครู่หลับไปแล้ว” ท่านหมอจูหยุดนางไว้
เสียงกีบม้าดังมาจากข้างนอก มันดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ไม่นานนักก็มีคนมาเคาะประตู
“ลูกเขยกลับมาแล้วหรือ?”
ถงซื่อเดินไปเปิดประตูอย่างสงสัย นางเห็นสตรีสี่นางลงมาจากรถม้า สองคนแรกสวยงามสะโอดสะอง เห็นได้ชัดว่าดูสูงศักดิ์กว่า ส่วนอีกสองคนสวมอาภรณ์เฉกเช่นสาวใช้
“ที่นี่เป็นบ้านของเถ้าแก่เนี้ยมู่ใช่หรือไม่?” ชิวซวงถาม
ถงซื่อเคยไปที่เรือนกรุ่นฝันจึงรู้ว่าคนอื่น ๆ เรียกมู่ซืออวี่เช่นนี้ นางตอบอย่างรวดเร็วว่า “ใช่ พวกท่านมาหาลูกสาวของข้าหรือ? แต่ตอนนี้นางป่วย เมื่อครู่นอนหลับไปแล้ว”
เจิ้งซูอวี้หันไปมองหลี่หงซู
สีหน้าของหลี่หงซูพิลึกพิลั่นขึ้นมาทันตา
ป่วย…
เช่นนี้จะทำอย่างไร?
หากมู่ซืออวี่ไม่เป็นอะไรก็แล้วไปเถอะ แต่หากมีอะไรผิดพลาด เช่นนั้นจะไม่ยิ่งทำให้จู่ปู้ลู่โกรธแค้นกว่าเดิมหรือ? ไม่แปลกใจที่วันนี้มีคนมาหาเรื่องพี่ใหญ่ของนางจนถึงหน้าประตู นี่เรียกว่านายทัพโกรธเกศาชันเพื่อโฉมงาม*[1] ชัด ๆ!
“พวกเรารอให้นางตื่นก็ได้” เจิ้งซูอวี้กล่าว “คงต้องรบกวนแล้ว ข้าแซ่เจิ้ง ท่านนี้แซ่หลี่ พวกเราล้วนเป็นสหายของซืออวี่”
“เชิญเข้ามาเถิด”
ถงซื่อไม่เคยรับแขกสูงศักดิ์มาก่อน นางไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
ท่านหมอจูกระแอมเบา ๆ ถงซื่อมองไปทางท่านหมอจูก็เห็นเขากวักมือเรียกนาง
ถงซื่อรีบตามเขาเข้าไปในห้องข้างในแล้วเอ่ยถาม “มีอะไรหรือ?”
“ที่บ้านมีชาหรือไม่?” ท่านหมอจูถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...