ระหว่างทางกลับบ้าน หลินชิงเหอก็รู้สึกโล่งกายสบายใจอย่างยิ่ง
เธอไม่คิดว่าพวกครอบครัวตระกูลหลินจะหาเรื่องต่อสู้รอบใหม่เพราะโค้ททหารของเธอหรอก
อย่าคิดว่าเธอจะกตัญญูกับพ่อแม่และดูแลญาติ ๆ เพียงเพราะเธออยู่ในร่างของเจ้าของร่างเดิมนะ
แน่นอนว่าถ้าพวกเขาดีต่อเธอ เธอก็จะช่วยเหลือสักเล็กน้อย ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งแล้วก็ไม่ควรทำเกินไป
แต่พ่อแม่ของเธอกับญาติ ๆ นิสัยดีกันเสียที่ไหนล่ะ?
ต้องการจะให้เธอช่วยเหลืองั้นเหรอ? ไม่มีทาง ไม่มีทางอย่างแน่นอน
เธอกลับไปที่บ้านอย่างอารมณ์ดี ซึ่งโจวชิงไป๋ได้รอเธออยู่ที่บ้านแล้ว เมื่อเห็นหญิงสาวกลับมาเร็วกว่าที่คิดแถมเธอยังดูอารมณ์ดีมีความสุข เขาก็เอ่ยทัก “ทุกอย่างเรียบร้อยดีนะ?”
“ค่ะ” หลินชิงเหอจอดจักรยานไว้ในที่จอดและถามขึ้น “กลางวันนี้คุณอยากกินอะไรคะ? ฉันจะได้ทำให้คุณกิน”
“คุณตัดสินใจเถอะ” โจวชิงไป๋ตอบขณะมองเธอ
หลินชิงเหอจึงเดินเข้าครัวไปทำอาหารด้วยอารมณ์แจ่มใส
ถึงอากาศจะเย็น หญิงสาวก็ยังจะทำบะหมี่ในน้ำซุปซีอิ้ว
เธอทำซอสพริกเก็บไว้เป็นจำนวนมากเมื่อไม่นานมานี้ และมันก็เหมาะที่จะกินกับบะหมี่ในครั้งนี้มาก
หญิงสาวทำซอสเนื้อในปริมาณพอขลุกขลิกก่อนราดลงบนเส้นบะหมี่ หากใครชอบทานเผ็ดก็แค่ตักซอสพริกโปะลงไป ซึ่งจะทำให้มันยิ่งมีรสชาติดีมากขึ้น
ขณะที่หลินชิงเหอง่วนอยู่กับการปรุงอาหารพร้อมกับฮัมเพลงเบา ๆ ไปด้วย เจ้าใหญ่ก็กลับมาจากข้างนอกบ้านพอดีและเอ่ยถามขึ้น “แม่ กลางวันนี้เรามีอะไรกินเหรอครับ?”
“บะหมี่ซอสเนื้อน่ะ” หลินชิงเหอตอบ
“บะหมี่ซอสเนื้อเหรอครับ?” เจ้าใหญ่ตาโต
“มันไม่ใช่ของหากินยากอะไรเลย ลูกจำเป็นต้องทำท่าทางอย่างนั้นด้วยเหรอ?” หลินชิงเหอเอ่ยอย่างดูแคลน
“แม่ครับ ทำไมแม่ดูอารมณ์ดีจัง?” เจ้าใหญ่เอ่ยพลางหัวเราะ
หลินชิงเหอเหลือบมองเขา “ลูกรู้ได้ยังไงว่าแม่อารมณ์ดี?”
“ก็สีหน้าแม่มันบอกอยู่นี่ครับ” เจ้าใหญ่ยิ้มกริ่ม “ถ้าแม่ไม่เชื่อก็ถามพ่อได้นะครับ ดูสิว่าพ่อจะว่ายังไง”
“ไม่ต้องถามหรอก แม่รู้ตัวว่าตัวเองอารมณ์ดีอยู่แล้วล่ะ” หลินชิงเหอเอ่ยจากนั้นก็นวดแป้งต่อ
ไม่นานนักเจ้ารองกับเจ้าสามก็กลับมาจากบ้านตระกูลโจว สิ่งที่สองพี่น้องชอบทำมากที่สุดในตอนนี้ก็คือการไปเยี่ยมซูเฉิงน้อยที่บ้านของคุณปู่คุณย่า
แน่นอนว่าการมีเด็กในบ้านตระกูลโจวมากขึ้นมันก็ทำให้บรรยากาศในบ้านดูครึกครื้นมากขึ้นเช่นกัน
“แม่ ผมเพิ่งบอกเซี่ยเกอเกอไปว่าจะเอานมไปให้เขาลองชิมเยอะ ๆ เลยน่ะครับ” เจ้าสามเปิดประเด็น
เซี่ยเกอเกอในที่นี้ก็คือโจวเซี่ยผู้เป็นลูกชายของพี่ชายรองกับสะใภ้รองตระกูลโจว
ถึงแม้ความสัมพันธ์ระหว่างหลินชิงเหอกับสะใภ้รองตระกูลโจวจะเป็นเหมือนไฟกับน้ำ แต่เธอก็ไม่เอาเรื่องนี้ไปลงกับเด็ก ๆ
“ลูกจะแบ่งไปจากส่วนของลูกก็ได้ แบ่งให้กับทุกคนที่ลูกอยากจะแบ่งเลย ต่อให้ลูกไม่ดื่ม แม่ก็ไม่มีปัญหาอะไร” หลินชิงเหอบอก
“ผมอยากดื่ม” เจ้าสามพูด
“เขาชอบขี้โม้น่ะครับ พอไปที่นั่นเขาก็โม้ใหญ่เลยจนเด็กคนนั้นเริ่มน้ำลายสออยากจะกินด้วย” เจ้ารองอธิบาย
“ครั้งนี้เป็นเพราะผมสัญญากับเขาแล้ว แต่ครั้งหน้าผมจะไม่ให้เขาดื่มแล้ว” เจ้าสามเอ่ย
“เอาล่ะ มันก็แค่นมไม่กี่อึก ดังนั้นไม่เป็นไรหรอก กลางวันนี้เราจะกินบะหมี่ซอสเนื้อกันนะ” หลินชิงเหอเอ่ยตัดบท
สองพี่น้องตาโตในทันที
“ทุกคนเข้าไปในห้องเร็ว ข้างนอกอากาศหนาวมาก” หลินชิงเหอเอ่ยไล่
สองพี่น้องเข้าไปในห้องของพวกเขา ส่วนโจวชิงไป๋เดินเข้ามาจุดไฟในเตาให้ หลินชิงเหอมองชายร่างใหญ่นั่งตรงหน้าเตาไฟแล้วก็เลิกคิ้วพลางอมยิ้ม “พี่ชายรองบ้านหลินกลัวคุณด้วยล่ะค่ะ”
โจวชิงไป๋หันมองเธอด้วยสายตางุนงง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...