ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 66

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม – บทที่ 66 มีคนที่ใช่แล้วหรือยัง?
บทที่ 66 มีคนที่ใช่แล้วหรือยัง?
โดย
EnjoyBook
บทที่ 66 มีคนที่ใช่แล้วหรือยัง?

ตอนนี้บรรยากาศในหมู่บ้านเต็มไปด้วยกลิ่นอายของวันขึ้นปีใหม่ ทุกครอบครัวต่างเบิกบานใจ ส่วนเด็ก ๆ ก็ดูลิงโลดเป็นพิเศษ

หลินชิงเหอไม่ได้ห้ามเจ้าใหญ่กับเจ้ารองและปล่อยให้พวกเขาได้ออกไปวิ่งเล่น แต่พวกเขาต้องแต่งตัวให้มิดชิดแน่นหนาก่อนจะออกไป

หญิงสาวไม่ห้ามพวกเขาเรื่องจุดประทัดเล่น แต่ห้ามเรื่องทำลายข้าวของของคนอื่น

นอกจากนี้เธอยังปล่อยเฟยอิงให้คอยตามไปดูแลสองพี่น้อง ส่วนเจ้าสามนั้นลืมไปได้เลย เขาก็โตแต่ตัวเท่านั้น ดังนั้นให้อยู่กับเธอที่บ้านน่ะดีแล้ว

โจวเสี่ยวเม่ยเป็นคนที่มาเยี่ยมบ้านของพวกเขาบ่อยที่สุด หล่อนมาที่นี่ทุกวันแล้วมาร่วมทานอาหารอีกด้วย

จริง ๆ แล้วหลินชิงเหอต้องการหาประโยชน์จากหล่อน เธอจึงให้หล่อนเลือกที่จะจ่ายค่าอาหาร หรือไม่ก็กลับไปทานอาหารที่บ้านตระกูลโจว

“ฉันกลับมาครั้งนี้รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง พี่เปลี่ยนไปมากเลยหรือเปล่าน่ะ?” โจวเสี่ยวเม่ยเอ่ยถามขึ้นมาขณะจ่ายเงินค่าอาหารให้จำนวน 2 หยวนอย่างไม่แง่งอน

หลินชิงเหอกลั้วหัวเราะ “พี่เปลี่ยนไปตรงไหนเหรอ?”

เธอรับเงินอย่างไม่เหนียมอาย ต้องยอมรับว่าโจวเสี่ยวเม่ยกินจุไม่น้อย และพนักงานอย่างหล่อนก็มีรายได้ประจำอยู่แล้ว ขณะที่แหล่งรายได้ของครอบครัวเธอมีแค่หมูสองตัวอยู่ที่หลังบ้านและโจวชิงไป๋ที่ทำงานใช้แรงงานเท่านั้น เธอจึงไม่จำเป็นต้องสุภาพกับโจวเสี่ยวเม่ย

“ที่ผ่านมาพี่ไม่เคยดูแลสามีและลูก ๆ แบบนี้นี่นา” โจวเสี่ยวเม่ยชี้ประเด็น

ตอนนี้ดูพี่สะใภ้สี่ของหล่อนสิว่าในวันหนึ่ง ๆ เธอทำอะไรบ้าง ทำอาหารสามมื้อทุกวันจนไม่มีเวลาได้ออกไปนอกบ้านทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยเป็นแบบนี้ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้บอกว่าเธอเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิงได้อย่างไร?

“เธอไม่รู้หรอกว่าครั้งนี้พี่เจออะไรมา” หลินชิงเหอเอ่ยพลางถอนหายใจ

“อะไรนะคะ?” โจวเสี่ยวเม่ยหูผึ่งด้วยความอยากรู้ทันที

“พี่ตัดขาดจากบ้านฝั่งแม่แล้ว ปีใหม่นี้พี่จะไม่กลับไปที่นั่น” หลินชิงเหอบอก

“เกิดอะไรขึ้นคะ?” โจวเสี่ยวเม่ยได้ยินแล้วก็อึ้งไป

“เธอรู้ไหมว่าพวกเขาเป็นคนเนรคุณกันขนาดไหน? พี่ชายสี่กับพี่ไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายในบ้านไหวแล้ว พี่ก็เลยกลับไปขอยืมเงินจากบ้านนั้นสักเล็กน้อย แต่เธอรู้ไหมว่าพวกเขาพูดว่าอะไร?” หลินชิงเหอยิ้มเหยียด

โจวเสี่ยวเม่ยรู้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นโดยไม่ต้องสาธยายเพิ่ม หญิงสาวรุ่นน้องถึงกับของขึ้นและตบโต๊ะด้วยความโมโห “พี่เคยดูแลพวกเขาดีขนาดนี้ เวลามีของดี ๆ ก็มักจะนึกถึงพวกเขาเสมอ นี่คือการตอบแทนของพวกเขาที่มีต่อพี่งั้นเหรอ?”

“เรื่องนี้แหละเลยทำให้พี่คิดได้ว่านอกจากสามีกับลูก ๆ แล้วก็ตัดพี่น้องชายหญิงออกไปได้เลย ทั้งหมดนี่เป็นความจริง จริง ๆ พวกเขาก็เป็นแค่ตระกูลหลินที่พี่เคยอยู่ พี่รู้สึกว่าตระกูลโจวยังจะดีกว่าอีกที่รักใคร่กลมเกลียวกันมากกว่า” หลินชิงเหอระบาย

โจวเสี่ยวเม่ยพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “เว้นแต่พี่สะใภ้รองที่จ้องจะชิงดีชิงเด่นกับพี่เนี่ยสิคะ ส่วนพี่สะใภ้ใหญ่กับพี่สะใภ้สามถือว่านิสัยดีเลย”

อย่างน้อยสะใภ้ฝั่งบ้านโจวก็ไม่ไร้หัวใจและใจดำเหมือนสะใภ้ทางฝั่งบ้านหลินหรอก

“ดังนั้นพี่ก็เลยคิดว่าจะไม่กลับไปหาครอบครัวฝั่งแม่พี่อีกแล้วล่ะ ทำยังไงได้? พี่จะต้องมีชีวิตที่ดีกว่า จนกระทั่งบ้านตระกูลหลินต้องเสียใจ นับจากนี้พวกเขาจะไม่สามารถสูบเลือดสูบเนื้อพี่ได้อีกต่อไปแล้ว ที่ผ่านมาก็คิดเสียว่าทำทานให้สุนัขฝูงหนึ่งแล้วกัน” หลินชิงเหอแค่นเสียง

“มีครอบครัวฝั่งแม่แบบนี้ก็อย่ามีเลยดีกว่าค่ะ” โจวเสี่ยวเม่ยพยักหน้า

หลินชิงเหอเงียบไปก่อนจะถามขึ้นมา “เธอมีคนที่ใช่ในโรงงานที่ทำงานอยู่บ้างไหม?”

“ไม่มีค่ะ” โจวเสี่ยวเม่ยตอบทันควัน

ปฏิกิริยาของหญิงสาวรุ่นน้องดูรวดเร็วและลุกลี้ลุกลนเกินควร ทำให้หลินชิงเหอหรี่ตามองโจวเสี่ยวเม่ยเป็นเชิงจับผิด “ยังไม่บอกความจริงกับพี่สินะ? เขาตัวใหญ่ขนาดไหน? สูงเท่าไหร่? มีญาติพี่น้องกี่คน? อายุประมาณไหน? ทำงานอะไรล่ะ?”

ริมฝีปากของโจวเสี่ยวเม่ยสั่นระริก “พี่สะใภ้สี่ นี่พี่กำลังสอบสวนฉันอยู่เหรอคะ?”

“เขาอยากจะติดตามน้องสามีพี่แบบนี้ แน่นอนว่าพี่ก็ต้องถามเธอให้ชัดเจนน่ะสิ เธอก็รู้ว่านิสัยของพี่เป็นอย่างไร เป็นเพราะพี่เห็นว่าเธอเหมือนน้องสาวแท้ ๆ หรอกนะถึงเป็นห่วง ไม่อย่างนั้นก็ไม่สนใจเรื่องของเธอหรอก” หลินชิงเหอเอ่ยขณะยักคิ้ว

ใบหน้าของโจวเสี่ยวเม่ยขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย “เขาเองก็เป็นพนักงานโรงงานเหมือนกันค่ะ เขาทำงานอยู่ในโรงงานทำรองเท้า อายุ 24 ปี”

อืม…ไม่เลว หลินชิงเหอคิดแล้วก็สอบถามต่อไป “แล้วเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับเขาล่ะ”

“เขาเป็นคนค่อนข้างสูง น้อยกว่าพี่ชายสี่หน่อยหนึ่ง และเกือบจะสูงเท่ากับพี่ชายสามค่ะ” โจวเสี่ยวเม่ยตอบพลางหน้าแดง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม