อ่านสรุป ตอนที่ 191 จาก ทะลุมิติทั้งครอบครัว โดย Internet
บทที่ ตอนที่ 191 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายจีนโบราณ ทะลุมิติทั้งครอบครัว ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
“ท่านพ่อ คนฝั่งตรงข้ามดูเหมือนกำลังเรียกพวกเรา” ต้าเนียนพูด
ซ่งฝูกุ้ยลุกขึ้นยืน ใช่ไหม? เขาหรี่ตามองฝั่งตรงข้าม “แม่น้ำฝั่งนั้นเกิดอะไรขึ้น ทำไมคนมากันเยอะแยะ ในหมู่บ้านเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า”
ผู้ติดตามเริ่นจื่อเซิงรีบใช้มือป้องปากตะโกนบอก “สหาย นำแพมารับพวกข้าไปฝั่งนั้นที”
ซ่งฝูกุ้ยเอียงหูฟัง “อะไรนะ?”
เขาฟังไม่ชัดจึงตะโกนกลับไป “เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”
“พวกเราจะไปริมแม่น้ำฝั่งเจ้า!”
ซ่งฝูกุ้ยถามลูกชายทั้งสอง “เขาบอกว่าจะมาฝั่งนี้ใช่ไหม?”
“ท่านพ่อ ใช่แล้ว น่าจะใช่นะ”
ซ่งฝูกุ้ยถามเสร็จก็ส่ายหน้า เป็นไปได้อย่างไร จะมาที่นี่เพื่ออะไร
มองไกลออกไปก็รู้สึกได้ว่าหลายคนฝั่งตรงข้ามดูมีลักษณะท่าทางมีเงิน มีรถม้า
ซ่งฝูกุ้ยตะโกนบอกฝั่งตรงข้าม “พวกเจ้าจะขึ้นภูเขาไหม? เย็นแล้วยังจะขึ้นเขาอีกหรือ?”
สองฝั่งมีสายน้ำกั้นกลางไว้ ตะโกนคุยกันเซ็งแซ่จนฟังไม่ได้ความแจ่มชัด
คนหนึ่งตะโกนไม่หยุด “พวกเราจะข้ามไปฝั่งของเจ้า” อีกคนก็ตะโกนถามไม่หยุด “เจ้าพูดอะไร” เซี่ยเหวินหยวนขมวดคิ้ว
เริ่นจื่อเซิงก็ขมวดคิ้วให้ผู้ติดตามรีบจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ให้พวกเขานำแพพายมา “บอกกับเขา ข้าจะให้เงิน”
ซ่งฝูกุ้ยได้ยินคำนี้ชัดเจน เขาคิดในใจ แม้จะได้เงินจ้างน้อยนิดเป็นค่าผักกาดขาวเพียงไม่กี่หัว เขาก็ยอมทำ “จะให้เงินเท่าไหร่?”
“เจ้าต้องการเท่าไหร่?”
ซ่งฝูกุ้ยยกมือขึ้นมาและออกแรงโบกไปมา
“ตกลง ห้าร้อยเหวิน(ครึ่งตำลึง) รีบถ่อแพมา!”
“ห้าร้อยเหวิน(ครึ่งตำลึง)?” ต้าเนียนถามซ่งฝูกุ้ย
เอ้อร์เนียนตกใจจนตาเบิกกว้าง
“ไม่ใช่ ข้าบอกว่าอย่างน้อยก็ห้าเหวิน ข้าไม่ได้บอกว่าห้าร้อยเหวิน(ครึ่งตำลึง)นะ” เขาพูดจบก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ ซ่งฝูกุ้ยรีบดำเนินการ เขาให้ลูกทั้งสองคนช่วยกันพยุงแพวางให้ดี เขาจะรีบถ่อแพออกไป
นั่นเป็นเงินห้าร้อยเหวิน(ครึ่งตำลึง)ให้ท่านลุงซ่ง และยังสามารถซื้อข้าวสารได้ไม่น้อยให้ทุกคนได้กิน
อย่าว่าแต่จะพาคนพวกนั้นข้ามแม่น้ำเลย ต่อให้เขาถ่อแพพาคนพวกนั้นลอยล่องอยู่ในแม่น้ำทั้งคืน เขาก็จะทำ
ต้าเนียน เอ้อร์เนียนจะตามไปกับซ่งฝูกุ้ยด้วย แต่ซ่งฝูกุ้ยปฏิเสธ
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ถ้าไม่ยอมจ่ายเงินห้าร้อยเหวิน (ครึ่งตำลึง) เขาจะถ่อแพไปกลางแม่น้ำรอ ซ่งฝูเซิง ให้คนพวกนั้นที่อยากข้ามแม่น้ำโมโห
หลังจากนั้นต้าเนียนกับเอ้อร์เนียนก็จ้องมองพ่อของตนเองถ่อแพไปยังฝั่งตรงข้าม
ดูเหมือนยื่นเงินให้แล้วจริงๆ
หลังจากนั้นก็มีชายสูงวัยคนหนึ่งรีบปรากฏตัวขึ้นมา ชายสูงวัยคนนั้นเป็นคนขึ้นแพคนสุดท้าย คนอยู่บนฝั่งพูดเซ็งแซ่จนฟังไม่รู้เรื่อง
แพของซ่งฝูกุ้ยบรรทุกผู้โดยสารสี่คนกลับมา
ถ่อแพมาเกินครึ่งทางแล้ว ต้าเนียนกำลังเดินหน้าเข้าไปดึงแพเข้าริมท่าน้ำ ทันใดนั้นไม้ค้ำในมือของซ่งฝูกุ้ยที่ถ่อแพก็ลื่นหลุดมือ แพทั้งลำก็พลิกคว่ำทันที
ตุ๋ม ตุ๋ม ตุ๋ม เสียงตกน้ำตามกันมา นาทีนั้นแต่ละคนที่ตกน้ำต่างพยายามว่ายน้ำเอาชีวิตรอด
เอ้อร์เนียนตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เขาหันหลังวิ่งไปตามเส้นทางกลับบ้าน “ท่านปู่ แย่แล้ว ท่านปู่ คนที่อยู่บนแพตกน้ำกันหมดแล้ว!”
ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ เริ่นโยวจินที่คอยสังเกตการณ์มาโดยตลอดถึงกับกำหมัดแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดออกมา สายตายังคงจับจ้องพวกคนลี้ภัยกระโดดลงน้ำเพื่อช่วยเหลือ มีผู้ชายร่างกำยำหลายคนกระโดดลงไปช่วยคนที่อยู่ในน้ำขึ้นฝั่ง
ทำไมต้องช่วย
ทำไมไม่ปล่อยให้พวกมันจมน้ำตาย
หรือป่วยเพราะความเหน็บหนาว ให้พวกมันแข็งตาย
เขาบอกกับท่านลุงซ่งว่า ได้ยินมาว่ามีผู้อพยพเข้ามาใหม่ในหมู่บ้านจึงอยากมาดู มาดูว่าทุกคนมีความเป็นอยู่ลำบากหรือไม่ เริ่นหลี่เจิ้งซึ่งเป็นพ่อของเขายังไม่เคยพบหน้าทุกคนก็รู้สึกห่วงใยจึงตามมาด้วย เป็นช่วงจังหวะที่พี่ชายของภรรยาก็อยู่ด้วยจึงตามมาดูพร้อมกัน
มีเรื่องลำบากอะไรหรือไม่?
เริ่นจื่อเซิงทำท่าทางขุนนางใหญ่ลงมาถามสารทุกข์สุขดิบกับชาวบ้าน
ท่านลุงซ่งนิ่งงัน หลุดพูดออกมา “พวกท่านมาเพื่อพวกเราหรือ?”
เริ่นจื่อเซิงอธิบายต่อ “ใช่สิ โดยเฉพาะวันนี้สะพานขาดก็ยิ่งกังวลว่าพวกท่านจะได้รับความลำบาก ใช่แล้ว เมื่อครู่ได้ยินว่ามีคนในครอบครัวยังไม่กลับมา? ไปเมืองเฟิ่งเทียนยังไม่กลับบ้าน? เป็นลูกชายหรือหลานชายของท่านลุง?”
เมื่อท่านลุงซ่งถูกถาม เขาก็ตอบตามความจริงว่า “ฝูเซิงเป็นหลานของข้า”
หลังจากพูดประโยคนี้แล้ว ท่านลุงซ่งก็ไม่พูดอะไรต่ออีก
เขาคิดในใจ คนพวกนี้ไม่ได้ประสงค์ดีแน่ ต้องมาไม่ดีแน่นอน
ถึงแม้จะมาดี ข้างนอกคงเกิดเรื่องอะไรขึ้นโดยที่เขาไม่รู้ก็ได้
มิเช่นนั้นสองวันที่ผ่านมาหลี่เจิ้งที่ไม่เคยโผล่หน้าออกมาก็มาแล้ว วันนี้ลูกชายของหลี่เจิ้งก็มาด้วย คนที่ดูสง่างามสูงส่งคนนั้นก็ไม่รู้ว่ามีตำแหน่งอะไรก็ตามมาด้วย นั่งอยู่บนตั่งที่ผุพังของพวกเขา
พวกเขามีอะไร? พวกเขาเป็นกลุ่มผู้อพยพมา ไม่มีผลประโยชน์อะไรที่พวกเขาจะได้รับ
โดยเฉพาะสอบถามเขาถึงเรื่องฝูเซิง ซ่งฝูเซิงก็ยังไม่กลับถึงบ้าน ข้างนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้น ท่านลุงซ่งคาดการณ์ไม่ออก
ท่านลุงซ่งครุ่นคิด ไม่ว่าข้างนอกจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น คนกลุ่มนี้ที่มามีเป้าหมายอะไร แต่เขามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นคือ
พวกเขาเชื่อฟังซ่งฝูเซิงเท่านั้น
เมื่อผู้นำครอบครัวไม่อยู่ พวกเจ้ายอมนั่งคอยอยู่บนตั่งก็นั่งรอต่อไปเถอะ พวกข้าช่วยพวกเจ้าแล้ว และยังให้เสื่อ น้ำร้อน ตั่งอุ่นๆ พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้ว เขาต้องไปทำงานแล้ว
อย่าหวังว่าจะล้วงเอาความลับอะไรจากปากของเขาได้
เขาอายุมากแล้ว ช่วยอะไรฝูเซิงไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ไม่พูดเลอะเทอะจนเพิ่มภาระให้กับเด็กๆ
ท่านลุงซ่งมีความรู้สึกว่า น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องเสบียงอาหารบรรเทาทุกข์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติทั้งครอบครัว
น่าสนุกจัง...