ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 548

บทที่ 548 สะใภ้สี่ นี่เธอท้องแล้วเหรอ?

หลังจากนางอธิบายให้ฟังแล้งหลินชิงเหอถึงจะเข้าใจ เธอจึงพูดว่า “ที่คุณแม่พูดมานี้ ที่จริงก็มีมูลอยู่เหมือนกันค่ะ”

ท่านแม่โจวได้ยินสะใภ้สี่สนับสนุนตัวเองก็ดีใจ จึงหันกลับมาพูดกับลูกสาวตัวเอง “แกดูพี่สะใภ้สี่ของแก ฉันบอกแล้วว่าให้ลองดู แกยังมาบั่นทอนกำลังใจฉันอีก”

“หนูบั่นทอนกำลังใจตรงไหนคะ นี่ไม่ใช่ว่าพวกเขาต่างกันเกินไปเหรอคะ?” โจวเสี่ยวเหมยพูด หล่อนเองก็คาดหวังกับหลานสาวคนนี้เช่นกัน แต่แม้จะคาดหวังแค่ไหน ความแตกต่างนั้นก็ชัดเจนมากจนไม่สามารถมองข้ามไปได้

“ยังจะพูดว่าทั้งสองคนต่างกันมากอยู่อีกเหรอ เอ้อร์นีกับหวังหยวนแตกต่างกันมากกว่าอีก แกดูสิว่าพวกเขาอยู่อย่างมีความสุขดีหรือเปล่า? ตอนนี้คลอดเด็กแฝดมังกรหงส์คู่หนึ่งแล้ว” ท่านแม่โจวพูด

คำพูดนี้ทำให้โจวเสี่ยวเหมยพูดไม่ออก

หลินชิงเหอยิ้มแล้วพูดต่อ “คุณแม่คิดว่ากั๋วต้งเป็นอย่างไรบ้างคะ?”

“ฉันรู้สึกว่าเขาไม่เลวเลย ดูแล้วเหมือนเป็นคนติดดิน ไม่ใช่คนฟุ้งเฟ้อ ได้ยินว่าเขามียศมีตำแหน่งด้วยนี่?” ท่านแม่โจวพูด

“ค่ะ เรื่องย้ายทะเบียนบ้านของเสี่ยวเหมยกับต้าหลินก็ได้เขาเป็นคนจัดการให้” หลินชิงเหอพยักหน้าพูด

ท่านแม่โจวได้ฟังแล้วก็ดีใจ “งั้นเขาต้องเก่งมากเลยสินะ”

“อายุเขาไม่น้อยแล้วนะคะ น่าจะยี่สิบแปดแล้ว” หลินชิงเหอพูดสิ่งที่ควรพูดออกมา

“อายุยี่สิบแปดมีอะไรต้องรีบ ต้าหลินตอนที่แต่งงานกับเสี่ยวเหมยก็อายุประมาณนี้เหมือนกัน เธอเห็นไหมว่าต้าหลินเขารักและดูแลเสี่ยวเหมยขนาดไหน?” ท่านแม่โจวพูด

ไม่ใช่ว่านางด่วนตัดสินไปแล้วว่าเวิงกั๋วต้งดี นางเองได้ไตร่ตรองมาแล้วเหมือนกัน อันดับแรกก็คือประวัติของเวิงกั๋วต้งนั้นดีมาก พ่อแม่ก็น่าจะไม่เลวทั้งคู่ ไม่อย่างนั้นจะเป็นเพื่อนกับสะใภ้สี่ได้หรือ

ไหนจะตัวของเวิงกั๋วต้งเองอีก เดือนหนึ่งเขาสามารถหาเงินหนึ่งได้ร้อยกว่าหยวนเชียวนะ หน้าที่การงานก็มีเกียรติ เรียกว่าชามข้าวเหล็กคงไม่ผิดนัก

เป็นคนประเภทที่ในอนาคตไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว

คนแบบนี้แหละที่ท่านแม่โจวต้องการให้หลานสาวของตัวเองได้รับ เมื่อเทียบกับหลานชายย่าเฒ่าจูที่อยู่ข้างบ้านนั้น ที่หน้าตาเหมือนลิงและยังอวดเก่งเหมือนหมี*

*เป็นคำล้อเลียนในภาษาถิ่น ประมาณว่า นอกจากหน้าตาไม่ดีแล้วยังดูโง่อีกด้วย

เห็นท่าทางแบบนั้นของท่านแม่โจวแล้วหลินชิงเหอก็พอจะเข้าใจ จึงพูดขึ้น “ที่จริงแม่ของเหม่ยเจี่ยก็เคยพูดถึงเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ หล่อนเองก็ชอบซื่อนีเหมือนกัน บอกว่าอยากได้หล่อนไปเป็นลูกสะใภ้”

พอท่านแม่โจวได้ยิน ดวงตาของนางก็เป็นประกายวาบ

โจวเสี่ยวเหมยรู้สึกเกินความคาดหมาย หล่อนเหลือบมองโจวซื่อนีที่กำลังเตรียมอาหารอยู่ในห้องครัวกับโจวเฉวี่ยนและโจวกุยหลาย ซึ่งซื่อนีไม่รู้เลยว่าทางนี้กำลังพูดถึงเรื่องของหล่อนอยู่

“งั้นทำไมไม่มาพูดที่นี่ล่ะ” ท่านแม่โจวถาม “นี่มันเรื่องดีชัด ๆ”

“เมื่อวานฉันเพิ่งเรียกซื่อนีให้ไปที่บ้าน ที่จริงก็เพื่อให้กั๋วต้งดูตัวหล่อนด้วยตัวเอง วันนี้ฉันกะว่าจะมาบอกเรื่องนี้เพราะดูเหมือนว่ากั๋วต้งเขาก็น่าจะรู้สึกดีกับซื่อนี เลยอยากจะให้ซื่อนีลองคบกับเขาดู สุดท้ายจะสำเร็จหรือไม่ก็เป็นเรื่องของทั้งสองคนแล้ว ฉันคิดว่าเขามีมาตรฐานคู่ชีวิตที่สูงพอตัวเลยค่ะ” หลินชิงเหอพูด

“พี่สะใภ้สี่เป็นห่วงว่าเกิดเขาคบหากับซื่อนีแล้ว สุดท้ายหล่อนจะยังไม่เป็นคนที่ใช่สำหรับเขาใช่ไหมคะ?” โจวเสี่ยวเหมยดูออกจึงเอ่ยถาม

“ใช่จ้ะ ไม่อย่างนั้นพี่ก็กีดกันเขาไปแล้ว เขาเคยไปดูตัวมาแล้วหลายครั้ง บอกตามตรงนะคะว่าคุณสมบัติแบบเขาย่อมไม่ใช่ตัวเลือกของใคร ทั้งหน้าที่การงานทั้งครอบครัวยิ่งไม่ต้องพูด แต่มาตรฐานก็ต้องสูงตามไปด้วยเช่นกัน” หลินชิงเหอพูด

“มาตรฐานสูงไปให้ได้อะไร แต่งงานกับผู้หญิงจิตใจดีคนหนึ่งก็พอแล้ว” ท่านแม่โจวพูด

“คนปกติเขาก็เป็นแบบนั้นแหละค่ะ แต่เขาไม่ใช่แบบนั้น ไม่อย่างนั้นจนถึงตอนนี้แล้วทำไมเขาถึงยังไม่แต่งงานล่ะคะ” หลินชิงเหอพูด “ฉันกังวลว่าถ้าให้คบกันไปแล้วเกิดเขาไม่ชอบซื่อนีแต่ซื่อนีกลับชอบเขา เป็นแบบนั้นซื่อนีจะไม่เจ็บปวดหรือคะ”

โจวเสี่ยวเหมยพยักหน้า ถ้าเป็นแบบนี้มันก็ดูเป็นเรื่องยากจริง ๆ นั่นแหละ

ท่านแม่โจวพูดอย่างค่อนข้างมั่นใจ “ถ้าซื่อนีทำให้เขาพอใจไม่ได้ แล้วเขาจะหาผู้หญิงแบบไหนได้อีก? ทั้งชีวิตนี้จะไม่แต่งงานเลยหรือ”

หลานสาวนางไม่ดีตรงไหนกัน? ถ้ากลับชนบทไปแล้ว งั้นไม่เท่ากับว่าหล่อนจะถูกขังอยู่ในบ้านอย่างเสียเปล่าหรืออย่างไร?

“สะใภ้สี่ เธอรีบไปรับปากให้พวกเขาคบหาดูใจเลย ถ้าไม่ชอบแล้วค่อยว่ากันก็ได้ สำหรับสะใภ้ใหญ่เดี๋ยวฉันจะพูดให้เอง” ท่านแม่โจวพูด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม