นายท่านตระกูลหลี่รีบบึ่งกลับมา เมื่อรู้ว่าลูกชายของเขาทำความผิดร้ายแรงก็ทั้งกระวนกระวายทั้งโมโห ตะโกนเอ็ดตะโรด่าทอหลี่จวิ้นหานยกใหญ่ ด่าเสร็จแล้วก็ยังต้องมาหาคิดหาทางให้เขาอีก ดูว่าจะช่วยลูกชายออกมาได้อย่างไรบ้าง
ฮูหยินหลี่ชวนฮูหยินของนายอำเภอออกไปเดินเล่น ผลที่ได้คืออีกฝ่ายไม่มา เมื่อคิดถึงตอนที่ตน ‘มอบของกำนัลแสดงมิตรไมตรี’ ให้ฮูหยินฉินหลายปีมานี้ นางรู้สึกเหมือนตัวเองพ่ายแพ้อย่างใหญ่หลวง ไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องนี้แม้แต่คำเดียว
“หลี่ตง เจ้าเป็นบ่าวรับใช้คนสนิทของนายน้อย จนถึงตอนนี้แล้วเจ้ายังไม่บอกความจริงข้าอีก?” นายท่านหลี่ตบโต๊ะอย่างแรงหนึ่งที
บ่าวรับใช้คนสนิทคุกเข่าอยู่ข้างล่างพลางเอ่ยเสียงสั่น “นายท่าน บ่าวทำตามคำสั่งของนายน้อย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับบ่าวเลยนะขอรับ”
“เจ้าหน้าที่ทางการจับนายน้อยเจ้าไป บอกว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆ่าคนตาย แต่จนถึงตอนนี้พวกเราก็ยังไม่รู้ว่าเขาก่อเรื่องอะไรกันแน่ เจ้ารีบบอกมาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ พวกเราต้องคิดหาทางช่วยเขาออกมา”
“หากเอ่ยถึงคดีฆ่าคนตาย มีอยู่เรื่องหนึ่งจริง ๆ ขอรับ” หลี่ตงคุกเข่าอยู่บนพื้น เอ่ยไปพลางน้ำตาไหลอาบแก้ม “นายน้อยมีสหายที่สนิทสนมกันอยู่คนหนึ่งชื่อโม่ลี่ เป็นแม่นางจากเรือนวาโยวสันต์ โม่ลี่ผู้นี้ถูกพ่อค้าคนหนึ่งไถ่ตัวไปเป็นอนุ ต่อมานายน้อยบังเอิญได้พบกับนางอีกครั้งจึงติดต่อกันเรื่อยมา พ่อค้าผู้นั้นมาพบเข้า จึงต่อยตีกับนายน้อย นายน้อยผลักเขาแล้ว… นายน้อยไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นะขอรับ”
“จากนั้นเล่า?”
“นายน้อยจ่ายเงินไปเล็กน้อยเพื่อปิดปากเมียหลวงของพ่อค้าผู้นั้น แล้วซุกโม่ลี่ไว้ข้างนอก เรื่องนี้จบไปแล้วขอรับ”
“คนต่ำช้า! คนต่ำช้าชัด ๆ!” ฮูหยินหลี่หายใจแทบไม่ออก
“ท่านแม่…” หลี่หงซูรีบเข้าไปลูบอกมารดา “ท่านอย่าโกรธ อย่าโกรธจนทำร้ายสุขภาพของตัวเองเลยเจ้าค่ะ”
“ซูเอ๋อร์” ฮูหยินหลี่กอดหลี่หงซูเอาไว้แล้วร้องไห้อย่างขมขื่น “ชีวิตก่อนข้าทำบาปอะไร ถึงได้ให้กำเนิดคนบาปเช่นพี่ชายเจ้าออกมา”
“พอ ๆ ร้องห่มร้องไห้ไปจะมีประโยชน์หรือ” สีหน้าของนายท่านหลี่ไม่สู้ดีนัก “คิดหาทางช่วยเจ้าลูกทรพีนี่เถอะ! วันนี้เจ้าไม่ได้พบฮูหยินนายอำเภอหรือ?”
“ไม่”
“ไม่ได้พบก็เป็นเรื่องปกติ” นายท่านหลี่กล่าว “ฮูหยินนายอำเภอไม่เคยสนใจคดีของศาลาว่าการ ไม่เคยมาข้องเกี่ยวกับคดี”
“เช่นนั้นหลายปีมานี้พวกเราจะรักษาความสัมพันธ์อันดีกับนางไว้ไปทำไมกัน?”
“เจ้าลองดูอีกที ดูว่าจะพบฮูหยินนายอำเภอได้หรือไม่”
“ให้ข้าไปเถอะ” หลี่หงซูกล่าว “ความสัมพันธ์ของข้ากับคุณหนูฉินไม่เลวเลย ข้าจะไปพบกับคุณหนูฉิน ระหว่างนั้นก็จะไปทักทายฮูหยินฉิน นางจะได้พบข้าแน่”
“ซูเอ๋อร์ ตอนนี้ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว” ฮูหยินหลี่มองบุตรสาวด้วยความโล่งอก
หลี่หงซูกระอึกกระอักอยู่เป็นเวลานาน มองหน้านายท่านหลี่และฮูหยินหลี่ไปมา สุดท้ายจึงเอ่ยขึ้น
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านยังจำเรื่องที่ท่านพี่และคุณชายแซ่ถังตกน้ำที่บ้านเราเมื่อวานนี้ได้หรือไม่?”
“เพิ่งเกิดเรื่องเมื่อวานนี้ตอนบ่าย พวกเราจะจำไม่ได้ได้อย่างไร ตอนนี้เจ้าจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่ออะไรอีก พวกเราต้องรีบพาพี่ชายเจ้าออกมาเร็ว ๆ เขายังป่วย หากยังอยู่ในคุกต่อไป เขาคงรักษาชีวิตไว้ไม่ได้แล้ว”
“ท่านพ่อ เถ้าแก่เนี้ยเรือนกรุ่นฝันที่มายามเว่ย*[1] เมื่อวานนี้ เป็นฮูหยินของจู่ปู้ลู่ประจำศาลาว่าการ นางตกลงไปในน้ำเช่นกัน พวกท่านจำเถ้าแก่เนี้ยผู้นี้ได้หรือไม่? ข้าเคยบอกพวกท่านว่าฝีมือของนางยอดเยี่ยมมาก ตอนนี้กิจการเรือนกรุ่นฝันก็กำลังไปได้ดี พวกท่านก็เคยไปร้านยวลกลิ่นอิสตรีของเจิ้งซูอวี้ ที่นั่นก็เป็นผลงานการออกแบบของนาง ข้าเคยบอกพวกท่านว่า…”
“ซูเอ๋อร์ เจ้าหมายความว่าคดีของพี่ชายเจ้าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ตกน้ำเมื่อวานนี้หรือ?” นายท่านหลี่จ้องมองมา “ลู่อี้ผู้นี้ข้าก็เคยได้ยินมาบ้าง แต่เขาจะกล้าหรือ? เป็นเพียงจู่ปู้เล็ก ๆ คนหนึ่ง ถึงแม้ฮูหยินของเขาจะตกน้ำที่จวนหลี่เรา แต่เพื่อเรื่องเล็กน้อยแค่นี้จะมาแก้แค้นจวนหลี่ ไม่ใจแคบไปหน่อยหรือ?”
“ท่านพ่อ!” หลี่หงซูจ้องมองนายท่านหลี่เขม็ง “พี่ใหญ่ประพฤติตัวเช่นไร ท่านไม่รู้หรือ?”
นายท่านหลี่และฮูหยินหลี่ตกใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...