มู่เจิ้งหานถือฟืนเดินเข้าไปในห้องครัวพลางกล่าวกับถงซื่อที่กำลังตากผ้า “ท่านแม่ พี่เขยกลับมาแล้ว ท่านพี่เรียกให้เราไปทานอาหารกับนาง”
“ลู่อี้กลับมาแล้วหรือ?” ถงซื่อเอ่ยถามด้วยสีหน้ายินดี “ดี ๆ ในที่สุดพี่สาวของเจ้าก็ไม่ต้องโดดเดี่ยวแล้ว”
“ท่านพี่อยู่คนเดียวเสียที่ไหน? ฉาวอวี่กับอวิ๋นเอ๋อร์ก็อยู่ด้วยไม่ใช่หรือ?” มู่เจิ้งหานไม่เข้าใจความหมายของถงซื่อ
“เจ้ายังเด็ก โตขึ้นจะรู้เอง” ถงซื่อยิ้ม “ผู้หญิงย่อมต้องการการปกป้องจากผู้ชาย การมีสามีอยู่เคียงข้างก็เท่ากับมีกระดูกสันหลังที่แข็งแกร่งนั่นล่ะ”
“อา” มู่เจิ้งหานยังคงไม่เข้าใจความคิดของถงซื่อ
ในความคิดของเขา ทุกวันนี้พี่สาวของเขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากแล้ว นางได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ได้รับเงินมาจำนวนมหาศาล จากการสังเกตของเขา พี่สาวของเขาได้รับเงินมากกว่าสองตำลึงในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา
เมื่อพูดถึงการหาเงินแล้ว มู่เจิ้งหานมีรายได้วันละ 10 อีแปะหรือมากกว่านั้น ไม่นับรวมเงินอีกหลายสิบอีแปะจากผู้เป็นแม่
เมื่อวานมีเรื่องหนึ่งที่พี่สาวของเขาเล่าให้ฟัง…
“ท่านแม่ เงินที่ท่านพี่ให้อยู่ที่ใดหรือ?” มู่เจิ้งหานแสร้งถามอย่างสบายอารมณ์
“เจ้าเอาไปเถอะ” ถงซื่อกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “พี่สาวของเจ้าบอกว่าไม่ให้ใช้เงินอย่างเปิดเผย ข้าก็เลยซ่อนไว้ มีอะไรหรือเปล่า เจ้าจะใช้เงินหรือ?”
“เอามาให้ข้าเถอะ ข้าแค่จะเก็บไว้” มู่เจิ้งหานจ้องมองถงซื่อ “ตั้งแต่ทิศตะวันออกจรดทิศตะวันตก มองไปทางไหนท่านก็เก็บเงินไว้ไม่ได้ ข้าคิดคำนวณและจัดการเงินเก่ง มอบหมายให้ข้าดูแลดีกว่า”
ถงซื่อไม่โต้แย้ง ไม่ว่าอย่างไรมู่เจิ้งหานก็จะเป็นที่พึ่งเดียวของนางไปทั้งชีวิต หากไม่ไว้ใจเขาแล้วจะไว้ใจผู้ใด? นอกจากนี้ เขายังเป็นลูกชายแท้ ๆ ของนาง หากเขาอยากได้เงินก็มอบให้เขาไปเถอะ
มู่เจิ้งหานรับเงินหลายสิบอีแปะจากถงซื่อมา เขาตั้งใจเก็บรักษาเงินนี้ไว้เอง หลังจากค้นหาที่ซ่อนเป็นเวลานานในที่สุดก็หาพบ จากนั้นเขาจึงตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้เป็นแม่จะไม่บังเอิญพบได้
“ลึกลับจริงนะเจ้าน่ะ” ถงซื่อพึมพำ
มู่เจิ้งหานถอนหายใจแผ่วเบา “หากไม่ใช่เพราะท่านหูเบา ข้าคงไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ท่านพี่เน้นย้ำให้ข้าดูแลเงินของที่บ้านให้ดี มิฉะนั้นมันอาจหมดสิ้นไปในสักวัน”
“เจ้าว่าอะไรนะ?” ถงซื่อไม่ได้ยิน
“ไม่มีอะไร” มู่เจิ้งหานหยิบถังน้ำเปล่าขึ้นมา “ข้าจะไปตักน้ำ”
“เช่นนั้นข้าจะไปช่วยงานพี่สาวเจ้า” ถงซื่อกล่าว “หลังตักน้ำเสร็จค่อยตามมานะ”
เนื่องจากงานที่ต้องทำในช่วงนี้มีไม่มาก ถงซื่อจึงไม่อาจช่วยมู่ซืออวี่ในเรื่องอื่นได้นอกจากการทำความสะอาดบ้าน ตอนเช้านางมักจะเดินทางมาเพื่อช่วยลูกสาวทำเนื้อตุ๋น ส่วนตอนบ่ายก็จะคอยช่วยเหลือเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
นางบังเอิญได้พบเห็ดสองชนิดบนเชิงเขาจึงเก็บกลับมา ลูกสาวนางจะได้นำไปปรุงอาหาร
นางถือตะกร้าเดินไปยังบ้านของลู่อี้
“แม่หานเอ๋อร์…”
เมื่อเห็นจงซื่อ ถงซื่อก็เผยรอยยิ้ม “ป้าจง”
นางกล่าวพลางเดินอย่างว่องไวราวกับอยากจะจากไปโดยเร็ว
ตอนที่ยังเป็นสะใภ้ตระกูลมู่ เมื่อใดที่นางและแม่สามีทะเลาะวิวาทย่อมรุนแรงดุจแผ่นดินไหว และนางมักจะพบป้าจงผู้นี้
“เหตุใดจึงเร่งรีบถึงเพียงนั้น ข้าไม่กินเจ้าหรอก” จงซื่อกล่าวด้วยความประหลาดใจ
หลังจากได้ยินเช่นนั้น ถงซื่อก็พลันหยุดฝีเท้า
“ไม่มีอะไร ข้าต้องเร่งรีบไปจัดการเรื่องด่วนน่ะ”
“เรื่องเร่งด่วนอะไรหรือ?”
“ลูกอวี่มีเรื่องให้ข้าช่วยเหลือ”
ถงซื่อยกมู่ซืออวี่มาเป็นข้ออ้างโดยสัญชาตญาณ นางคิดว่าลักษณะนิสัยของมู่ซืออวี่ช่วยห้ามผู้คนในหมู่บ้านได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...