บทที่ 503 ทำไมทุกอย่างถึงเป็นแบบนี้?
จางเหมยเหลียนอึ้งไปสักพัก หากถามว่าทำไมหล่อนถึงยังไม่ท้อง หล่อนเองก็บอกไม่ได้เหมือนกัน
สวี่เชิ่งเฉียงเป็นชายหนุ่มร่างกายแข็งแรงกำยำ หล่อนหลับนอนกับเขาทุกคืน แต่ผ่านมาสักพักแล้วหล่อนกลับยังไม่ท้องเสียที
จางเหมยเหลียนเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจ หล่อนเคยทำแท้งมา 2 รอบแล้ว หรือว่าเรื่องนี้ส่งผลให้ร่างกายของหล่อนได้รับความเสียหายกันนะ?
“มันจะเร็วอะไรขนาดนั้นคะ? คุณยังไม่เคยพาฉันไปที่บ้านของคุณเลย ถ้าฉันท้องขึ้นมา ชื่อเสียงของฉันจะเป็นยังไงคะ?”
“ผมหวังดีกับคุณนะ คุณไม่กลัวว่าพี่สาวผมจะรู้เรื่องราวของเราสองคนเหรอ ถ้าคุณท้องแล้วพี่สาวผมจะกล้าพูดอะไรได้อีกล่ะ?” สวี่เชิ่งเฉียงพูดและมองท่าทางของหล่อนก่อนจะพูดต่อ “เหมยเหลียน คุณต้องแต่งงานกับผมนะ ต่อไปตระกูลจ้าวก็จะได้เป็นญาติสนิทของคุณด้วยเหมือนกัน”
จางเหมยเหลียนตัดสินใจจะหาเวลาไปตรวจที่โรงพยาบาลดูเสียหน่อย ถ้าหล่อนมีลูกไม่ได้แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ?
แต่ยังไม่ทันที่หล่อนจะได้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล สวี่เชิ่งเหม่ยก็รู้เรื่องของหล่อนกับสวี่เชิ่งเฉียงเสียก่อน
เรื่องเริ่มมาจากการที่ตระกูลจ้าวกินมื้อค่ำกัน วันนั้นพวกเขากินโจ๊กหอยเป๋าฮื้อแสนอร่อยอันเป็นอาหารโอชะที่หาทานได้ยาก
สวี่เชิ่งเหม่ยเห็นว่าในหม้อยังมีโจ๊กเหลืออยู่ประมาณ 2 ชาม จึงบรรจุใส่กล่องอาหารมาให้น้องชายของหล่อนได้ชิมด้วย
หล่อนมาเคาะประตูห้องของน้องชาย สวี่เชิ่งเฉียงก็มาเปิดประตูอย่างไม่คิดอะไร เนื่องจากคิดว่าคนอื่นเคาะประตูผิดห้อง
พี่สาวของเขาไม่เคยมาหาตอนกลางดึก อีกทั้งบริเวณรอบ ๆ ก็ไม่มีคนสนิทอื่นแล้ว ใครจะไปรู้ว่าพอเปิดประตูมาแล้วกลับเห็นว่าเป็นพี่สาวตัวเอง
สวี่เชิ่งเฉียงอึ้งไปพักหนึ่งพร้อมกับร้อนใจขึ้นมาเล็กน้อย เพราะเขาไม่คิดที่จะเปิดเผยเรื่องของเขาให้พี่สาวได้รับรู้เลย
เขาพยายามกันไม่ให้พี่สาวเข้ามาข้างในห้อง สวี่เชิ่งเหม่ยเองก็ไม่คิดจะเข้าไปเช่นกัน แต่ท่าทางของน้องชายดูมีพิรุธจนหล่อนสงสัย
ถึงอย่างนั้นหล่อนก็ไม่ได้ดึงดันจะเข้าไปข้างในให้ได้ พอให้ของกินเสร็จหล่อนก็เดินกลับ จากนั้นจึงถามไถ่เรื่องที่เกิดขึ้นกับคนในบ้านใกล้เรือนเคียง
เป็นธรรมดาที่บ้านอื่น ๆ จะรู้เรื่องราวของจางเหมยเหลียนว่ามันเกิดขึ้นมานานแล้ว หล่อนแวะมาค้างคืนที่นี่เป็นประจำตั้งแต่ 2-3 เดือนที่ผ่านมา เพียงแต่ยังไม่ได้ย้ายสิ่งของเข้ามาเท่านั้น
พอหล่อนถาม พวกเขาจึงพูดออกมาจนหมด
หัวใจของสวี่เชิ่งเหม่ยเต้นช้าไปครึ่งจังหวะ หล่อนรีบเดินไปที่อะพาร์ตเมนต์ของจางเหมยเหลียน ปรากฏว่าห้องของหล่อนกลับว่างเปล่าไม่มีคนอยู่เลย!
สวี่เชิ่งเหม่ยจึงเดินกลับมาที่บ้านของน้องชาย พอเงี่ยหูฟังที่ประตูก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างใน และเสียงนั้นคือเสียงของจางเหมยเหลียนกับน้องชายของหล่อน!
เวลานี้ดึกมากแล้ว จะอาละวาดส่งเสียงเอ็ดตะโรก็คงจะไม่เหมาะสม สวี่เชิ่งเหม่ยจึงอดทนข่มกลั้นเอาไว้
เมื่อกลับมาถึงบ้านตระกูลจ้าว สีหน้าของหล่อนก็ดูย่ำแย่มาก ยิ่งไม่รู้ว่าค่ำคืนนี้จ้าวจวินขับรถหายไปไหนแล้วด้วย สวี่เชิ่งเหม่ยที่ขังตัวเองอยู่ในห้องก็รู้สึกเดือดดาลเสียจนแทบจะพังข้าวของแตกกระจาย!
ในวันถัดมาหลังกินอาหารเช้าเสร็จ หล่อนก็ออกจากบ้านด้วยสีหน้าดำทะมึน
“ไม่รู้ว่าทำหน้าแบบนั้นให้ใครเขามอง ร้านเสื้อผ้าเล็ก ๆ นั่นในเดือนหนึ่งจะได้เงินสักเท่าไหร่เชียว ทำหยิ่งไปเถอะ!” คุณแม่จ้าวด่าไล่หลังเมื่อเห็นหล่อนเดินออกไป
เดิมทีหล่อนนึกว่าสะใภ้คนนี้จะสามารถควบคุมลูกชายของตนไม่ให้ออกไปสำมะเลเทเมานอกบ้านได้ แต่ใครจะคิดว่าหล่อนกลับไร้ประโยชน์และควบคุมเขาไม่ได้เลย
แถมแต่งเข้าบ้านมานานขนาดนี้แล้ว ไข่สักฟองก็ยังไม่ฟักออกมา!
ก่อนหน้านั้นคุณแม่จ้าวเคยพูดประชดประชันแบบนี้กับหล่อน แต่สวี่เชิ่งเหม่ยก็ไม่ใช่พวกกินพืชเช่นกัน หล่อนอ้างว่าคราวก่อนตนหกล้มแรงมากจนถึงตอนนี้ร่างกายของตนก็ยังไม่สมานตัวดี
นั่นทำให้คุณแม่จ้าวไม่ชอบใจมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...