พ่อของลู่ต้าจู้นั่งยอง ๆ พลางสูบยาสูบที่ลานบ้าน
ฟู่…
เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ สองครั้ง แล้วพ่นออกมาเป็นวงแหวนควัน จากนั้นก็สูบต่อ
สีหน้าเขาฉายความกังวลและรำคาญ คิ้วขมวดราวกับว่ามีตะขาบสองตัวคลานอยู่ที่นั่น
ลู่เหม่ยฉินกลับมาพร้อมมันเทศบนหลังของนาง และเห็นพ่อของลู่ต้าจู้ก็ทำหน้ามุ่ยก็เดินไปอย่างไม่พอใจ
ลู่ต้าจู้กลับมาหลังจากตัดต้นไม้และโยนท่อนไม้ลงที่พื้น เสียงดังโครมครามจนพื้นสั่นสะเทือน
สองพี่น้องกำลังยุ่งอยู่กับงานของตัวเอง และไม่สนใจพ่อของพวกเขาที่นั่งยอง ๆ อยู่ตรงนั้น ราวกับว่าอีกฝ่ายไม่มีตัวตน
ลู่เหม่ยฉินและลู่ต้าจู้สองพี่น้องคู่นี้ไม่ใช่คนอกตัญญู พวกเขาแค่ผิดหวังกับสิ่งที่พ่ออันเป็นที่รักของพวกเขาทำไว้
“แม่นางซืออวี่ นี่คือบ้านข้า” เสียงของเหยาซื่อเล็ดลอดมาจากประตู “ตอนนี้บ้านรก กำลังเตรียมงานเลี้ยงน่ะ ยังไม่ได้ทำความสะอาด”
มู่ซืออวี่พูดอย่างสุภาพว่า “ป้าเหยา ดูสิ่งที่ท่านพูดสิ ผู้ใดจะไม่รู้ว่าท่านเป็นผู้จิตใจงามอันเลื่องลือในหมู่บ้าน? ถ้าบ้านของท่านถูกมองว่ารก งั้นบ้านเราก็คอกหมูแล้วล่ะ”
“เหตุใดแม่ฉาวอวี่ถึงมาที่นี่?” ลู่เหม่ยฉินรู้สึกประหลาดใจ
“เหตุใดถึงพูดแบบนั้นเล่า?” เหยาซื่อจ้องมองลู่เหม่ยฉินแล้วกล่าวว่า “ข้าเชิญมา”
“ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากต้อนรับนาง” ลู่เหม่ยฉินกล่าว “แต่นี่มันไม่แปลกหรือ นี่เป็นครั้งแรกที่นางมาบ้านเรานะ”
“ข้าได้ยินว่าที่บ้านมีเต้าหู้มากมาย ข้าจึงมาดูว่าเจ้าต้องการความช่วยเหลือหรือไม่” มู่ซืออวี่ยิ้ม
เมื่อพูดถึงเต้าหู้ สีหน้าของลู่เหม่ยฉินก็เริ่มฉายให้เห็นความไม่พอใจ นางหันมองพ่อของลู่ต้าจู้อย่างโกรธเคือง
เมื่อได้ยินคำนี้ สีหน้าของพ่อของลู่ต้าจู้ก็ยิ่งดูย่ำแย่ เขายืนขึ้นมองเหยาซื่อด้วยความไม่พอใจ “จำเป็นต้องพูดเรื่องเช่นนี้ด้วยรึ เจ้าไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องน่าอายหรือ ต้องการให้ทุกคนในหมู่บ้านรู้เรื่องนี้หรือไง”
“เฮอะ” เหยาซื่อถูกพ่อของลู่ต้าจู้หงุดหงิดใส่ “เจ้ารู้จักอายด้วยหรือ? ในเมื่อเจ้ารู้จักอาย แล้วเหตุใดเจ้ายังทำเช่นนี้? จางต้าเหม่ยทำเสน่ห์ใส่เจ้าน่ะสิ! เจ้าคิดว่าตัวเองยังเป็นเด็กวัยสิบขวบหรือ! อยากหวนกลับไปยังอดีตที่แสนหวานกับนางงั้นสิ?” ดูสิ ลูกชายของเจ้ากำลังจะแต่งงานแล้ว รอยย่นบนหน้าเจ้าแทบจะดันกันออกมาแล้ว ยังจะคิดแผนการทรยศอยู่อีก!”
“จ… เจ้ามันปากร้าย! ถ้ายังเป็นเช่นนี้ ข้าก็ทนเจ้าไม่ไหวหรอก” พ่อของลู่ต้าจู้พาลโกรธขึ้นมา
“ข้าปากร้าย? ทนข้าไม่ได้หรือ? ได้! งั้นก็อย่าทน เราจะให้ผู้คนในหมู่บ้านมาตัดสิน ถึงอย่างไรเจ้าก็หน้าไม่อาย และข้าคนนี้จะเป็นนังปากร้ายหน้าไม่อายด้วยก็ได้” เหยาซื่อเท้าเอว สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ
“อย่าโกรธกันเลย” มู่ซืออวี่เกลี้ยกล่อมทันที “อย่าทำร้ายความรู้สึกที่ดีต่อกันเพราะเรื่องเล็กน้อยเลย พวกท่านควรสงบสติอารมณ์ก่อน เพราะเมื่อโกรธอยู่ คำพูดทุกอย่างก็จะมีแต่ความโกรธ ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก”
ทันใดนั้นลู่ต้าจู้ก็เดินออกมา “อย่าทะเลาะกันเลย”
ทันทีที่ชายหนุ่มร่างสูงเดินออกมา ความโกรธเคืองของพ่อแม่ผู้สูงวัยก็หายไป และควันดินปืนก็ดับลงเช่นกัน
“เราจะไม่คืนเต้าหู้ ถ้ากินไม่หมดก็แค่ทิ้งไป คราวนี้ไม่เป็นไร” ลู่ต้าจู้กล่าวต่อไปว่า “แต่ถ้าครั้งหน้ามีอีก ข้าจะไปหาหญิงคนนั้นด้วยตัวเอง ท่านพ่อ ถึงตอนนั้นก็อย่าโทษว่าข้าไม่ไว้หน้าท่านเลยนะ”
เหยาซื่อยืดอก จ้องมองสามีด้วยความมั่นใจ
คนเป็นแม่ก็เป็นเช่นนี้ ตราบใดที่มีลูกชายอยู่ข้าง ๆ ตัวเองก็จะมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม
“ข้าขอดูเต้าหู้ได้หรือไม่?” มู่ซืออวี่หันมาถามเหยาซื่อ
“ได้สิ ตามข้ามา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...