ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 630

บทที่ 630 เที่ยวที่ไห่หนาน

เหอเมี่ยนเมี่ยนจึงทานข้าวที่นี่เสียเลย

หล่อนทำอาหารไม่เป็น ที่บ้านของหล่อนจะมีอาอี๋ (ป้าแม่บ้าน) เป็นคนทำทั้งหมด แต่โจวเฉวี่ยนกลับทำอาหารเป็น

ดังนั้นก็เลยกลายเป็นว่าเหอเมี่ยนเมี่ยนได้รู้ทักษะอีกอย่างหนึ่งของเขาไปเสียแล้ว ดวงตากลมโตสุกใสมองเขาด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความเลื่อมใส

ไก่นี้ไม่ต้องเอาไปตุ๋นทั้งหมด แบ่งไปผัดครึ่งหนึ่งตุ๋นครึ่งหนึ่ง ได้เป็นเนื้อไก่ผัดมันฝรั่งหนึ่งอย่าง หลังบ้านยังมีผักกวางตุ้งกำหนึ่งกับต้นหอมที่โตได้ที่แล้ว เขาก็นำต้นหอมมาผัดกับไข่ไก่ นำน้ำมันหมูไปผัดกับผักกวางตุ้ง และก็ยังมีปลานึ่งซีอิ๊วขาวหนึ่งตัว

อาหารกลางวันทั้งหมดกินคู่กับหมั่นโถว และก็เป็นโจวเฉวี่ยนที่เป็นคนทำเช่นเดียวกัน

รอจนอาหารทั้งหมดถูกยกออกมา ทุกจานก็ส่งกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอไปทั่วทั้งบ้าน

ฝีมือทำอาหารของเขาทำให้เหอเมี่ยนเมี่ยนรู้สึกหลงใหลเข้าอย่างจัง ดวงตาสองข้างของหล่อนกลายเป็นรูปหัวใจหมดแล้ว โดยเฉพาะเมื่อได้ลองกินอาหารทั้งหมด รสชาติมันอร่อยกว่าที่อาอี๋บ้านเธอทำเสียอีก หล่อนไม่หักคะแนนเขาเลยแม้แต่ครึ่ง!

“เจ้ารองเก่งใช่ไหมล่ะจ๊ะ” ท่านแม่โจวพูดยิ้ม ๆ

“ใช่ค่ะ!” เหอเมี่ยนเมี่ยนพยักหน้าอย่างจริงจังยิ่ง ก็เขาเก่งจริง ๆ นี้ หล่อนไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขาทำอาหารเป็นน่ะ!

“พี่ชายน้องชายเขาก็ทำเป็นเหมือนกันหมด แถมยังทำอร่อยซะด้วย” ท่านพ่อโจวพูดเช่นนี้

“เจ้ารองมีฝีมือทำอาหารดีที่สุดเลยล่ะ” ผู้เฒ่าหวังพยักหน้า

โจวเฉวี่ยนหัวเราะ “ดีกว่าผมก็เป็นคุณแม่ผมแล้วล่ะครับ”

ที่พวกเขาพี่น้องทำอาหารเป็น ก็ได้แม่ของพวกเขานี่แหละเป็นคนสอน แม้ว่าในตอนเด็กพวกเขาพี่น้องจะมีนิสัยเอาแต่ใจมาก ต้องการลูกบอลก็ต้องซื้อลูกบอล ต้องการนิทานก็ต้องซื้อนิทานมาให้ได้อะไรพวกนั้น

แต่ว่าเรื่องที่พวกเขาควรจะทำ แม่ของเขาไม่เคยให้พวกเขาเอาแต่ใจได้เลย เพราะแบบนี้พวกเขาสามคนจึงทำอาหารเป็น

อีกทั้งฝีมือยังไม่เลวอีกด้วย

“เมี่ยนเมี่ยนกินเยอะ ๆ นะ หลังจากพวกเธอแต่งงานกันไปแล้ว อยากกินอะไรหนูก็สามารถบอกเขาทำให้กินได้เลย จะว่าไปแล้วก็เหมือนที่แม่ของเขาบอกเลย ว่าต้องอบรมพวกเขาให้พร้อมแต่งงานล่วงหน้าน่ะ” ท่านแม่โจวพูดยิ้ม ๆ

แฟนของเจ้าใหญ่ก็ทำอาหารไม่เป็น แฟนของเจ้ารองดูแล้วก็เหมือนเป็นคุณหนูคนหนึ่งเช่นกัน มือไม้อ่อนนุ่มไม่ต้องพูดก็รู้ว่าต้องทำอาหารไม่เป็นเหมือนกันแน่ พอเห็นหล่อนกินอย่างเอร็ดอร่อยขนาดนั้นนางก็รู้แล้ว

พูดถึงเรื่องนี้ท่านแม่โจวปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ครอบครัวเจ้าสี่ช่างมองการณ์ไกลจริง ๆ

ตอนที่หลาน ๆ ของนางยังเด็ก เธอก็สอนพวกเขาหั่นผักล้างหม้ออะไรนั่นแล้ว ตอนนั้นนางเห็นหลานยังเล็ก ยังเคยตำหนิหล่อนอยู่เลย

อีกทั้งเด็กผู้ชายทำงานแบบนี้ ก็ดูจะทะแม่ง ๆ ด้วย

แต่บ้านของเจ้าสี่กลับบอกว่าการทำงานพวกนี้ไม่เห็นเป็นไรเลย ไม่เพียงล้างจานชามหั่นผัก ยังต้องฝึกหุงข้าวผัดข้าวเหล่านี้ด้วย

ตอนนั้นนางยังถามอยู่เลยว่าจะเรียนเรื่องพวกนี้ไปทำไม?

ครอบครัวเจ้าสี่จึงบอกว่า ที่เรียนรู้เรื่องพวกนี้ไว้ เพราะในอนาคตพวกเขาจะได้เลือกภรรยาง่ายขึ้น

ดูสิตอนนี้ไม่ใช่ว่ามันกลายเป็นความจริงแล้วหรือ

แฟนของเจ้าใหญ่กับเจ้ารองทำอาหารไม่เป็นทั้งคู่ แต่พวกเขาสองพี่น้องทำเป็นเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

นี่ถ้าพวกเขาทำอาหารไม่เป็นด้วยล่ะก็ ไม่ใช่ว่าเป็นการทำผิดอย่างมหันต์หรือ? ไม่ว่าจะแฟนของเจ้าใหญ่หรือว่าเจ้ารอง นอกจากเรื่องทำอาหารไม่เป็นแล้ว อย่างอื่นก็สมบูรณ์แบบหมด

เหอเมี่ยนเมี่ยนทั้งอิ่มท้องทั้งสุขใจ ท่านแม่โจวยิ้มแล้วพูด “เอาซุปไก่อีกถ้วยไหมจ๊ะ?”

“ขอบคุณนะคะคุณย่า แต่ว่าหนูกินไม่ไหวแล้วค่ะ คุณย่ากินเยอะ ๆ นะคะ” เหอเมี่ยนเมี่ยนยิ้มพูด

ท่านแม่โจวยิ้มแล้วพูด “ตอนนี้ฉันขี้เกียจทำกับข้าวเองแล้ว เมื่อสองปีก่อนพวกเขาบอกว่าจะจ้างแม่บ้านให้พวกฉันคนหนึ่งไว้ทำอาหารแต่ฉันไม่ยอม มาตอนนี้ฉันไม่อยากจะขยับทำอะไรเองแล้ว จึงว่าจะให้แม่เขาหาแม่บ้านให้ฉันสักคน”

“ถ้าไม่ใช่ว่าคุณย่าไม่ชินที่มีคนแปลกหน้าอยู่ด้วย ผมก็คงหาให้นานแล้ว” โจวเฉวี่ยนพูด

ท่านแม่โจวยิ้มพูด “ตอนนี้หาให้ย่าคนหนึ่งเถอะจ๊ะ”

ไอ้หยา กรรมตามสนองจริง ๆ แม้แต่นางจะกินข้าวต้องให้คนอื่นปรนนิบัติอีก กลายเป็นหญิงชราเฝ้าบ้านไปแล้ว

หลังกินข้าวเสร็จก็นำจานชามไปล้างให้สะอาด โจวเฉวี่ยนจึงค่อยพาเหอเมี่ยนเมี่ยนไปเยี่ยมญาติ ๆ เขาต่อ

กลับมากล่าวถึงด้านหลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋

ตอนนี้พวกเขายังอยู่บนรถไปลงไปภาคใต้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม