ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย นิยาย บท 38

สรุปบท บทที่ 38 กล่องเปิดไม่ออก: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย

สรุปเนื้อหา บทที่ 38 กล่องเปิดไม่ออก – ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย โดย ฮั่วลั่วหยิง

บท บทที่ 38 กล่องเปิดไม่ออก ของ ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย ในหมวดนิยายเวลาเดินทาง เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ฮั่วลั่วหยิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

สายตาทุกคู่มองไปทางลู่อี้ด้วยความสงสัย

ลู่อี้ตอบโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า “เปิดได้ขอรับ”

นายอำเภอฉินเดินเข้ามาด้วยความสนใจแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ให้ข้าดูซิว่ามันคืออะไร ศิษย์สำนักนี้ถึงเปิดไม่ได้”

หลังจากที่ลองเปิดไปแล้วหนึ่งรอบ กล่องนั้นก็ยิ่งแน่นขึ้น เขาเองก็เปิดไม่ได้เช่นกัน

ทันใดนั้นเขาก็มองไปทางลู่อี้ ก่อนจะยิ้มพร้อมเอ่ยถามขึ้นมาว่า “พ่อหนุ่มตระกูลลู่ เจ้าอย่าสร้างสถานการณ์ให้ผู้อื่นร้อนใจเลย”

ไป๋เหวยคังและอาจารย์ท่านหนึ่งเดินเข้ามา

กลุ่มคนจำนวนหนึ่งล้อมรอบกล่องไม้ที่ไม่มีเครื่องประดับตกแต่งอะไร

กล่องไม้ทำขึ้นมาด้วยความประณีตอย่างมาก แต่เหล่าปัญญาชนต่างเคยเห็นสิ่งของวิจิตรงดงามมามากมายจึงไม่ได้มองว่ามันสวยอะไรนัก

“ดูแล้วกล่องนี้ก็ธรรมดา ไม่ได้แปลกประหลาดอะไร คาดไม่ถึงเลยว่าจะซ่อนความลี้ลับเกินคาด” ไป๋เหวยคังขยับมือไปมาสักพักแล้วพูดขึ้นว่า “ข้าเคยเห็นกล่องประเภทนี้ในเมือง มันคือกล่องสมบัติของตระกูลม่อ”

“แต่ตระกูลม่อเป็นช่างฝีมืออันดับหนึ่ง บ้านพวกเขาสามารถทำสิ่งเหล่านี้กันได้ทุกรุ่น ว่ากันว่าตระกูลม่อยังทำหุ่นกลสัตว์ได้อีกด้วย ราวกับว่าเป็นของจริงเลยล่ะ ช่างอัศจรรย์เสียจริง”

“ตอนนี้พวกเรากำลังเถียงกันว่ากล่องนี้ใช่สิ่งที่ท่านพี่ลู่อี้นำติดตัวมาหรือไม่ กล่องที่ไม่เก็บรายละเอียดเช่นนี้จะเป็นสิ่งที่ตระกูลม่อทำได้อย่างไร”

“กล่องนี้ช่างประณีตเสียจริง แต่โปรดอภัยให้ความโง่เขลาของข้าด้วย ข้าเปิดไม่ออกจริง ๆ ดูเหมือนว่าของขวัญจากเจ้า ข้าคงไม่มีวาสนาที่จะได้เสพสุข แท้จริงแล้วพวกเราต่างก็เป็นดั่งพี่น้องที่สนิทกัน เพียงแค่เจ้ามาก็พอแล้ว ไม่ต้องมีของขวัญก็ได้”

ลู่อี้กวาดตามองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเสแสร้งของฟางโจวอวี่ชั่วครู่ แล้วรับกล่องนั้นมาถือ จากนั้นก็เลื่อนนิ้วผ่านลวดลายบนกล่องท่ามกลางสายตาของทุกคน

การกระทำของเขารวดเร็วมาก ลวดลายเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกันอย่างยิ่ง ไม่ทันรอให้พวกเขาเห็นได้ชัด เสียงไม้แตกร้าวก็ดังขึ้น แล้วกล่องนั้นก็แตกออกมา

ทุกคนต่างตกตะลึง

นายอำเภอฉินมองกล่องที่ทำด้วยฝีมือเหนือธรรมชาติด้วยความประหลาดใจ

“สิ่งนี้ทำอย่างไร?”

“นี่เป็นสิ่งที่ภรรยาข้าทำเองกับมือ ปกติแล้วนางไม่มีงานอดิเรก ช่วงนี้ชอบทำของเหล่านี้ น่าขำเสียจริง” ลู่อี้กล่าวอย่างเย็นชา

“นี่น่ะหรือ?” ไป๋เหวยคังถืองานแกะสลักไม้บนกล่องนี้ขึ้นมาด้วยมืออันสั่นเทา “ตรงนี้นางก็แกะเองรึ”

การแกะสลักเป็นความสามารถเฉพาะคน ในเมื่อสามารถเป็นแบบอย่างให้คนที่เรียนหนังสืออยู่ก็สามารถขนานนามว่าเป็นนักปราชญ์ได้

ทุก ๆ ปีผู้ที่เรียนหนังสือจะบูชาเซ่นไหว้นักปราชญ์ที่วัด ด้วยเหตุนี้ทุกที่จึงมีวัดของนักปราชญ์อยู่ นักปราชญ์เหล่านั้นต่างนั่งด้วยท่าทางเคร่งขรึม สีหน้าเต็มไปด้วยความจริงจัง ในมือถือหนังสือ แววตาดูฉลาดมีวิสัยทัศน์ราวกับว่ากำลังคิดถึงปัญหาชีวิตบางอย่าง

ครั้นมองมาที่กล่องไม้ธรรมดานี้ เห็นได้ชัดว่านักปราชญ์ด้านการแกะสลักท่านนี้มีอารมณ์ฮึกเหิมอย่างมาก สิ่งที่พิเศษที่สุดคือรูปปั้นนักปราชญ์นี้ถูกแกะสลักอย่างประณีต ละเอียดอ่อนจนผู้คนต้องตกตะลึงตั้งแต่แรกเห็น

“ใช่ขอรับ…” ลู่อี้ได้เห็นสิ่งที่อยู่ในกล่องเป็นครั้งแรก เขาถึงกับประหลาดใจขึ้นมา

เมื่อวานตอนเย็นถูกดึงดูดความสนใจจากกล่องที่นางถือมาให้ เขาจึงตื๊อให้นางเล่นกับกลไกนั้นอยู่นานจนจำวิธีเปิดกล่องนี้ได้ ไม่เคยคิดเลยว่านางยังเตรียมเรื่องน่าตกใจไว้อีก

ทันใดนั้น เขากลับไม่อยากให้ของสิ่งนี้กับผู้อื่นเสียแล้ว

ของดี ๆ อย่างนี้มีเหตุผลอะไรที่จะให้คนหน้าซื่อใจคดอย่างฟางโจวอวี่

บางทีในสายตาของผู้หญิงคนนั้น สิ่งเหล่านี้อาจเป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ได้มีราคา แต่ในมุมมองของเขา ของเหล่านี้ไม่ควรค่ากับฟางโจวอวี่

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะได้แต่งกับเมียผู้ชาญฉลาดแล้วสิ” ไป๋เหวยคังพยักหน้าด้วยความพอใจ “เช่นนั้นก็ดีแล้ว!”

“กล่องนี้มีความน่าสนใจ คนที่เก่งกาจเหมือนกับนักปราชญ์ก็น่าสนใจ” นายอำเภอฉินคล้อยตาม “เจ้าแต่งงานกับภรรยาที่น่าสนใจสินะ”

ลู่อี้นึกถึงนิสัยที่เปลี่ยนไปมากของมู่ซืออวี่พลางคิดว่า นางน่ะหรือที่น่าสนใจ ไม่รู้ว่าในร่างนั้นมีผีสางหรือเทพองค์ใดเข้าสิงอยู่มากกว่าน่ะสิ

เวลานี้สีหน้าของฟางโจวอวี่ดูไม่ดีเสียแล้ว

ฟางโจวอวี่จัดการความรู้สึกตัวเองแล้วกลับมาทำตัวสูงส่งดังเดิม

ตอนนี้ใบหน้าของลู่อี้ถูกทำลายไปแล้ว เขาจึงอ้างว่ารูปร่างหน้าตาของตนดูดีที่สุด

“ศิษย์ขอดื่มเคารพท่านผู้ใหญ่สักแก้ว” ฟางโจวอวี่ยกแก้วเหล้าขึ้นเพื่อแสดงความเคารพต่อหน้านายอำเภอฉิน

ตอนที่ฟางโจวอวี่ดื่มเคารพนายอำเภอฉินอยู่นั้น ลู่อี้ก็เปิดห่อผ้า ก่อนจะหยิบแผ่นไม้ไผ่ที่ใช้สำหรับเขียนหนังสือออกมาจากด้านในหนึ่งแผ่น

เขากวักมือเรียกเฟิงเจิง

เฟิงเจิงรีบมาในทันใด หลังจากที่ได้รับคำสั่งแล้วก็เข้าไปในครัว เขาถือจานใบใหญ่ออกมาสองสามใบ

นายอำเภอฉินและฟางโจวอวี่คุยกันได้ไม่กี่ประโยคก็ได้กลิ่นหอม ๆ ลอยออกมา เมื่อก้มลงดูก็พบว่าบนโต๊ะมีจานอาหารมากกว่าสามจานแล้ว

“เฟิงเจิง ช่วยยกจานนี้ไปให้โต๊ะข้าง ๆ ที”

“ขอรับ”

ลู่อี้ใช้เวลาที่เพิ่งจะว่างนี้เพื่ออธิบายจานอาหารให้นายอำเภอฉินฟัง “นี่คือหม่าล่ากระต่ายที่ภรรยาของข้าทำ นางบอกว่าตั้งใจทำมาให้ท่านอาจารย์และผู้ใหญ่ชิมเป็นพิเศษ บอกว่าหากกินเป็นของแกล้มเหล้าก็ไม่เลว”

เขาอธิบายออกไปแม้จะไม่รู้ว่าหม่าล่าแปลว่าอะไรก็ตาม

แต่เมื่อตอนที่นางเริ่มทำอาหารจานนี้ ทุกคนในบ้านก็ต่างสำลักเพราะกลิ่นที่ฉุนแสบจมูก

เขารีบวิ่งไปที่ครัวจึงเห็นว่าในหม้อมีของสีแดงอยู่หนึ่งอย่าง นั่นคือสิ่งที่เขาเจอโดยบังเอิญบนภูเขา เขานำกลับมาตกแต่งมุมลานบ้านเพราะคิดว่ามันสวยงาม ไม่คิดว่าจะถูกนางนำมาทำเป็นอาหาร

บทที่ 38 กล่องเปิดไม่ออก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย