บทที่ 642 มีแต่ความเขียวขจี
พอเซวียเหม่ยลี่ได้ยินว่าพ่อสามีจะไปปักกิ่ง หล่อนก็รู้สึกอยากไปด้วยเหมือนกัน เพราะลูกชายหล่อนไปเรียนมหาวิทยาลัยของที่นั่นอยู่ ไม่ค่อยอยากจะกลับมาจนหล่อนคิดอยากจะไปสั่งสอนเขาเสียหน่อย
แต่สามีของหล่อนนั้นต้องทำงาน ลูกสาวก็ยังต้องเรียนอีก
“คุณอยากไปก็ไปเถอะ ไปอยู่นั่นสัก 2-3 วัน เดี๋ยวช่วงนั้นผมกับเสี่ยวอวี๋ไปกินข้าวที่โรงอาหารได้” ผู้ว่าการเจียงมองท่าทางของหล่อนก็รู้ความหมายในทันที จึงพูดขึ้น
สมาชิกครอบครัวที่มาอยู่ในปักกิ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นแล้ว จึงไม่ต้องเตรียมของอะไรให้วุ่นวายมากนัก มีแค่เสื้อผ้าไว้เปลี่ยนสองชุดกับเงินติดตัวเล็กน้อยก็พอ
แต่เซวียเหม่ยลี่ก็ยังซื้อขนมอบขึ้นชื่อของเซี่ยงไฮ้มาฝากพร้อมกันอีกด้วย
หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋ไม่รู้เลยว่าพวกเขาจะมา รอจนกระทั่งเจ้าสามนั่งรถมาถึงที่นี่ในตอนเย็น พวกเขาถึงเพิ่งจะทราบ
“ทำไมลูกไม่บอกม้าก่อน ถ้าบอกก่อนม้าจะได้ให้ป๊าขับรถไปรับ” หลินชิงเหอรับของของเซวียเหม่ยลี่ไปด้วย แล้วก็พูดกับลูกชายไปด้วย
“ไม่เป็นไรค่ะ พวกเราไม่ได้ลำบากอะไรเลยถ้าต้องนั่งรถเมล์มานี่ อีกอย่างนั่งรถมาก็ได้เหมือนกันค่ะ ครั้งต่อไปถ้าพวกเรามาเอง จะได้รู้ว่าต้องนั่งรถมาอย่างไร” เซวียเหม่ยลี่ยิ้มพูด
“ทำบะหมี่มาสัก 2-3 ชามนะครับ” โจวชิงไป๋พูดกับอาอี๋แม่บ้าน
อาอี๋แม่บ้านพักอยู่ที่บ้านของพวกเขาตลอด หนึ่งสัปดาห์หยุดหนึ่งวัน เงินเดือนสูงพอตัวเช่นกัน ตอนนี้พอนางเห็นนายน้อยสามพาแขกมาบ้าน ย่อมไม่ต้องพูดอะไรให้มากความเช่นกัน
ในตอนที่อาอี๋แม่บ้านไปทำบะหมี่หมู หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋ก็ต้อนรับเซวียเหม่ยลี่และสองตายายเจียงให้เข้ามาพักที่ห้องรับแขก
“ครั้งก่อนตอนที่ย้ายบ้านครอบครัวพวกเราก็ควรจะมาด้วยแต่ก็ไม่ได้ว่างมา” เซวียเหม่ยลี่พูด
ครั้งก่อนจริง ๆ แล้วนั้นหล่อนตั้งใจจะมา แต่พ่อของหล่อนที่อยู่บ้านแม่เข้าโรงพยาบาลเสียก่อน และระยะห่างจากที่นี่ค่อนข้างใกล้ หล่อนจำต้องไปช่วยอยู่ดูแล ดังนั้นจึงทำได้เพียงบอกให้ลูกชายไป และก็ให้ซองแดงซองใหญ่ไว้เป็นของขวัญย้ายบ้านเพื่อไม่ให้เสียมารยาท
หลินชิงเหอยิ้มขณะพูด “ตอนนี้มาถึงนี่แล้วก็พักอาศัยให้สบายใจเถอะค่ะ อยู่ด้วยกันกับคุณลุงคุณป้าเจียง พรุ่งนี้เสี่ยวเกิงก็หยุดแล้ว ถ้าเร็วหน่อยวันศุกร์เย็นเขาก็มาแล้ว แต่ปกติเขาไม่เคยกลับมาเกินวันเสาร์เช้าหรอกค่ะ”
“เด็กดื้อคนนั้นพอได้มาเรียนหนังสือที่นี่ฉันต้องเซ้าซี้ให้กลับบ้านช่วงปิดเทอมฤดูร้อนกับฤดูหนาวตลอด เขาบอกว่าอยู่ที่นี่กินดีอยู่ดี ไม่อยากกลับไปฟังฉันบ่นน่ะค่ะ” เซวียเหม่ยลี่ว่ายิ้ม ๆ
หลินชิงเหอพูดคุยกับหล่อนสักพัก โจวชิงไป๋ก็คุยกับผู้เฒ่าเจียงและยายเฒ่าเจียง ทุกคนพูดคุยกันอย่างรื่นเริง
ส่วนเจ้าสามโจวกุยหลายก็ขอตัวไปอาบน้ำก่อนแล้ว
พอเขาอาบน้ำเสร็จอาอี๋แม่บ้านก็ทำบะหมี่เสร็จแล้วเช่นกัน บะหมี่หมูใส่มะเขือเทศ และก็ยังมีไข่ดาวหอม ๆ โปะอยู่ด้านบน
ให้พวกเขาลงมือกินอาหารกันก่อน กินเสร็จแล้วค่อยไปอาบน้ำ อย่างในตอนนี้บ้านพวกเขาก็มีห้องน้ำสองห้อง ไม่ต้องไปโรงอาบน้ำอีกแล้ว
แน่นอนว่าจะไปก็ได้เช่นกัน โดยเฉพาะในฤดูหนาว การไปโรงอาบน้ำขนาดใหญ่ก็ไม่เลวเหมือนกัน
เมื่อนั่งรถมาเหนื่อย ๆ และได้กินข้าวกับนั่งดูโทรทัศน์ด้วยกันสักพัก เธอก็พาพวกเขาไปห้องรับรองแขกเพื่อพักผ่อนแล้ว
“วันนี้ดึกแล้ว พรุ่งนี้ฉันค่อยเยี่ยมชมบ้านของเธอแล้วกันนะ” เซวียเหม่ยลี่ยิ้ม
“พรุ่งนี้ฉันจะให้ดูทุกซอกทุกมุมเลยค่ะ” หลินชิงเหอยิ้มตอบ
เซวียเหม่ยลี่ก็เข้าไปพักผ่อน หลินชิงเหอจึงกลับมาที่ห้องรับแขก ถามเรื่องรถบรรทุกกับเจ้าสาม
“ซื้อแล้วครับ ผมเอาไปจอดไว้ที่ใต้ตึกคุณลุงเจียง จริงสิม้า ผมคิดว่าเจียงเหิงมีความสามารถที่จะสอนเขาได้ ให้เขามาเรียนรู้ที่ปักกิ่งบ้างเป็นครั้งคราว ม้าคิดว่ายังไงครับ?” โจวกุยหลายพูดขณะเอาตารางยอดขายออกมาจากกระเป๋า
หลินชิงเหอมองตารางยอดขายของเขาแล้วก็เลิกคิ้วเล็กน้อย ร้านที่เซี่ยงไฮ้เพิ่งจะวางแผนการและเปิดได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน แต่ตารางยอดขายกลับไม่แย่เลยสักนิด
หลังจากหักเงินที่ลงทุนไปแล้วก็ยังเหลือกำไรอีกเล็กน้อย กิจการร้านชาแบบนี้ลูกค้าส่วนมากจะเป็นลูกค้าประจำ จำเป็นต้องใช้เวลาดำเนินกิจการพอสมควร แต่ในเวลาสั้นเพียงเท่านี้กลับได้กำไรคืนมาแล้ว แม้ว่าจะไม่มาก แต่ก็ดูออกว่าคนที่ชื่อเจียงเหิงคนนั้นทำงานอย่างตั้งใจจริง ๆ
“เขาขายยังไงเหรอ?” หลินชิงเหอถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...