บทที่ 655 หย่า – ตอนที่ต้องอ่านของ ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ตอนนี้ของ ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 655 หย่า จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 655 หย่า
นับตั้งแต่หวังหยวนและโจวเอ้อร์นีติดโทรศัพท์ที่บ้าน หลานคนโตอย่างโจวข่ายก็โทรกลับมาเสมอในทันทีที่มีเวลาว่าง
และมักจะเรียกท่านแม่โจวไปคุย ซึ่งท่านแม่โจวก็ดีใจมาก
พอรับสายได้ นางก็บ่นกับหลานชายคนโต “ย่าเลี้ยงไก่ไว้ให้พวกเธอเยอะเลย เดี๋ยวปีนี้ตอนพวกเธอกลับมาจัดงานแต่ง ถึงเวลาก็เอาจากที่นี่ได้เลยนะไม่ต้องไปซื้อที่ตลาด ”
“ย่าครับ ย่ากินกับปู่และปู่บุญธรรมได้เลย ไม่ต้องเก็บไว้ให้ผมจัดงานแต่งหรอกครับ” โจวข่ายบอกยิ้ม ๆ
“ต้องเก็บไว้ให้พวกเธออยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นย่าคงไม่เลี้ยงเยอะขนาดนี้หรอก พ่อแม่เธอให้เงินฉันเดือนละสองร้อย ค่าแม่บ้านแม่เธอก็จ่ายแล้ว ที่นี่มีเราอยู่กันสามคน ค่ากินค่าอยู่เหลืออีกตั้งเยอะ อยากกินอะไรก็กินได้” ท่านแม่โจวกล่าว
นางรู้สึกว่าชีวิตในตอนนี้เรียกได้ว่าไม่มีที่ติ เมื่อก่อนสมัยสาว ๆ กล้าคิดเรื่องแบบนี้ที่ไหน
ท่านแม่โจวจึงรักษาสุขภาพตัวเองมาก ไม่ประหยัดอะไรเลย ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลทุกปีก็ยอมไป ให้ความร่วมมือสุด ๆ
โจวข่ายที่อยู่ปลายสายได้ยินแล้วก็ดีใจมากเหมือนกัน เขาเอ่ยยิ้ม ๆ “ก็ได้ครับ งั้นเก็บไว้ให้พวกเราด้วย ถึงเวลาแต่งงานไว้จัดงานแต่งให้เรานะครับ”
จากนั้นเขาก็ถามถึงสุขภาพของปู่และปู่บุญธรรม ได้ความว่าไม่เป็นอะไรกันมาก คุยกันอีกพักหนึ่งถึงวางสายไป
ท่านแม่โจวรู้สึกอิ่มใจสุด ๆ โจวเอ้อร์นีจึงกล่าวขึ้น “คุณย่าคะ ฉันเพิ่งซื้อขนมลาม้วนตัว(1)มา เอากลับไปกินหน่อยสิคะ”
ท่านแม่โจวก็รับมาอย่างไม่เกรงใจหลานสาวเช่นกัน แต่นางยังไม่กลับ กลับไปก็ไม่มีอะไรทำ จึงนั่งคุยกับหลานสาว
“รอให้เจ้าใหญ่แต่งงานก่อน ถึงตอนนั้นก็มีลูกกันได้แล้ว แต่ที่นั่นไกลเกินไป ที่นี่อยากช่วยก็ช่วยไม่ได้” ท่านแม่โจวเอ่ย
“เรื่องนั้นจะไปยากอะไรคะ ถึงตอนนั้นบอกให้ภรรยาเจ้าใหญ่จ้างใครสักคนไว้ช่วยงานก็ได้ พวกเขาสองสามีภรรยาเงินเดือนสูง รับภาระไหวอยู่แล้วค่ะ” โจวเอ้อร์นีบอก
อย่างบ้านหล่อนตอนนี้ก็จ้างแม่บ้านไว้คอยช่วยงานเหมือนกัน อย่าคิดว่าแฝดมังกรหงส์โตแล้วจะไม่ต้องเหนื่อยมาก หากไม่มีแม่บ้านคอยช่วย หล่อนคงยุ่งเรื่องที่บ้านจนหัวหมุน อย่าคิดว่าจะได้ทำเรื่องอื่นเลย
“จ้างสักคนก็ดี แต่ฉันคิดว่าถ้าพวกเขาเต็มใจ พอคลอดออกมาแล้วโตอีกหน่อยพามาให้ทางนี้เลี้ยงก็ได้ ไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่า” ท่านแม่โจวเอ่ย
ถ้าเป็นแบบนั้นนางก็จะได้เห็นหน้าเหลนง่ายด้วย
โจวเอ้อร์นีถึงกับเงียบไป หล่อนคิดว่าอาสะใภ้สี่คงไม่อยากรับเรื่องนี้ไว้แน่
คนอย่างอาสะใภ้สี่ของหล่อนกลัวการเลี้ยงเด็กที่สุด มี่มี่น้อยเองเธอยังไม่ค่อยจะอยากเลี้ยง ส่วนใหญ่มีแต่อาสี่ของหล่อนเป็นคนเลี้ยง
แล้วโจวเอ้อร์นีก็มาบอกหลินชิงเหอเรื่องความต้องการของท่านแม่โจวตอนมาที่ร้านน้ำชา
หลินชิงเหอฟังจบแล้วก็ “…..”
“ค่าแม่บ้านที่นั่นที่เจ้าใหญ่และเหม่ยเจี่ยจ้างฉันออกเอง แพงขนาดไหนก็ไม่ใช่ปัญหา” หลินชิงเหอกล่าว
ส่วนจะให้เอาเด็กมาเลี้ยงที่นี่ อย่าเลยดีกว่า ให้เด็กเติบโตข้างพ่อแม่ดีที่สุด
แน่นอนว่านั่นก็แค่ข้ออ้าง ความจริงคือเธอไม่อยากเลี้ยงเด็กแล้ว ใครเคยได้เลี้ยงเด็กคนนั้นจะรู้ บรรดาแม่ ๆ ล้วนขอแค่มีสักครึ่งวันที่ไม่ต้องคอยดูแลเด็กดื้อบ้านตัวเองก็รู้สึกอย่างกับได้ฉลองปีใหม่ ประหนึ่งไม่ได้อาบน้ำมาครึ่งปีแล้วจู่ ๆ ได้ขัดตัว ความรู้สึกแบบนั้นเจ๋งสุด ๆ
เห็นได้เลยว่าการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งลำบากขนาดไหน
โจวเอ้อร์นีหัวเราะ
ขณะนั้นด้านนอกมีรถเก๋งคุ้นเคยเข้ามาจอด เจ้ารองโจวเฉวี่ยนและเหอเมี่ยนเมี่ยนก็เดินลงมา
“พวกเธอสองคนนี่ดูมีสง่าราศีดีนะ ไม่ได้กลับมานานเท่าไหร่แล้วเนี่ย” หลินชิงเหอกล่าว
“ยุ่งไปหน่อยครับ วันนี้เพิ่งว่าง” โจวเฉวี่ยนบอก
และในตอนที่สวี่เชิ่งเฉียงเฉียงพามาหย่าที่สำนักงานเขต จางเหมยเหลียนถึงกับผงะ
“หลังจากเราหย่ากันแล้ว คุณจะไปทำอะไรกับจ้าวจวินก็ทำไป ผมจะไม่ห้าม” สวี่เชิ่งเฉียงเอ่ยพลางจ้องมองหล่อนอย่างเย็นชา
จางเหมยเหลียนสะดุ้งในใจ สวี่เชิ่งเฉียงรู้แล้วหรือนี่!
“เฉียงจือ ไม่ใช่แบบที่คุณคิดนะคะ…..”
“ไม่ต้องพูดแบบนี้กับผมหรอก หลังจากที่ผมออกมาได้ไม่นานก็รู้เรื่องของพวกคุณหมดแล้ว เราหย่ากันที่นี่ ส่วนพี่สาวผมกับจ้าวจวินก็หย่ากันที่นั่นแล้วเหมือนกัน” สวี่เชิ่งเฉียงบอก
หลังจากนั้นจางเหมยเหลียนจึงได้แลกสมุดเหลืองกับสมุดแดงของสวี่เชิ่งเฉียง
สมุดเหลืองนั้นหมายความว่าทั้งสองหย่าขาดจากกันแล้ว หลังจากนี้ก็เดินกันคนละเส้นทาง
จนกระทั่งหย่ากันแล้วจางเหมยเหลียนถึงรู้ตัว หล่อนกัดฟันแน่น “สวี่เชิ่งเฉียง คุณนี่เก่งจริง ๆ”
มิน่าล่ะตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่ยอมแตะหล่อนอีก ที่แท้ก็รู้เรื่องของหล่อนกับจ้าวจวินแล้วนี่เอง
สวี่เชิ่งเฉียงควัก 300 หยวนออกจากกระเป๋าผ้าของทั้งสองคนแล้วเก็บไว้ เขาไม่แตะสมบัติที่เหลืออยู่ที่บ้านเลย กลับยกให้จางเหมยเหลียนทั้งหมด “ตั้งแต่นี้ไป เราไม่เกี่ยวข้องกันอีก”
เขาไม่ได้กลับบ้านเกิด เพราะกลับไปตอนนี้เป็นการเสียหน้าเกินไป ส่วนที่อื่นเขาก็ไม่คุ้นเคย เขาจึงอยากกลับไปปักกิ่ง อยากไปถามน้าสี่ว่ามีงานอะไรให้เขาช่วยไหม
เขาไปตั้งใจทำงานกับน้าสี่ของเขาดีกว่า
จางเหมยเหลียนเห็นเขาแล้วโมโหมาก แต่หล่อนเองก็ไม่รู้จักใครและไม่คุ้นเคยกับที่นี่ จึงรีบกลับปักกิ่งไปกับเขา
……………………………………………………………………………………………………………………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...