เมื่อหลินชิงเหอเอ่ยเช่นนี้ เธอก็ได้รับสายตาขมขื่นจากโจวชิงไป๋
“ทำตัวดี ๆ สิคะ ฉันทำแบบนี้ก็เพื่อคนรุ่นต่อไปของตระกูลโจวคุณเลยนะ ชื่อเสียงตระกูลโจวจะโด่งดังแน่ ๆ หากพวกเขาประสบความสำเร็จในอนาคตน่ะค่ะ” หลินชิงเหอแตะใบหน้าหล่อเหลาของเขาก่อนโน้มมาหาแล้วจูบอย่างหมั่นเขี้ยว
ต้องบอกว่าเธอเลี้ยงดูชิงไป๋ของเธออย่างดีมากเลยล่ะ
แม้เขาจะกลับมาจากกองทัพและเผชิญกับความยากลำบากท่ามกลางแสงตะวัน เขาก็ไม่ได้มีสภาพแบบเนื้อแดดเดียวแก่ ๆ ที่เหนียวจนเคี้ยวไม่เข้าหรือไม่อาจกัดกินได้ เขายังคงสมชายชาตรีและน่าดึงดูดสำหรับเธอเสมอ
โจวชิงไป๋มีสีหน้าอ่อนลงเมื่อถูกภรรยาจูบ
“งั้นบ่ายนี้เราไปเดินเล่นกัน” โจวชิงไป๋พยักหน้าและเอ่ยยืนยัน
วันนี้เป็นวันที่ยี่สิบเก้า พรุ่งนี้เป็นวันสิ้นปี ซึ่งมันคงจะวุ่นวายมาก
แต่โชคไม่ดีที่หลังจากพวกเขาตื่นจากการนอนพักแล้ว หิมะก็เริ่มตก
“ออกไปไม่ได้แล้วล่ะค่ะ” หลินชิงเหอบอก
โจวชิงไป๋รู้สึกหมดแรง หิมะก็ช่างตกได้เวลาเสียเหลือเกิน
“คุณอยากกินอะไรคะ?” หลินชิงเหอถาม
“คุณ” โจวชิงไป๋จ้องมองเธอด้วยดวงตาวับวาว
ไม่กี่วันมานี้รอบเดือนของหลินชิงเหอมาพอดี นอกจากเวลาดี ๆ ในช่วงที่เธอกลับมาบ้านแล้ว โจวชิงไป๋ก็ทำได้เพียงแตะต้องเธอแต่ภายนอกเพื่อบรรเทาความอยากในวันที่ผ่านมา
“พี่รอง พี่อยากกินอะไร?” เสียงของเจ้าสามดังมาจากในห้อง
เมื่อหลินชิงเหอรู้สึกว่าคำพูดพวกนี้มันช่างคุ้นหู เธอก็ได้ยินเจ้ารองพูดเสียงทุ้มกลับมา “คุณ!”
ทันใดนั้นเอง หลินชิงเหอก็หน้าแดง
“โจวเฉวี่ยน โจวกุยหลาย ออกไปลุกนั่งเดี๋ยวนี้!” โจวชิงไป๋บอก
โจวเฉวี่ยนก็คือเจ้ารอง ส่วนโจวกุยหลายก็คือเจ้าสาม
ตอนแรกสองพี่น้องทำเสียงล้อเลียนกันอยู่ในห้อง แต่ตอนนี้พวกเขาก็ได้สะดุ้งโหยง จากนั้นก็ออกมาลุกนั่งด้วยกัน ทั้งสองพี่น้องต่างได้รับความทรมานนัก
ตอนนี้เองโจวข่ายก็กลับมาพร้อมกับไก่ฟ้า 2 ตัว
มันคือสิ่งที่เขาจับได้ตอนออกไปกับเด็กอายุรุ่นเดียวกันคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านพร้อมกับตาข่าย
พวกเขาจับกันมาได้หลายตัว ทุกคนจึงแบ่งหารเฉลี่ยเท่า ๆ กัน ซึ่งโจวข่ายได้ไป 2 ตัว เมื่อเห็นน้องชายทั้งสองกำลังลุกนั่งยอง ๆ เขาก็รู้ว่าน้องสองคนได้ไปท้าทายพ่อของพวกเขาเสียแล้ว
“แม่ครับ ผมจับไก่ฟ้ากลับมาได้ 2 ตัว คืนนี้จะทอดสักตัวไหมครับ?” โจวข่ายบอก
“ได้สิ” หลินชิงเหอไม่สนใจเด็กสองคนนั้น พวกเขาสมควรแล้วที่กล้าทำตัวเป็นนกแก้วล้อเลียนเสียงพ่อแม่ของพวกเขา สมควรถูกลงโทษแล้ว
โจวชิงไป๋ให้ลูกชายคนโตเป็นคนจัดการถอนขนไก่ฟ้าและควักเครื่องใน
หลินชิงเหอหยิบเห็ดมาแช่น้ำหนึ่งกำมือ ไก่ฟ้าตุ๋นเห็ดเป็นอาหารที่อร่อยไม่น้อย
เธอแยกเท้าและปีกไว้ต่างหากเพื่อตุ๋นเป็นแกงไก่ แม้จะมีไม่กี่ชิ้น แต่มันก็ทำให้น้ำแกงหอมหวนมีรสชาติอย่างยิ่ง บวกหมั่นโถวข้าวโพดกับผักดองกับอาหารจานปลาเข้าไปมันก็เป็นมื้อที่สมบูรณ์แบบ
บ่ายวันนั้นเอง หิมะก็ตกหนักไม่หยุด มันตกไม่หยุดเลยจนกระทั่งมาหยุดตอนหนึ่งทุ่ม จากนั้นอีกครู่หนึ่งก็เริ่มตกอีกครั้ง
อากาศช่างหนาวเหน็บอะไรเช่นนี้
“ที่มหาวิทยาลัยไม่มีเตียงเตาแล้วเธอจะหนาวขนาดไหนกันนะ?” ท่านแม่โจวอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องนี้
“ฉันได้ยินมาว่าทางมหาวิทยาลัยกำลังติดตั้งระบบทำความร้อนกันอยู่น่ะค่ะ ไม่รู้ว่าพวกเขาจะสร้างเสร็จทันใช้หรือเปล่า” หลินชิงเหอบอก
แน่ล่ะว่ามันต้องหนาวจนต้องซุกตัวอยู่ในเตียง เมื่ออยู่ในเตียงก็ไม่เป็นไรนัก แต่เมื่อลุกออกจากเตียงก็หนาวจนทนไม่ได้
ด้วยเหตุผลนี้เอง หลินชิงเหอจึงวางแผนรอให้ถึงหน้าร้อนนี้แล้วสะสมมะเขือเทศสองกล่องไว้ในมิติ อากาศช่างแห้งเสียจนเธอกลัวว่าจะเลือดกำเดาไหล!
โจวชิงไป๋ทำเพียงรับฟัง ซึ่งเช้าวันต่อมาไม่มีหิมะแล้ว เขาจึงรีบออกไปแต่เช้าตรู่ โดยไม่รู้ว่าเขาออกไปทำอะไร เขาไม่ได้กลับมาเลยจนกระทั่งถึงเวลาอาหารกลางวัน
เขากลับมาพร้อมกับถุงน้ำร้อนอุ่นมือใบหนึ่ง
หลินชิงเหอที่อยู่หน้าเตาไฟถึงกับเบิกตากว้าง ของสิ่งนี้ในอดีตหลายครอบครัวใช้ถือไว้เพื่ออุ่นมือนี่นา!
“ของชิ้นนี้ใช้งานสะดวก หลังปีใหม่แล้วคุณพกไปด้วยนะ” โจวชิงไป๋บอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...