บทที่ 688 ทหารปลดประจำการ
หลินซิ่วมาอยู่นี่ได้สองวันก็เริ่มลงมือทำงานเลย
หล่อนมีความเป็นมืออาชีพมาก รอบรู้หลายอย่าง ที่สำคัญตอนนี้หล่อนยังไม่คุ้นเคยกับงาน รอให้คุ้นเคยเมื่อใดก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้ว
ปีนี้มีเรื่องเกิดขึ้นค่อนข้างน้อย เจ้าใหญ่แต่งงาน เจ้ารองถูกส่งออกไปทำงานข้างนอก ธุรกิจที่บ้านก็มั่นคง มีเพียงห้องทำงานของหลินชิงเหอเองที่ต้องเริ่มรับงาน แต่ก็ไม่ได้หนักหนาอะไร
มีใบชาใหม่เข้ามาหลายล็อต ล้วนเป็นของคุณภาพดี ที่ต้องมอบให้คนอื่นก็ให้ ที่ต้องเก็บเข้าโกดังก็เก็บ
ที่โกดังเลี้ยงสุนัขทหารไว้สองตัว เป็นสุนัขทหารปลดประจำการเหมือนกับตัวที่บ้าน แต่มีพลังต่อสู้พอ ๆ กับชายหนุ่มโตเต็มวัยสองคน ทั้งไม่ได้ล่ามไว้ด้วย คนธรรมดาจึงไม่กล้าเข้าใกล้
แน่นอนว่าเนื่องจากฝึกมาแล้ว สุนัขทหารสองตัวนี้จึงเรียบร้อยเป็นระเบียบมาก กินข้าววันละสองมื้อ โจวชิงไป๋เป็นคนเอาข้าวไปให้เอง
เขาเองก็ชอบสุนัขมาก เมื่อก่อนที่บ้านมีสุนัขชื่อเฟยอิง พออายุมากมันก็ตาย
ภายในโกดังไม่เพียงแต่เก็บชาใหม่ ๆ ไว้ สินค้าของร้านอาหารทะเลแห้งก็อยู่ที่นี่ ถึงแม้รอบ ๆ มีบ้านในโครงการ แต่สมัยนี้ความปลอดภัยยังอยู่ในระดับธรรมดา
แน่นอนว่าถึงอย่างไรนี่ก็คือปักกิ่ง หลังจากมีการลงโทษให้เห็นมาบ้าง มันก็นับว่าดีมากแล้วหากเทียบกับนอกเมือง
แต่ความที่ของเยอะขนาดนี้ ทำให้โจวชิงไป๋ยังคงมาเดินลาดตระเวนทุกวัน และมีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาพบว่าขาข้างหนึ่งของสุนัขทหารตัวหนึ่งได้รับบาดเจ็บ
โจวชิงไป๋มีสีหน้ามืดครึ้มทันควัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เขาอุ้มสุนัขไปให้สัตวแพทย์ทำการพันแผลจนเรียบร้อย จากนั้นก็เอาสุนัขตัวนั้นไปไว้บ้านแล้วเอาสุนัขทหารสองตัวที่บ้านไปไว้ที่โกดัง
ขนาดนี้แล้วโจวชิงไป๋ยังคิดว่าไม่พอ เขาโทรไปหาทางกองทัพที่เจ้าใหญ่ประจำการอยู่
ช่วงนี้มีการปลดประจำการทหารอยู่ตลอด รวมแล้วเป็นจำนวนนับล้าน ผลกระทบที่เกิดขึ้นนับว่าพอกันกับกระแสตกงานในยุคหลัง
ดังนั้น การที่โจวชิงไป๋คิดจะรับสมัครทหารปลดประจำการจำนวนหนึ่งจึงเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
เจ้าใหญ่โจวข่ายไม่ได้ออกไปทำภารกิจ พอได้รับแจ้งก็รีบมารับโทรศัพท์ เขานึกว่ามีเรื่องใหญ่อะไร ถึงอย่างไรปกติที่บ้านจะรอให้พวกเขาสองสามีภรรยาโทรไปเอง น้อยมากที่จะโทรมาหาถึงในกองทัพ
พอได้ยินว่าเป็นเรื่องนี้ เขาก็เอ่ยขึ้นทันที “เรื่องนี้ไม่มีปัญหา ผมจัดการเอง แต่จะเอา 5 คนเลยเหรอครับ? ต้องใช้มากขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”
“เอา 5 คนแหละ” โจวชิงไป๋กล่าว
ทหารปลดประจำการ 5 คนนี้เป็นเด็กหนุ่มที่ยังหนุ่มยังแน่นทั้งหมด ตอนที่เดินทางมาถึงปักกิ่ง เจ้าสามโจวกุยไหลเป็นคนขับรถกระบะไปรับ
เขาต้องยืนชูป้ายอยู่นานมาก ไม่อย่างนั้นรับมาไม่ได้หรอก เพราะต่างคนต่างไม่รู้จักกัน แต่พวกเขาล้วนเคยเป็นทหารใต้บังคับบัญชาของเจ้าใหญ่
เมื่อทหารปลดประจำการมากัน 5 คน ในที่สุดโจวชิงไป๋ก็สามารถกลับไปกอดเมียนอนได้แล้ว
แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่ทั้ง 5 คนจะเฝ้าโกดังที่นี่ทุกวัน โจวชิงไป๋จึงแบ่งงานให้พวกเขา ว่าเป็นคนขนของส่งของ 4 คน อีกคนที่ร่าเริงอัธยาศัยดีก็ไปหัดขายของกับสวี่เชิ่งเฉียงที่ร้านอาหารทะเลแห้ง
ถึงอย่างไรพอหลี่อ้ายกั๋วโจวซานนีไปจากร้านอาหารทะเลแห้งจนเหลือแค่สวี่เชิ่งเฉียงแล้ว มันก็ดูออกจะน้อยไปหน่อย
ส่วนเรื่องเงินเดือน นับว่าไม่น้อยหรอก
รวมสวัสดิการและค่าอาหารของพวกเขา พวกเขาไปหางานแบบนี้ข้างนอกไม่ได้แล้ว
พวกเขาเคยกลับบ้านกันหมดแล้วด้วย หลังจากนั้นก็แกร่วอยู่ข้างนอก จะเดือนหนึ่งแล้วยังกินเสบียงที่เหลือของที่บ้านอยู่เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...