ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย นิยาย บท 620

สรุปบท บทที่ 620 พิษเรื้อรัง: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย

อ่านสรุป บทที่ 620 พิษเรื้อรัง จาก ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย โดย ฮั่วลั่วหยิง

บทที่ บทที่ 620 พิษเรื้อรัง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายเวลาเดินทาง ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ฮั่วลั่วหยิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ภายในเรือนปีกข้าง เซี่ยวซื่อมองซูจือหลิ่ว เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเขินอายเปล่งสีแดงเรื่อของนางก็รู้ว่าชีวิตหลังแต่งงานของลูกสาวเป็นไปได้ด้วยดี อย่างน้อยลูกเขยก็เอาใจใส่นาง

“หลิ่วเอ๋อร์ พวกเจ้าไปเที่ยวที่ใดมาหรือ?”

ซูจือหลิ่วยิ้มออกมาแล้วเล่าเรื่องที่พวกเขาไปท่องเที่ยวตลอดหลายวันมานี้

“ท่านพี่บอกว่าวันหยุดสั้นเกินไป ภายหน้าหากมีโอกาส เขาจะพาข้าไปที่ที่ไกลกว่านี้ ไม่จำกัดอยู่แค่ภายในเมืองหลวง”

“เพิ่งแต่งได้ไม่กี่วัน เจ้าก็เอ่ยถึงแต่เพียงสามีของเจ้า ดูเหมือนลูกเขยจะดีต่อเจ้าจริง ๆ แม่วางใจแล้ว” เซี่ยวซื่อเอ่ย “ร่างกายเขาอ่อนแอเล็กน้อย เจ้าต้องบำรุงเขาให้ดี ๆ ล่ะ”

“ท่านแม่ ร่างกายของเขาแข็งแรงดี ท่านอย่าได้ฟังที่ผู้อื่นเขาพูดกัน” ซูจือหลิ่วเกาจมูกตนเองเบา ๆ “จริงสิ ข้ายังเลือกของขวัญมาให้พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ และหลาน ๆ ด้วย แต่นี่เป็นการมอบของขวัญครั้งแรกของข้า ไม่รู้ว่าเหมาะสมหรือไม่ ท่านช่วยข้าออกความคิดหน่อยเถิด”

เซี่ยวซื่อนับของขวัญที่ซูจือหลิ่วซื้อมา

“ไม่มีอะไรผิด” เซี่ยวซื่อเอ่ย “สกุลลู่ไม่ขาดเงินทอง ของที่พวกเขาใช้ปกติจะต้องเป็นของดีเป็นแน่ ของที่เจ้าซื้อมาค่อนข้างน่าพอใจ ทั้งยังสมสถานะของพวกเขา”

“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ล้วนเป็นคนง่าย ๆ แม้ของขวัญที่ข้าซื้อมาไม่เหมาะสม พวกเขาก็ไม่มีทางโทษข้า ข้าเพียงแต่อยากทำให้ดีที่สุดเท่านั้น”

วันนั้นสองสามีภรรยาค้างคืนอยู่ที่สกุลซู วันต่อมาจึงกลับไปที่จวนลู่อี้เพื่อถามไถ่สารทุกข์สุกดิบพี่ชายและพี่สะใภ้ ทั้งยังมอบของขวัญมากมายให้หลานชายหลานสาว

“พี่สะใภ้” ซูจือหลิ่วมองสีหน้าของมู่ซืออวี่ “เหตุใดสีหน้าท่านดูไม่ดีนัก”

“จริงหรือ?” มู่ซืออวี่ลูบ ๆ คลำ ๆ ใบหน้าของตนเอง “ระยะนี้ข้าง่วงทั้งวัน บางทีอาจเป็นเพราะข้าพักผ่อนไม่เพียงพอ”

“พี่สะใภ้เคยตั้งครรภ์มาก่อน ท่านเคยมีอาการรุนแรงเช่นนี้หรือไม่?” ซูจือหลิ่วเอ่ยถามบ่าวรับใช้ที่อยู่ข้าง ๆ

ซางจือเอ่ยว่า “บ่าวเคยถามพี่หญิงจื่อซูและจื่อเยวี่ยนที่เคยปรนนิบัติฮูหยินก่อนหน้านี้แล้ว พวกนางบอกว่าแม้ก่อนหน้านี้ฮูหยินจะเคยมีอาการง่วงงุนมาก่อน นางก็กระปรี้กระเปร่าดี ทั้งยังดูแลกิจการได้จนกระทั่งใกล้คลอดเจ้าค่ะ”

“บางทีอาจเป็นเพราะข้าอายุมากขึ้น จึงไม่อาจเทียบได้กับตอนยังเยาว์” มู่ซืออวี่ไม่ใส่ใจนัก

“พี่ใหญ่ ท่านไม่เชิญท่านหมอมาตรวจพี่สะใภ้หรือ?” ซูจือหลิ่วเอ่ยถาม

ลู่อี้เอ่ย “หลายวันมานี้ข้ากลับมาดึก ทุกครั้งที่ข้ากลับมา นางพักผ่อนไปแล้ว แสงเทียนสลัว ข้าไม่เคยเห็นว่าสีหน้าของนางย่ำแย่เพียงนี้มาก่อน”

ถึงแม้เขาจะอยู่ที่บ้านทุกวัน ทว่ามักจะอยู่ในห้องตำราจัดการงานราชการ ไม่ได้ทุ่มความสนใจไปที่ภรรยา

ลู่อี้พลันรู้สึกว่าตนไม่ใช่สามีที่ดีขึ้นมา ไม่แม้กระทั่งสังเกตเห็นความผิดปกติของภรรยาตนเอง หากน้องสะใภ้ไม่เอ่ยขึ้น เกรงว่าเขาจะไม่พบเห็นความผิดปกติของนาง

ไม่นานท่านหมอก็มาถึง

“ฮูหยินกำลังตั้งครรภ์ หมายความว่าร่างกายย่อมอ่อนแอลง ท่านต้องพักผ่อนให้มาก”

“ท่านหมอ พี่สะใภ้ข้าสีหน้าไม่ดีเช่นนี้เพียงเพราะนางตั้งครรภ์หรือ? ท่านตรวจให้ที่ถ้วนเถิด” ซูจือหลิ่วเอ่ย “หากตรวจไม่ได้ ท่านก็บอกมาว่าตรวจไม่ได้”

“เอ่อ… ลักษณะชีพจรของฮูหยินแปลกเล็กน้อยจริง ๆ เห็นได้ชัดว่าสีหน้าย่ำแย่เพียงนี้ ชีพจรกลับมั่นคง ความมั่นคงเช่นนี้ทำให้ดูแข็งแรงปกติดี” ท่านหมอเอ่ย “อย่างที่ฮูหยินท่านนี้กล่าว ข้าตรวจออกมาไม่ได้จริง ๆ”

“น้องเซวียน น้องสะใภ้ พวกเจ้ารั้งอยู่ที่นี่กับฮูหยินสักครู่ ข้าจะเข้าวังหลวงไปเชิญท่านหมอหลวงมาด้วยตนเอง” ลู่อี้เอ่ย

“ได้”

มู่ซืออวี่ขมวดคิ้ว “ไม่ต้องยุ่งยากเพียงนั้นกระมัง?”

“พวกเราออกไปครั้งนี้ พบเจอเรื่องน่าสนใจมากมาย ข้าจะเล่าให้ท่านฟัง…” ซูจือหลิ่วเข้าไปกอดแขนมู่ซืออวี่ “ท่านอยู่แต่ในเมืองหลวงตลอดเวลา ไม่ได้ออกไปท่องเที่ยวนานแล้ว หากท่านไปที่นั่นละก็ ท่านจะต้องไม่อยากกลับมาเมืองหลวงอย่างแน่นอน เทียบกับความซับซ้อนของเมืองหลวงแล้ว โลกภายนอกกว้างใหญ่กว่ามาก อีกทั้งไม่มีการแก่งแย่งขัดแข้งขัดขากัน”

นอกจากสาวใช้ข้างกายทั้งสองของนางก็ไม่มีผู้ใดคุ้นเคยกับสถานที่ที่นางแวะเวียนไป จะเป็นไปได้หรือว่าสาวใช้ทั้งสองวางยาพิษมู่ซืออวี่?

หมอหลวงอยู่รอดในวังหลวงได้ย่อมเป็นเพราะเขารู้วิธีเอาตัวรอด หากเขาอยากมีชีวิต เขาต้องรู้ว่าสิ่งใดควรกล่าวสิ่งใดไม่ควรกล่าว อย่างเช่นตอนนี้ เขากล่าวถึงเพียงจุดที่ควรจะเป็น

ลู่อี้หันกลับไปมองฉานอีและซางจือ

ฉานอีและซางจือนั่งคุกเข่าลงทันที

“นายท่าน นับแต่วันแรกที่ข้าติดตามฮูหยิน ความเป็นความตายของพวกข้าก็ขึ้นอยู่กับฮูหยินแล้ว ชีวิตของฮูหยินคือชีวิตของพวกเรา พวกเราจะรนหาที่ตายได้อย่างไรเจ้าคะ?”

ลู่อี้ยืนอยู่ข้างเตียง มองมู่ซืออวี่ที่นอนอยู่ตรงนั้น

“ถึงแม้พวกเจ้าจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่สุขภาพของฮูหยินเป็นเช่นนี้แล้ว เหตุใดพวกเจ้าไม่รีบรายงาน?”

“เมื่อวานนี้สีหน้าฮูหยินเพียงดูเหน็ดเหนื่อยเล็กน้อย ไม่ได้ย่ำแย่ถึงเพียงนี้เจ้าค่ะ” ฉานอีเอ่ย “บ่าวพยายามหว่านล้อมฮูหยินแล้ว ฮูหยินกลับมักจะกล่าวว่าร่างกายของนางไม่ได้แข็งแรงเท่าเมื่อก่อน อาการยามตั้งครรภ์ถึงได้รุนแรงเพียงนี้ บ่าวยังถามสตรีคนอื่น ๆ ที่เคยตั้งครรภ์ พวกนางแต่ละคนล้วนมีอาการไม่เหมือนกัน บางคนยังกล่าวว่าหลังตั้งครรภ์พวกนางราวกลับเปลี่ยนไปเป็นอีกคน บ่าวจึงไม่ทันนึกสงสัยเจ้าค่ะ”

สายตาของลู่อี้เคลื่อนไปหยุดที่ปิ่นปักผมบนศีรษะของมู่ซืออวี่

เขาหยิบปิ่นปักผมอันนั้นออกมา

“ปิ่นปักผมอันนี้เป็นอันที่ข้ามอบให้เมื่อปีก่อนใช่หรือไม่?”

“เจ้าค่ะ” ฉานอีเอ่ย “ฮูหยินชอบปิ่นปักผมอันนี้เป็นพิเศษ จึงปักมันทุกวันเจ้าค่ะ”

“หมอหลวง ท่านตรวจดูปิ่นปักผมอันนี้เถิด!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย