บทที่ 472 ห่างชั้นกันมาก
เงินมัดจำอะไร? ถ้าหล่อนมีเงิน จะนั่งรอให้หวังหยวนกลับมาทำไมกันล่ะ? ก็เพราะไม่มีเงินไง หล่อนถึงได้รอหวังหยวน
สวี่เชิ่งเหม่ยไม่คาดคิดเลยว่า หวังหยวนคนที่อ่อนน้อมและเชื่อฟังเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณตาคุณยาย เมื่ออยู่กับหล่อนจะไม่มีมารยาทได้ขนาดนี้
ไม่ใช่ว่าเขาพูดจาไม่สุภาพ ถึงอย่างไร การที่คนเป็นเถ้าแก่ใหญ่พูดกับหล่อนด้วยท่าทางเช่นนี้ก็เป็นเรื่องที่ปกติ แต่มันดูเป็นธุรกิจมากเกินไปหรือเปล่า?
สวี่เชิ่งเหม่ยไม่พอใจเลย แต่ก็ไม่อยากจะกลับไปทั้งอย่างนี้ เพราะถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องยากที่จะมาที่นี่ได้สักครั้ง
“ไม่ได้นำเงินมัดจำมาด้วยหรือครับ? ถ้าอย่างนั้นผมเกรงว่าคงไม่สามารถลงคิวคำสั่งซื้อให้คุณได้ ตอนนี้งานของเราแน่นมากครับ เป็นเพราะคุณเป็นญาติกับเจ้านายของเรานะครับ คุณถึงเข้ามาอยู่ในคิวงานได้” ผู้จัดการบอก
สวี่เชิ่งเหม่ยฝืนยิ้มออกมาพลางพูดว่า “วันนี้ฉันไม่ได้เอาเงินสดมาเลยค่ะ ขอฉันกลับไปเตรียมเงินมาก่อนนะคะ”
“ตกลงครับ” ผู้จัดการกล่าวน้ำเสียงเรียบเฉยและส่งหล่อนกลับไป
รถยนต์ของหวังหยวนจอดอยู่ในโรงงาน เขาร่ำรวยมากแค่ไหนกันล่ะถึงซื้อรถยนต์คันนี้และมีโรงงานที่ใหญ่โตขนาดนี้เป็นของตนเองได้?
ถึงแม้โรงงานของครอบครัวจ้าวจะมีพนักงานเป็นจำนวนมาก แต่ก็มีอยู่เพียงประมาณ 200 กว่าคนเท่านั้น
สวี่เชิ่งเหม่ยกลับไปหาจ้าวจวิน ตอนที่หล่อนมาถึงบ้าน จ้าวจวินกำลังหลับอยู่แถมมีกลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งไปทั้งตัว
เมื่อเห็นสภาพของเขาแล้ว สวี่เชิ่งเหม่ยก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย ชายคนที่หล่อนจัดการหามาได้ด้วยตัวเองอยู่ในสภาพอย่างนี้ เขาไม่สามารถเทียบกับหวังหยวนได้เลย ชายผู้นั้นอายุเท่า ๆ กับจ้าวจวิน แต่ดูที่ความสำเร็จของเขาสิ
เมื่อเทียบกับชายคนนั้นแล้ว จ้าวจวินไม่มีอะไรเลย ไม่น่าแปลกใจเลยที่คุณตาคุณยายจะไม่ชอบเขา
แต่จะทำอะไรได้ล่ะ? ในเมื่อตอนนี้แต่งงานเข้ามาแล้ว หล่อนทำได้แค่ไปตามเส้นทางสายนี้เท่านั้น
จ้าวจวินกำลังหลับสนิทในตอนที่ถูกหล่อนปลุกขึ้นมา เขาพูดอย่างอารมณ์เสีย “ฉันกำลังนอนอยู่นะ เธอจะก่อกวนทำไมกันเนี่ย?”
“จ้าวจวินคะ ฉันรู้ว่ามันไม่ง่ายสำหรับคุณ แต่ตอนนี้เราต้องคิดหาวิธีกันนะคะ เราจะอยู่กันแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ถ้าแยกบ้านขึ้นมาเมื่อไหร่ แล้วตอนนั้นเราจะทำยังไงกันคะ?” สวี่เชิ่งเหม่ยสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดขึ้นอย่างอ่อนโยน
“แยกบ้าน? แยกบ้านอะไรกัน? พ่อกับแม่ยังอายุไม่มากเท่าไหร่เลย แล้วจะแยกบ้านไปทำไม? วัน ๆ อย่ามัวมาเสียเวลาคิดถึงเรื่องที่มันยังไม่เกิดขึ้นเลยน่า” จ้าวจวินบ่นพึมพำอย่างอารมณ์เสีย
สวี่เชิ่งเหม่ยแทบจะควบคุมตัวเองจากความโกรธไม่ได้ หล่อนไม่เคยเห็นใครโง่เง่าได้ถึงขนาดนี้เลย ครอบครัวนี้มีคนตั้งอยู่มากมาย ถ้าพวกเขาไม่วางแผนสำหรับตัวเองไว้ให้ดี ในอนาคตหากพวกเขาไม่ได้อะไรเลย ก็ไม่มีที่ให้ไปร้องทุกข์ได้แล้ว!
หล่อนไม่อยากจะสิ้นเปลืองน้ำลายกับจ้าวจวินอีก จึงพูดว่า “คุณรู้เรื่องของคุณน้าของฉันไหมคะ? ตอนนี้เขาซื้อรถบรรทุกแล้ว”
“แล้วยังไงล่ะ? ก็แค่รถบรรทุก พวกเราก็มีรถเก๋ง หรูหรากว่ารถบรรทุกขนของอีก” จ้าวจวินฮึดฮัดเมื่อได้ยินคำพูดพวกนี้
โจวชิงไป๋และหลินชิงเหอไม่ชอบเขา เขาก็ไม่สนใจครอบครัวตระกูลโจวเหมือนกัน และจากทัศนคติที่คนพวกนั้นมีต่อเขา หากว่าเขาต้องการจะขอยืมเงินหรืออะไรขึ้นมาจริง ๆ แล้วละก็ มันคงจะเป็นเรื่องที่แปลกมากถ้าคนพวกนั้นจะให้เขายืม
เมื่อเป็นเช่นนั้น แล้วทำไมเขาจะต้องไปที่นั่นด้วยล่ะ? ก็แค่เปิดร้านพัง ๆ ไม่กี่ร้าน มีอะไรที่ยิ่งใหญ่นักหรือ?
สวี่เชิ่งเหม่ยพูด “ฉันเดาว่าการเปิดร้านจะต้องทำกำไรได้ดีมากเลยละค่ะ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อรถได้หรอก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...