บทที่ 505 ยังคงเรียนต่อ
“พี่ นี่พี่ท้องแล้วเหรอ?” โจวซื่อนีได้ยินถึงกับอึ้งไปสักพัก
หลินชิงเหอเองรู้สึกว่าความเร็วขนาดนี้นับว่าเร็วใช้ได้ นี่เพิ่งผ่านไปหนึ่งเดือนเองนะ หากนับ ๆ ดูแล้วก็น่าจะปฏิสนธิตั้งแต่วันที่สองหลังงานแต่งงาน
โจวเอ้อร์นีได้ฟังก็มีท่าทางเขินอายจนใบหน้าแดงฉาน แต่หวังหยวนกลับพูดขึ้นด้วยความลิงโลด “ท้องแล้ว ๆ ช่างดีจริง ๆ!”
ชายหนุ่มยิ้มไม่หุบราวกับคนโง่งมคนหนึ่ง
โจวเอ้อร์นีท้องแล้ว แต่ว่ายังคงทำงานที่ร้านอยู่ หวังหยวนจะมาส่งเธอที่นี่ทุกวัน หลังจากนั้นก็ขับรถไปโรงงานต่อ
สำหรับเรื่องอาหารการกินนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะไม่ว่าจะเป็นทางนี้หรือทางท่านพ่อโจวกับท่านแม่โจวต่างก็จัดการอาหารสามมื้อในหนึ่งวันให้พวกเขาทั้งสองคนอยู่เสมอ
เพราะตอนนี้ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน พวกเขาไม่ต้องประหยัดถึงขนาดนั้นแล้ว
ทว่าหลินชิงเหอยังคงให้โจวเอ้อร์นีกินผักผลไม้ให้มากขึ้น ยุคนี้ยังไม่มีกรดโฟลิกสกัดให้รับประทาน แต่ผักกับผลไม้ก็สามารถทดแทนได้เหมือนกัน
ด้านโจวซานนีนั้นถูกดูแลอย่างดี แม้ต้องควบคุมอาหารบางประเภทบ้างเล็กน้อย แต่เดือนนี้ท้องของหล่อนใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจนร่างทั้งร่างบวมไปหมดแล้ว
เมื่อเห็นโจวเอ้อร์นีกับโจวซานนีเป็นแบบนี้แล้ว หู่จือที่ได้เฉินซานซานเป็นคู่ครองก็เกิดแรงฮึดสู้ขึ้นมา
ต้นปีนี้หลินชิงเหอไม่ได้มอบหมายหน้าที่ในร้านให้เขาทำแล้ว เธอปล่อยเขาไปทำงานด้วยตัวเอง โดยให้เขาไปรับสินค้าจากที่ร้านมาไว้ในร้านค้าแผงลอยของเขา
เฉินซานซานยังอยู่ดูแลร้านต่อ เขาจึงเป็นคนตั้งร้านค้าแผงลอยเพียงลำพัง
ขอเพียงวันไหนฝนไม่ตก เขาก็จะออกไปตั้งแผงลอยแต่เช้าตรู่ ทำให้ผ่านไป 2-3 เดือนผิวของเขาถึงกับคล้ำไปแล้วหนึ่งระดับ แต่ว่านั่นยิ่งทำให้เขาดูเป็นผู้ใหญ่และสุขุมยิ่งขึ้น
“หนึ่งเดือนได้เท่าไหร่หรือจ๊ะ?” เมื่อเห็นเขากำลังนับเงินในวันนี้ หลินชิงเหอก็รินชาดอกเก๊กฮวยให้เขาก่อนจะถามด้วยรอยยิ้ม
“เดือนนี้น่าจะประมาณ 200 กว่าหยวนครับ” หู่จือรู้สึกดีใจไม่น้อย เขาพูดพร้อมคลี่ยิ้ม
หากเป็นคนอื่นย่อมไม่มีใครพูดความจริงออกมาหรอก ใน 1 เดือนหาเงินได้ 200 กว่าหยวนนั้นถือว่าไม่ใช่น้อย ๆ เลย แต่สำหรับหลินชิงเหอแล้วเงินจำนวนนี้ไม่ถือว่ามากพอ
“เดือนนี้ฝนตกตั้ง 4-5 วันเลยไม่ได้ออกไปตั้งแผงขายสินะ ไม่งั้นคงจะได้เยอะกว่านี้” หลินชิงเหอพยักหน้าพูด
หากตัวเธอออกไปทำเองก็คงได้ผลลัพธ์ไม่ต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ ซึ่งกำไร 200 กว่าหยวนต่อเดือนนั้นไม่ถือว่าสูงนัก
“นี้ก็ไม่เลวแล้วนะครับ” หู่จือพอใจมากทีเดียว สำหรับเขานั้นเงินเดือน 200 หยวนต่อเดือนก็เยอะมากแล้วจริง ๆ
หลินชิงเหอเอ่ยยิ้ม ๆ “ถ้าแค่นี้ว่าเยอะแล้ว งั้นต่อไปเธอต้องซื้อบ้าน ต้องย้ายทะเบียนบ้านจะทำอย่างไร ทั้งหมดนี้ต้องใช้เงินทั้งนั้น 200 หยวนต่อเดือนจะไปพออะไร”
“ไม่เป็นไรครับ ค่อย ๆ เก็บไปก็ได้” หู่จือเอ่ย
การได้เงิน 200 หยวนต่อเดือนทำให้เขาเก็บเงินได้ไวขึ้นมาก อย่างเช่นใน 1 ปีที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้เขาเก็บเงินได้ถึง 1,000 หยวนแล้ว
เขาไม่เคยเห็นเงินเยอะขนาดนี้มาก่อน แน่นอนว่าเงินส่วนนี้เขาเก็บไว้กับน้าสะใภ้ หลังจากทำบัญชีเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาจึงจะนำมาฝากกับหลินชิงเหอ
หลินชิงเหอเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าใบหนึ่งออกมาที่ภายในนั้นเป็นเงินของเขาเอง และเอ่ยขึ้น “เงินพวกนี้คือเงินที่น้าเก็บไว้ให้ มีเท่าไหร่น้าก็ไม่รู้หรอกนะ เธอนับเอาเองในใจก็แล้วกัน”
“ครับ” หู่จือพยักหน้าอย่างหนักแน่น เงินเก็บของเขาปลอดภัยที่สุดแล้วเมื่ออยู่กับน้าสะใภ้
“น้าสี่ของเธอตุ๋นซุปไก่เอาไว้ เย็นนี้มากินด้วยกันสิจ๊ะ กินด้วยกันก่อนแล้วค่อยไปเถอะนะ” หลินชิงเหอเก็บเงินให้เรียบร้อย และพูดขึ้น
“เกรงว่าเดือนนี้เงิน 5 หยวนของผมจะไม่พอค่าอาหารน่ะครับ” หู่จือพูดอย่างเกรงใจ
ตอนนี้เขาออกมาทำอะไรตัวเองแล้ว ย่อมต้องมีค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารการกิน ไม่เพียงเขาคนเดียว พวกกังจือเองก็เช่นกัน ค่าที่พักนั้นไม่นับแต่ค่าอาหารต่อเดือนยังต้องหักจากเงินเดือนที่ได้ส่วนหนึ่ง เพราะเธอไม่ได้รวมค่าอาหารไว้ด้วย
แต่การหักค่าอาหารสามมื้อต่อวันกับพวกเขานั้น หากพูดตรง ๆ แล้วก็เหมือนไม่ได้หักจริง ๆ หรอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...