บทที่ 483 เชื่อมสัมพันธ์
เมื่อหู่จือกลับมาถึง เขาก็ถูกไต่สวนจากโจวกุยหลาย กังจือและคนอื่น
หู่จือรับสารภาพออกมาอย่างขัดเขิน
สรุปว่าทุกคนในครอบครัวตระกูลโจวก็ได้รู้เรื่องที่หู่จือและเฉินซานซานกำลังคบหากันอยู่
ท่านแม่โจวก็ใส่ใจกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ
ยิ่งไปกว่านั้นนางยังเป็นคนที่จัดการเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี เมื่อกังจือมาหา นางจึงบอกให้กังจือเอาตะกร้าไข่ไปให้บ้านตระกูลเฉิน
“แม่คะ ปล่อยให้หู่จือคบหากับเด็กสาวคนนั้นเอง อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวให้มากนักเลยค่ะ เก็บไข่ของแม่เอาไว้กินเองเถอะนะคะ” โจวเสี่ยวเหมยพูดอย่างอ่อนใจ
“ทำแบบนั้นได้ยังไง? การที่ครอบครัวของพวกเขาชื่นชอบหู่จือนับว่าเป็นโชคสำหรับหู่จือนะ พวกเราก็ต้องช่วยหู่จือด้วย จะไม่ทำอะไรเลยได้ยังไงกัน?” ท่านแม่โจวตอบ
“แม่กำลังทำให้หู่จือดูเหมือนคนไร้ค่านะคะ หู่จือเป็นเด็กหนุ่มที่ยอดเยี่ยมมาก พี่สะใภ้สี่เป็นคนฝึกฝนอบรมมาเอง ในอนาคตเขาจะไม่ย่ำแย่แน่ค่ะ ครอบครัวเฉินเองก็น่าจะคิดอย่างนั้นด้วย ฉะนั้นแม่ไม่ต้องทำแบบนี้หรอกค่ะ อย่าทำให้ครอบครัวเฉินต้องรู้สึกลำบากใจเลย” โจวเสี่ยวเหมยสวนกลับ
โจวเสี่ยวเหมยฝืนทนกับเรื่องการส่งไข่เหล่านี้ไปให้ครอบครัวเฉินไม่ได้ ตอนนี้มันยุคสมัยไหนแล้ว? ฐานะที่บ้านก็ดีขึ้น ไข่ 1 ตะกร้าไม่ได้มีค่าอะไรเลยจริง ๆ เป็นทัศนคติของแม่หล่อนเองที่ปรับเปลี่ยนตามไม่ทัน
ทำราวกับว่าครอบครัวตนเองกำลังเอาใจครอบครัวตระกูลเฉินอยู่ นี่เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างนั้นหรือ? ถ้าพวกเขาเกี่ยวดองกันในอนาคต ก็ไม่จำเป็นต้องสุภาพต่อกันมากเกินไปนัก เมื่อก่อนเคยเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคตเป็นอย่างนั้นก็พอแล้ว
“ได้ ต่อไปก็ส่งอะไรไปให้น้อยลง พอมาคิดถึงเรื่องนี้ดูแล้ว หู่จือเด็กคนนี้โชคดีจริง ๆ” ท่านแม่โจวพูดอย่างรื่นเริง
เนื่องด้วยปัญหาใหญ่อย่างเรื่องทะเบียนบ้าน ท่านแม่โจวจึงไม่กล้าคาดหวังว่าหลานชายของนางจะหาหญิงสาวในปักกิ่งได้ มิเช่นนั้นนางคงไม่คัดค้านขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเรื่องที่สวี่เชิ่งเฉียงอยากจะแต่งงานกับหญิงสาวในปักกิ่งหรอก
แต่นางไม่คาดว่าสิ่งที่นางไม่เคยกล้าคิดจะเกิดขึ้น มีครอบครัวหนึ่งที่ชื่นชอบในตัวหู่จือหลานชายคนนี้ แม้เขาจะมีปัญหาเรื่องทะเบียนบ้าน พวกเขาก็ยังเต็มใจให้ลูกสาวของตนมาแต่งงานด้วย เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วทำให้ท่านแม่โจวมีความสุขมากจริง ๆ
“ไม่ใช่ว่าหู่จือโชคดีค่ะ แต่เพราะหู่จือเดินตามถูกคนมากกว่า เขามาที่นี่และได้รับการฝึกฝนจากพี่สะใภ้สี่ นั่นเป็นเหตุผลที่อีกฝ่ายพิจารณาในตัวเขาค่ะ” โจวเสี่ยวเหมยมองเห็นอย่างทะลุปรุโปร่ง
“ฉันรู้ ทั้งหมดนี่เป็นเพราะความน่าเชื่อถือของพี่สะใภ้สี่ของแก” ท่านโจวยิ้ม
“ไม่ว่าจะเพราะพี่สะใภ้สี่หรือไม่ หล่อนก็ไม่เคยเอ่ยปากถึงเรื่องนี้หรอกค่ะ ตราบใดที่พวกเขาไม่เป็นเหมือนพี่น้องเชิ่งเหม่ยก็ไม่เป็นไร หล่อนสามารถให้ทุกอย่างได้ แต่หากทำตัวแย่สักนิด หล่อนจะจดจำมันไว้ในใจค่ะ”
“ประเด็นนี้จะมีอะไรให้เถียงได้ล่ะ?” ท่านแม่โจวตอบ
“ด้วยนิสัยอย่างเชิ่งเหม่ยแล้ว ในใจหล่อนคงต้องรู้สึกไม่พอใจแน่ หู่จือได้คบหาและจะแต่งงานกับสาวปักกิ่ง ในขณะที่เฉียงจือไม่สามารถทำได้ หล่อนจะไม่มีความรู้สึกอะไรในใจได้ยังไง” โจวเสี่ยวเหมยแสดงความเห็น
“เฉียงจือมันโง่ เขาจะไปเปรียบเทียบกับหู่จือได้ยังไง? หู่จือสามารถแต่งงานได้ก็เพราะไม่จำเป็นต้องมากลัวว่าจะไม่สามารถเลี้ยงดูผู้อื่นได้ แต่กับเฉียงจือที่ขี้เกียจอย่างนั้น ใครจะไปเต็มใจแต่งงานกับเขากันล่ะ?” ท่านแม่โจวพูดน้ำเสียงไม่พอใจ
นางยังคงโกรธอยู่ แม้กระทั่งถึงตอนนี้ สวี่เชิ่งเฉียงก็ยังไม่มาที่นี่เพื่อขอโทษคุณน้าของเขาเลย
เขาถูกส่งให้ไปเรียนหนังสือในท้ายที่สุดด้วยความยากลำบาก แต่ตอนนี้เขากลับถูกไล่ออก
“สรุปก็คือหนูไม่อยากจะสนใจเรื่องของพวกเขาอีกแล้วค่ะ แม่เข้าไปยุ่งเรื่องของพวกเขาให้น้อยที่สุดก็แล้วกันนะคะ เรื่องนี้ไม่จบลงง่าย ๆ หรอกค่ะ” โจวเสี่ยวเหมยพูด
ท่านแม่โจวถามขึ้นเสียงเบา ๆ “เรื่องบ้านของลุงสามีแกว่ายังไงบ้าง ต้าหลินแนะนำให้พวกเขามาอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”
“ค่ะ แต่คุณลุงกับคุณป้าสะใภ้ไม่ต้องการจะมา พวกเขาบอกว่าตัวเองแก่แล้ว แต่ญาติผู้พี่คนโตของเขากับภรรยาตั้งใจไว้ว่าจะมาค่ะ” โจวเสี่ยวเหมยพูด
“ฉันจำได้ว่าแกเคยบอกว่าสะใภ้ใหญ่ของญาติผู้พี่แกไม่ค่อยจะดีนักไม่ใช่เหรอ?” ท่านแม่โจวถาม
“ไม่ค่อยจะดีจริง ๆ นั่นแหละค่ะ ในอนาคตหนูตั้งใจจะให้พวกเขาอาศัยอยู่ห่างออกไป และบอกให้ต้าหลินหาสถานที่ให้อยู่ไกล ๆ กัน อย่ามาอยู่ในย่านเดียวกัน” โจวเสี่ยวเหมยพูด
ญาติผู้พี่คนโตของซูต้าหลินเป็นคนดี เป็นคนใจดีมากและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับซูต้าหลิน แต่พี่สะใภ้ของเขานั้นแย่มาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...