ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย นิยาย บท 95

“นี่เจ้าไปคลุกโคลนมาหรือ?”

ลู่เซวียนเห็นมู่ซืออวี่อยู่ในสภาพยุ่งเหยิง สายตาก็ฉายแววกังวังวลใจ เพียงแต่เขาปากแข็ง คำพูดที่เอ่ยออกมาจึงราวกับเด็กหนุ่มวัยต่อต้าน

“นังบ้ามู่ซือเจียวกลับมาก็รังแกอวิ๋นเอ๋อร์ของพวกเรา ข้าเลยไปตีกับนางมานิดหน่อย”

มู่ซืออวี่เอ่ยขึ้นขณะที่กำลังเข้ามาในห้อง

“อวิ๋นเอ๋อร์ เจ้าไม่เป็นไรนะ?” ลู่เซวียนเดินเข้ามาหาและคุกเข่าลงถาม “มีบาดแผลหรือไม่?”

ลู่จื่ออวิ๋นจับผมตนเอง “นางขยุ้มผมข้า ท่านแม่อุตส่าห์หวีผมให้ข้า มุกดอกไม้ของข้าเปื้อนหมดแล้ว แต่ว่าเอาไปล้างก็ได้แล้ว ไม่น่าจะพังเจ้าค่ะ”

“เจ้านี่นะ อาของเจ้าถามว่าเจ้ามีบาดแผลหรือไม่ สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งของนอกกาย สำคัญกว่าเจ้าเสียเมื่อไหร่?” ลู่เซวียนอับจนหนทาง “เจ้าเด็กทึ่ม”

“ของที่ท่านแม่ให้ข้าสำคัญมาก ๆ” ลู่จื่ออวิ๋นพูดอย่างขึงขัง “ตอนแรกข้ากับเอ้อร์หนิวเก็บไข่ป่ามาได้มากมาย แตกไปแล้วสองฟอง ยังดีที่เอ้อร์หนิวฉลาด วางไข่ป่าเอาไว้ดี ๆ เสียก่อน ถึงได้ไปเรียกท่านแม่มา”

ลู่เซวียนมองเด็กหญิงผิวคล้ำขี้อายที่อยู่ด้านข้างแล้วเอ่ยขอบคุณ “ขอบใจเจ้าที่ช่วยอวิ๋นเอ๋อร์”

“ไม่ต้องขอบคุณหรอกเจ้าค่ะ…” นี่เป็นครั้งแรกที่เอ้อร์หนิวพบกับครอบครัวที่สุภาพเช่นนี้ เด็กหญิงรู้สึกทำอะไรไม่ถูกอยู่บ้าง

ครอบครัวของอวิ๋นเอ๋อร์ดีจริง ๆ ท่านแม่อ่อนโยน ท่านอาก็อ่อนโยน ไม่แปลกใจว่าทำไมอวิ๋นเอ๋อร์จึงเป็นเด็กหญิงตัวน้อยที่น่ารักที่สุดในหมู่บ้าน

มู่ซืออวี่เปลี่ยนเสื้อผ้าของนางแล้วเดินออกมา บอกให้เด็กหญิงทั้งสองเล่นอยู่ที่บ้าน นางจะไปซักเสื้อผ้าสกปรกที่นางเพิ่งผลัดออกมา

“เจียวเอ๋อร์ เหตุใดเจ้าถึงมีสภาพเช่นนี้?” แม่เฒ่าเจียงเห็นมู่ซือเจียวเข้ามาก็ร้องขึ้นเสียงดัง “สวรรค์ ผู้ใดสับเจ้าเละเป็นชิ้น ๆ เช่นนี้?”

“มู่ซืออวี่เป็นคนทำ ท่านรีบไปตีนาง ตีนางให้ตายเหมือนเมื่อก่อน!” มู่ซือเจียวกำลังเดือดดาล “ท่านย่า มู่ซืออวี่ตอนนี้นับวันยิ่งป่าเถื่อนยิ่งกว่าเดิม ท่านรักเอ็นดูข้าที่สุด ต้องทวงความยุติธรรมให้ข้านะเจ้าคะ”

“ข้า…”

เมื่อแม่เฒ่าเจียงได้ยินว่าเป็นการกระทำของมู่ซืออวี่ นางก็ได้แต่ลูบแก้มอย่างกระอักกระอ่วน

“เหตุใดท่านทำสีหน้าเช่นนี้? หรือว่าหมู่นี้ที่ข้าไม่อยู่บ้าน ท่านถูกมู่ซืออวี่ซื้อตัวไปแล้ว?”

“เจียวเอ๋อร์ เจ้าไม่เป็นไรก็อย่าไปยั่วโมโหนางเลย เจ้าดูว่าตนเองทำอะไร หากใบหน้าถูกทำลายเข้า ยังจะเป็นอนุคุณชายหลี่ได้อย่างไร? มู่ซืออวี่คนนั้นทั้งชีวิตก็เป็นได้แค่หญิงบ้านนอก จะมาทำร้ายเจ้าได้อย่างไร”

หญิงบ้าคนนั้นราวกับถูกผีเข้าสิง คนในหมู่บ้านที่ไปล่วงเกินย่อมไม่ถูกปล่อยไปง่าย ๆ ตอนนี้เห็นหน้าอีกฝ่ายทีไรเป็นต้องวิ่งหนีหางจุกตูด

ส่วนแม่เฒ่าเจียงนั้นพอรู้ตัวแล้ว อะไร ๆ ก็ไม่เหมือนดังเดิม

“ท่านเข้าข้างนางแล้วจริง ๆ”

มู่ซือเจียวไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ รู้แค่เพียงแม่เฒ่าเจียงไม่ช่วยระบายความแค้นให้ตนแล้ว

ในอดีตขอแค่นางเอ่ยเพียงคำเดียว แม่เฒ่าเจียงก็จะตีมู่ซืออวี่จนปางตาย

“ท่านอย่าได้ลืมว่าตอนนี้ใครเป็นคนให้เงินท่าน มู่ซืออวี่คนนั้นให้เงินท่านใช้สอยหรือ?”

“พอได้แล้ว” มู่ต้าซานคว้าขอบประตูเอาไว้ หอบหายใจอย่างหนัก

สีหน้าของเขาขาวซีดราวกับแผ่นกระดาษ ถุงใต้ตาทั้งสองข้างดำคล้ำราวกับคนป่วยระยะสุดท้าย

“อารอง ข้าตกใจแทบตายแล้ว” มู่ซือเจียวขมวดคิ้ว “ท่านออกมาทำอะไรในสภาพเช่นนี้?”

“ซืออวี่ไม่เคยล่วงเกินผู้อื่น หากไม่ใช่พวกเจ้ารังแกผู้อื่นก่อน นางก็ไม่ทำเช่นนี้กับเจ้าแน่ เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น เจ้ากลับไม่ตรึกตรองดูเอาเอง แต่โยนความผิดทั้งหมดไปให้คนอื่นเขา แค่ก แค่ก…”

“อารอง ท่านเข้าข้างนางเช่นนี้ นางรู้เห็นด้วยสินะ ท่านป่วยขนาดนี้แล้ว นางเคยให้เงินท่านแม้แต่หนึ่งอีแปะหรือ? ยังต้องให้บ้านเราดูแลอีก นึกไม่ถึงว่าท่านจะช่วยพูดแทนนาง” มู่ซือเจียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

“ข้าไร้ลูกชายลูกสาว เป็นความผิดของใคร? เดิมทีข้ามีภรรยาคนหนึ่ง แต่เป็นใครที่ทำร้ายนางจนต้องจากไป? ข้ากลายมาเป็นอย่างทุกวันนี้เพราะการกระทำของผู้ใด? ข้าถือซะว่ากรรมตามสนอง สาสมแล้ว ข้ายอมรับแล้ว แล้วพวกเจ้าล่ะ? อย่าคิดว่าจะได้ดีเลย แค่ก แค่ก…” มู่ต้าซานมองมู่ซือเจียวและแม่เฒ่าเจียงอย่างเยือกเย็น

แม่เฒ่าเจียงรู้สึกเหมือนบุตรชายคนรองผู้นี้นับแต่ล้มป่วยก็กลายไปเป็นคนละคน ช่างน่าหวาดกลัวยิ่งนัก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย