บทที่ 627 เจียงเหิง
นักบัญชีสาวคนนั้นถูกไล่ออกได้อย่างไรโจวกุยหลายก็ไม่ค่อยรู้แน่ชัด เขาได้ยินมาจากพนักงานในโรงงานพูดต่อ ๆ กันมาอีกที พวกเขาเล่าว่าหล่อนไม่ยอมอยู่อย่างสงบสุข ตั้งแต่ที่เห็นว่าเถ้าแก่สอนขับรถให้เถ้าแก่เนี้ยหล่อนก็เริ่มอยู่ไม่สุขแล้ว
เริ่มแรกหล่อนจะแต่งหน้าแต่งตัวสีสันฉูดฉาดก่อน ทั้งทาปากแดงสวมรองเท้าส้นสูงมาทำงานในสภาพแบบนั้น เจตนาชัดเจนว่ามาเพื่อเป็นปีศาจจิ้งจอก*
(*ผู้หญิงที่สวยและยั่วยวน เปรียบเสมือนปีศาจจิ้งจอก)
อีกทั้งหล่อนมักจะมองสูงแต่ความสามารถไม่ถึง* มองไม่เห็นหัวคนนั้นคนนี้ ตัวคนน่ะหน้าตาก็สะสวยอยู่หรอก แต่คนในโรงงานกลับไม่มีใครชอบหล่อนสักคน ความประทับใจในตัวหล่อนก็งั้น ๆ
(*หวังสูงแต่ความสามารถน้อยนิด)
สู้โจวเอ้อร์นีเถ้าแก่เนี้ยคนนั้นไม่ได้
หล่อนปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างอ่อนโยนและเป็นกันเอง อีกทั้งยังใจกว้างมีน้ำใจ แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยบิดพลิ้ว ที่สำคัญคือท่าทางที่เถ้าแก่เนี้ยมองพวกเขาทุกคนล้วนเป็นกันเองอย่างยิ่ง
ดังนั้นครั้งแรกที่นักบัญชีคนสวยคนนี้ถูกไล่ออกไป มีคนไม่น้อยพากันตบมือลับหลังและพูดว่าเยี่ยมยอด
“วันนี้กินหม้อไฟเนื้อแกะกัน ชวนพี่เขยรองของลูกมากินด้วยกันนะ” หลินชิงเหอพูดยิ้ม ๆ
เธอก็คาดเดาไว้แล้วว่านักบัญชีคนนั้นจะต้องเริ่มแผนการล่อลวงแล้วเป็นแน่ ดังนั้นหวังหยวนจึงต้องไล่คนออก แต่ว่าหลินชิงเหอพออกพอใจกับวิธีนี้มากทีเดียว
พอตกเย็นหวังหยวนก็พาสองแฝดมากินข้าวด้วยกัน
หม้อไฟเนื้อแกะส่งกลิ่นหอมยั่วยวนออกมา ทั้งยังมีน้ำจิ้มที่หลินชิงเหอปรุงเอาไว้ พอจิ้มแล้วรสชาติยิ่งอร่อยมากขึ้นไปอีก
พวกเขาก็ไม่พูดเรื่องนักบัญชีสาวขึ้นมาเช่นกัน หลินชิงเหอพูดกับหวังหยวนว่า “อีกสองสามวันอาสะใภ้กับอาสี่ของเธอว่าจะพามี่มี่ออกไปเที่ยวด้วยกัน ถึงตอนนั้นเธอช่วยดูทางนี้ให้หน่อยนะจ๊ะ”
คุณปู่ของหวังหยวนก็อยู่ที่ไห่หนาน แต่หลินชิงเหอไม่คิดจะบอกเขาว่าตนจะไปไห่หนานหรอก ไว้โอกาสหน้าดีกว่า
หวังหยวนตอบตกลงพูดว่า “ชีวิตของพวกอาสี่ตอนนี้เป็นอิสระสามารถทำตามใจตัวเองได้จริง ๆ เลยนะครับ ปีหนึ่งก็ได้ไปเที่ยวหนึ่งหรือสองครั้งแล้ว”
2 ปีที่แล้วมี่มี่ยังเล็กอยู่ ดังนั้นจึงไม่ได้ตามไปเที่ยวด้วยกัน แต่ว่าตั้งแต่ปีก่อนเป็นต้นมา หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋จะพามี่มี่ออกไปเที่ยวครั้งหรือสองครั้ง ปีนี้ก็ยังพาไปอีก ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกแปลกใจอะไร
“รอเอ้อร์นีเรียนขับรถกลับมาแล้ว ไม่ใช่ว่าเธอก็สามารถพาออกไปเที่ยวเล่นด้วยกันได้แล้วเหมือนกันเหรอจ๊ะ” หลินชิงเหอยิ้มพูด
หวังหยวนก็กำลังวางแผนไว้เช่นนี้เหมือนกัน เขายังคิดว่าถ้าเอ้อร์นีสอบขับรถกลับมาทัน จะไปเที่ยวด้วยกันกับพวกเธอเลยดีไหมนะ?
แต่เห็นได้ชัดว่าหลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋ไม่อยากรอคน อีกไม่กี่วันพวกเขาสองสามีภรรยาก็จะพาลูกสาวออกเดินทางกันแล้ว
พอพวกเขาสองสามีภรรยาไป เจ้าสามโจวกุยหลายก็เตรียมตัวไปเซี่ยงไฮ้ต่อและเขาก็ไม่จำเป็นต้องพาหม่าเฉิงหมินไปด้วย
“แน่ใจนะว่าจะไม่ให้ฉันไปด้วยน่ะ?” หม่าเฉิงหมินพูดอย่างจนปัญญา
“ไม่ต้องหรอกครับ คุณดูงานทางนี้ไปก็พอแล้ว” โจวกุยหลายโบกมือไปมาพูด
เขาเอาสินค้าล็อตหนึ่งไปเองก่อน อีกทั้งเขายังมีผู้ช่วยอยู่ที่เซี่ยงไฮ้อีกคนหนึ่งอยู่แล้ว ก็แค่บริหารร้านชาร้านหนึ่งเท่านั้น
และที่นั่นก็รับพนักงานไว้แล้ว หนึ่งในนั้นเป็นคนที่ยายเฒ่าเจียงกับตาเฒ่าเจียงแนะนำ เป็นหลานคนหนึ่งในครอบครัวเดียวกับพวกเขา อายุ 23 ปี เรียนจบมัธยมปลายแล้ว ล่าสุดเพิ่งจะตกงาน
“หลานชายของตาเฒ่าเจียง เจียงเหิงใช่ไหม?” โจวกุยหลายถาม
เจียงเหิงส่วนสูง 180 เซนติเมตร ตัวเตี้ยกว่าโจวกุยหลายเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่คนเตี้ยอย่างแน่นอน หน้าตาดูสะอาดสะอ้าน เขาพยักหน้าแล้วพูด “ผมเองครับ”
“แม้ว่าจะเป็นคนที่ตาเจียงแนะนำมา แต่ผมก็ต้องขอดูความสามารถของคุณก่อนนะครับ ถ้าคุณมีความสามารถผมถึงจะรับคุณเข้าทำงาน ถ้าคุณไม่มีความสามารถผมก็ขอไม่รับคุณไว้นะครับ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผมต้องบอกคุณก่อน” โจวกุยหลายพูด
“ผมรู้ครับ” เจียงเหิงเห็นเขาอายุไม่เยอะ แต่กลับเข้มงวดมาก เขาย่อมไม่อาจดูเบาอีกฝ่ายได้
อีกทั้งเงินเดือนของที่นี่เขาก็รู้แล้วเช่นกันว่าได้เท่าไหร่ เป็นเงินเดือนที่เขาพอใจอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงอยากจะทำงานที่นี่ อายุเขาไม่น้อยแล้วกลับยังมีรายได้ไม่มั่นคงอยู่เลย สี่สิ่งของไว้แต่งภรรยาอะไรนั้นเขาก็ยังไม่มี
ฐานะทางบ้านของเขาอยู่ในระดับปานกลางไปจนเกือบต่ำ ปีที่แล้วพี่ใหญ่ของเขาแต่งงานต้องซื้อสี่ปัจจัยเพื่อแต่งภรรยา จนทำให้ครอบครัวต้องเสียเงินไปเกือบ 7-8 ส่วนเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...