บทที่ 575 พบกับชายชั่วคนนั้นอีกแล้ว
หากพูดถึงความสงบของยุคหลังจากนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง โดยเฉพาะภายในเมืองใหญ่ ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยกล้องวงจรปิด ใครจะกล้าสร้างความวุ่นวายก็ลองดูสิ?
ส่วนสถานการณ์ตรงหน้าไม่ต้องพูดถึงให้มากความแล้ว
โจวชิงไป๋และเหล่าลูกชายช่วยกันทำอาหารเย็นเสร็จแล้ว จากนั้นพวกเขาก็มากินข้าวด้วยกัน
วันนี้รองผู้ว่าการเจียงกลับมาบ้านก่อนล่วงหน้าเป็นเวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง และก็ยังไม่ได้กินข้าว แต่เมื่อกลับมาเขากลับไม่เห็นภรรยาและลูก ๆ ของตัวเอง
เขาจึงมาที่บ้านของพ่อกับแม่เขาแล้ว แต่ยังไม่ทันจะไปถึงเขาก็เห็นว่าที่บ้านตระกูลโจวเปิดไฟสว่างไสวดูคึกคักยิ่ง
เพียงเห็นเขาก็รู้แล้วว่าภรรยาและลูก ๆ เขาอยู่ที่นี่
“ฉันก็นึกว่าคุณจะกลับมาตอน 2-3 ทุ่มเสียอีก ทำไมวันนี้กลับเร็วแบบนี้ละคะ?” เซวียเหม่ยลี่ถาม
“นี่ก็คือเจ้าสามของฉันเอง ส่วนนี่คือคุณพ่อของเสี่ยวเกิง” โจวชิงไป๋แนะนำลูกชายตัวเองให้รองผู้ว่าการเจียง
“คุณลุงเจียง” โจวกุยหลายลุกขึ้นยืนแล้วขานเรียก
รองผู้ว่าการเจียงยิ้มพูด “ในเมื่อพ่อเป็นเสือแล้วลูกจะเป็นสุนัขได้อย่างไร”
“ผมล่ะชอบฟังอะไรแบบนี้จริง ๆ” โจวกุยหลายพูดอย่างไม่อายปาก
หลินชิงเหอหัวเราะแล้วเอ่ยว่าเขาเล็กน้อย และเปลี่ยนมาถามรองผู้ว่าการเจียง “กินข้าวหรือยังคะ? พวกเรากินกันไปแล้ว แต่ว่ายังมีบะหมี่อยู่ ถ้าคุณยังไม่กินอะไรล่ะก็รับสักชามไหมคะ?”
“ผมไม่รบกวนดีกว่า เดี๋ยวกลับบ้านไปกินก็ได้ครับ” รองผู้ว่าการเจียงพูดยิ้ม
“นี่ก็อยู่มานานพอสมควรแล้ว พวกเรากลับก่อนดีกว่าค่ะ” เซวียเหม่ยลี่ก็พูดเช่นกัน
“ไม่เป็นไรค่ะ บะหมี่ชามเดียวเอง” หลินชิงเหอพูด
รองผู้ว่าการเจียงไม่ได้กินข้าวทีนี่ เขาพาภรรยาและลูก ๆ กลับบ้านไป ยายเฒ่ากับตาเฒ่าเจียงอยู่ต่อสักพัก แต่ประมาณสองทุ่มกว่าพวกเขาก็ขอตัวกลับแล้ว
ภายในบ้านเหลือพวกเขาสามคนเพียงเท่านั้น
“ผมไม่เห็นรู้ว่าพ่อกับแม่มาที่นี่ จะมีญาติบุญธรรมเพิ่มมาอีกครอบครัวหนึ่งได้” โจวกุยหลายพูด
“ครอบครัวเจียงเป็นคนไม่เลว ไปมาหาสู่กันก็ดีเหมือนกัน” หลินชิงเหอพูด
อีกทั้งพวกเขาซื้ออสังหาริมทรัพยไว้ที่นี่ไม่น้อย ถึงตอนนั้นจะได้มีคนช่วยจัดการให้ได้ เรื่องอื่น ๆ ก็ถือว่าช่างมันไป หลินชิงเหอให้โจวชิงไป๋เป็นคนไปจัดการแล้ว
“อืม มีญาติบุญธรรมที่นี่ ทำให้พวกเราวางใจที่ม้าฝากครรภ์ที่นี่เหมือนกัน” โจวกุยหลายพยักหน้าพูด
“มาก็มาแล้ว ยังจะเอากล้องมาด้วยอีก ไม่หนักหรือไงจ๊ะ” หลินชิงเหอมองเขาที่ไปหยิบม้วนฟิล์มมาเปลี่ยนอีกแล้ว ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่าพรุ่งนี้เขาจะออกไปเที่ยวข้างนอกแน่ จึงพูดกับเขา
“ผมเอามาด้วยโดยเฉพาะเลยนะครับ ทุกวันป๊าต้องถ่ายรูปให้ม้าผมสักสองใบด้วยนะ จะได้เอารูปตอนที่แม่ท้องทั้งหมดเก็บไว้ให้น้องสาวดู หล่อนจะต้องชอบดูแน่” โจวกุยหลายพูด
เขาอยากมีรูปตอนที่ตัวเขาอยู่ในท้องบ้างจังเลย แต่ว่ากันตามความจริงก็คือก่อนหน้านี้พวกเขาจนมาก แม่ของเขาพาไปถ่ายรูปปีละครั้งก็ถือว่าไม่เลวแล้ว
รูปตอนท้องอะไรนั้น อย่าได้ฝันถึงเลย
ต่อให้พวกเขาไม่อาจฝันถึง แต่ว่าที่น้องสาวเขาน่ะได้
โจวชิงไป๋ตอบตกลง แต่หลินชิงเหอพูดค้าน “ถ่ายอะไรกัน ค่อยถ่ายเก็บไว้ดูตอนคลอดออกมาก็พอแล้ว”
ตอนนี้หุ่นของเธอเริ่มจะเสียรูปทรงแล้ว ยังจะถ่ายเก็บเอาไว้อะไรอีก?
“คุณดูดีอยู่แล้ว ถ่ายวันละรูปก็ได้” โจวชิงไป๋เองก็รู้สึกว่าเป็นความคิดที่ไม่เลวเหมือนกัน
หลินชิงเหอมองค้อนเขาหนึ่งที และพูดกับเจ้าสาม “นั่งรถมาทั้งวันแล้ว ลูกไปพักผ่อนเถอะจ้ะ”
“ผมไม่เหนื่อยหรอกครับ” โจวกุยหลายพูด หลังจากนั้นก็พูดถึงกิจการของที่บ้านขึ้นมา เดิมทีนั้นไม่มีอะไรต้องกังวลเลย “ผมไปบอกกับคุณปู่คุณย่าว่าจะมาที่นี่แล้ว คุณย่ายังอยากจะเชือดไก่ให้ผมแบกมานี้เลย แต่ผมคิดถึงเรื่องสภาพอากาศขึ้นมาได้ ขนาดอากาศหนาวยังเสียง่าย ผมก็เลยไม่ได้เอามาด้วย”
“ตลาดที่นี่ก็มี ไม่ต้องพกไก่ตัวหนึ่งมาไกลถึงขนาดนั้นหรอก” หลินชิงเหอพูด
“ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน จึงไม่ได้เอามาด้วย” โจวกุยหลายพยักหน้าและพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...