ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย นิยาย บท 34

ลู่ฉาวอวี่เดินออกไปข้างนอก ปล่อยให้ทุกคนพูดคุยกันในห้อง

ความกังวลใจของถงซื่อ ความเครียดของลู่จื่ออวิ๋น และความประหลาดใจของลู่เซวียน แม้น้ำเสียงของทั้งสามจะต่างกัน แต่ก็กลมกลืนกันทีเเดียว

ลู่อี้ออกมาเห็นว่าลู่ฉาวอวี่กำลังกวาดลานบ้านอยู่ ใบหน้าเล็ก ๆ ของลู่ฉาวอวี่แบกความคิดมากมายตั้งแต่อายุยังน้อย วันนี้สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึมมากกว่าเดิม ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

ส่วนลู่อี้กำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องหมูป่า คิดที่จะนำหมูป่ากลับบ้านมาก่อน จากนั้นค่อยว่ากันอีกที

“ท่านพ่อ ข้าจะไปกับท่าน” ลู่ฉาวอวี่ออกมาเห็นลู่อี้อยู่ด้านนอกจึงเรียกเอาไว้

ลู่อี้กำลังจะปฏิเสธ แต่ก็คิดว่าลูกชายคงรู้สึกแย่หากตนห้าม ชายหนุ่มจึงพยักหน้า

“เมื่อครู่นี้พวกข้าพบงูมีพิษหนึ่งตัว” ลู่ฉาวอวี่ปริปากพูดขึ้นมาระหว่างทาง เพื่อทำลายบรรยากาศที่เงียบงัน

“ได้รับบาดเจ็บอะไรหรือไม่?” ลู่อี้ขมวดคิ้ว

เขาไม่ควรพาเด็ก ๆ ขึ้นไปบนภูเขาเลยจริง ๆ

แต่ถึงอย่างไรตอนนี้ลู่ฉาวอวี่ก็ไม่โดนงูกัด ไม่อย่างนั้นคงไม่พูดกับเขาอย่างใจเย็นเช่นนี้

“นางเข้ามาบังข้าไว้เพราะอยากจะปกป้องข้า”

เมื่อลู่ฉาวอวี่เอ่ยขึ้น เขาก็มองไปยังลู่อี้ด้วยความสับสน

ลู่อี้ดูเหมือนจะเข้าใจแล้วว่าเหตุใดวันนี้ลู่ฉาวอวี่ถึงได้ดูเคร่งขรึมมากกว่าเดิม

จู่ ๆ แม่ที่เห็นแก่ตัวก็หยุดทรมานเขา ทั้งยังเริ่มเป็นห่วงเป็นใยและปกป้องเขา ลู่ฉาวอวี่คงรู้สึกเหมือนกำลังฝัน และสาเหตุที่ยังไม่อยากเชื่อเพราะกลัวว่าวันหนึ่งหลังตื่นขึ้นมา ความหวังจะแปรเปลี่ยนเป็นความสิ้นหวัง

“ตอนที่หมูป่าวิ่งเข้ามา นางก็ผลักข้าล้มลง” ลู่ฉาวอวี่ยังคงแสดงข้อสงสัยที่สองของเขา “นางคือมู่ซืออวี่จริง ๆ หรือ ใบหน้านั้นใช่ แต่เหตุใดจึงรู้สึกแตกต่างออกไป”

ลู่อี้หยุดฝีเท้าลง จากนั้นจึงคุกเข่า จ้องมองลูกชายที่กำลังหลงทางในชีวิต

ตั้งแต่เล็กจนโต ลู่ฉาวอวี่อ่อนไหวและระแวดระวังมากกว่าลู่จื่ออวิ๋น

ลู่จื่ออวิ๋นเองก็ทนทุกข์ทรมานมามาก ครั้นมู่ซืออวี่แสดงความเมตตาและความรักเพียงเล็กน้อย นางก็สามารถทำให้เด็กหญิงคนนั้นลืมความทุกข์ที่เคยประสบมาก่อน แล้วโหยหาความรักจากแม่เพิ่มขึ้นมาจากเดิมได้แล้ว

แต่ลู่ฉาวอวี่ไม่เหมือนกัน

เขาไม่ได้เชื่อคนง่ายปานนั้น

แต่ไม่ว่ามู่ซืออวี่จะน่าสงสัยเพียงใด ลู่ฉาวอวี่ก็ยังคงเป็นเด็กที่โหยหาความรักจากท่านแม่อยู่ดี การที่นางปกป้องเขาทั้งสองครั้งในวันนี้ ถึงภายนอกเขาจะดูรังเกียจ แต่หัวใจของเขากลับตื่นตระหนก

“เจ้ารู้สึกว่านางกำลังเสแสร้งอยู่ใช่หรือไม่?”

“ขอรับ”

“เจ้าไม่สบายใจหรือ?”

“ข้าไม่…” ลู่ฉาวอวี่เม้มริมฝีปาก ท่าทางยังคงดื้อรั้น

“เจ้ากลัวว่าวันหนึ่งนางจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมรึ” คำพูดของลู่อี้เสียดแทงจิตใจของเด็กชาย “เจ้าอารมณ์เสียเพราะหวั่นไหวรึ หรือเจ้าเริ่มชอบนางเข้าแล้ว”

“ไม่ ไม่!” ลู่ฉาวอวี่รีบพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “นางทุบตีพวกข้า ทั้งยังด่าว่าพวกข้ามาหลายปี ไม่ให้อาหารพวกข้า แล้วข้าจะชอบนางได้อย่างไร”

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เจ้าจะกังวลอะไร” ลู่อี้ลูบหัวอีกฝ่ายเบา ๆ “วันเวลายังอีกยาวไกล เราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างในอนาคต ค่อย ๆ ก้าวไปทีละก้าว อย่ากังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นเลย”

“ข้ารู้” ลู่ฉาวอวี่ก้มหน้าลง

“เจ้าปกป้องน้องสาวของเจ้ามาหลายปีแล้ว ไม่ต้องสนใจว่าอะไรจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เจ้าก็ปกป้องน้องสาวของเจ้าไป ไม่ว่ามู่ซืออวี่จะแปลกไปอย่างไรก็ไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเจ้า”

“ขอรับ”

ตอนที่ลู่อี้อุ้มหมูป่าลงมา ข่าวก็กระจายไปทั่ว คนทั้งหมู่บ้านรู้เรื่องนี้กันหมดแล้ว ผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกันดูที่ลานบ้านของตระกูลลู่ด้วยความตื่นเต้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย