หลี่ซิ่วบอกกับนางว่า นางรู้ว่าทุกคนมีความคิดต่างๆ นานาต่อนาง ด้านหนึ่งอาจเป็นเพราะนางมาจากภูเขาลูกนั้นเพียงลำพัง ทำให้ทุกคนเกิดความสงสัยในตัวนาง อีกด้านอาจเป็นเพราะชุนฮวาและพ่อของของเป่าจื่อที่เสียชีวิตไปแล้ว
ท่านย่าหม่าโบกมือ “เจ้าพูดให้มันเข้าเรื่องหน่อย”
“ไม่น่ะ ท่านป้า ได้โปรดฟังข้าพูดให้จบก่อน จะสําเร็จหรือไม่นั้น ข้าก็อยากจะเล่าให้ท่านฟัง”
ท่านย่าหม่ากลอกตาพลางคิดในใจ เมื่อก่อนไม่เห็นเจ้าพูดกับข้าเยี่ยงนี้เลย เลือกปฏิบัติกับคนไม่เหมือนกัน ตอนนี้เจ้าคงเห็นว่าข้ามีความสามารถแล้วสิ
หลี่ซิ่วทำเป็นมองไม่เห็นท่านย่าหม่ากลอกตา นางปาดน้ำตาก่อนจะเล่าเรื่องราว
นางบอกว่า นางมาจากภูเขาลูกนั้นจริงและวิ่งหนีออกมาจากพื้นที่นั้น ครั้งนี้ที่อพยก็ผ่านสถานที่นั้นมาแล้ว
“เจ้าพูดถึงหมู่บ้านไร้ผู้คนนั่นหรือ? หมู่บ้านที่มีแต่คนตาย?” ท่านย่าหม่ารู้สึกประหลาดใจ
หลี่ซิ่วพยักหน้า
“พ่อกับแม่ของข้าขายข้าให้กับชายอายุมากที่ยังไม่ได้แต่งงานในหมู่บ้านเพื่อเงินสิบแปดตำลึง ชายผู้นั้นอายุมากกว่าข้ายี่สิบกว่าปี…
…ข้าคุกเข่าอ้อนวอนต่อหน้าพวกเขา พวกเขาก็จะให้ข้าแต่งงานให้ได้…
…ในวันที่ข้าแต่งงาน ข้าถูกทำให้สลบและถูกส่งตัวไป…
…พี่สาวทั้งสองคนของข้าก็มีชะตากรรมเช่นเดียวกัน พี่สาวคนโตถูกขายไปยังสถานที่ที่ไม่สะอาด ทนทรมานไม่ถึงสองปีก็จากไป…
…ส่วนพี่สาวคนที่สอง ใช้ชีวิตในช่วงแรกอย่างดี ถึงแม้ว่าผู้ชายจะมีอายุมากกว่าเล็กน้อย แต่ก็ดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี อาจเป็นเพราะพี่เขยรองอยู่ตัวคนเดียว เขากับพี่สาวของข้าต่างพึ่งพาอาศัยกัน ชีวิตยังต้องประสบพบเจออะไรอีกหลายอย่าง แต่พี่เขยนั้นกลับมีอายุสั้น…
…ท่านป้า ข้าทำร้ายพี่สาวคนที่สอง…
…เพราะหลังจากที่พี่เขยไม่อยู่แล้ว พี่สาวก็พาลูกสาวคนเดียวของนางแอบกลับมาที่บ้านเพื่อมาดูแล ปรากฏว่าพ่อกับแม่แอบเอาลูกสาวของพี่สาวไปขาย พี่สาวเป็นบ้าออกตามหาลูกสาวของนางไปทั่วและไม่มีข่าวคราวอีกเลย”
“เพราะอะไร พ่อกับแม่ของเจ้าถึงทำแบบนี้?”
“เพราะพวกข้ามีน้องชายหนึ่งคน น้องชายคนนั้นเป็นผีการพนัน ในสายตาของพ่อแม่ ไม่ว่าน้องชายจะไม่ดีอย่างไร เขาก็เป็นลูกผู้ชาย สามารถสืบสกุลได้ ข้าไม่มีครอบครัวทางฝั่งแม่แล้ว” หลี่ซิ่วร้องไห้สะอึกสะอื้น
หลังจากท่านย่าหม่าฟังจบก็ถอนหายใจ
หลี่ซิ่วร้องไห้อยู่สักพักหนึ่ง ก่อนจะกลับมาพูดเรื่องของตนเองต่อ
“ผู้ชายที่ข้าแต่งงานด้วยมีอายุมาก ไม่กลัวว่าท่านป้าจะหัวเราะเยาะ เขาเสื่อมสมรรถนะทางเพศ เขาก็ทรมานข้า กล่าวหาว่าข้าคบชู้กับชายอื่นและมีอะไรกันทั้งที่จริงแล้วไม่มีเลย…
…ยิ่งเขาทําไม่ได้ เขาก็ยิ่งทุบตีข้าหนักขึ้น…
…ข้าไม่มีที่ไป ไม่มีเงินติดตัวเลยแม้แต่หนึ่งเหวิน...
…ทําไมข้าอยู่กินกับเขามาหลายปีแล้วถึงหลบหนีมา เพราะข้าไม่กล้าตัดสินใจ เนื่องจากญาติทางฝั่งแม่ก็ไม่มี ข้าไม่รู้ว่าจะหนีไปทางไหน เกรงว่าหลบหนีออกไปแล้วจะไม่มีชีวิตรอด ต่อมาถูกเขาตบตีจนทนไม่ไหว ข้าไขกุญแจที่เขาล็อคไว้และขโมยถุงอาหารในตู้ แบกหลบหนีมาทางหมู่ บ้านของพวกท่าน”
หลี่ซิ่วบอกว่า นางไม่คาดคิดว่าได้เดินข้ามภูเขามาแล้ว ตอนนั้นนางเกือบจะเป็นลมและก็ได้พบเจอแม่ของจ้าวฝูกุ้ย
หลังจากนางฟื้นขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แม่ของจ้าวฝูกุ้ยถึงได้รู้ว่านางเป็นสาวใหญ่แล้ว
แต่ท่านย่าหม่ารู้ดี แม่ของจ้าวฝูกุ้ยดูคนออก เมื่อก่อนยังใช้สายตาในการรับงานหารายได้ ดูคนได้แม่นยํา
“หลังจากนั้นท่านป้าก็น่าจะรู้แล้ว แม่สามีของข้าไล่แม่แท้ๆ ของชุนฮวาออกไปเพราะรังเกียจที่นางไม่สามารถคลอดลูกได้อีกและให้ข้าแต่งงานกับจ้าวฝูกุ้ย พวกเราสองคนเริ่มใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่ชุนฮวากลับต่อต้านข้าตลอดมา”
เมื่อหลี่ซิ่วพูดมาถึงตรงนี้ นางก็รีบพูดเกี่ยวกับตนเอง
นางบอกกับท่านป้าว่า คนในหมู่บ้านมักรู้สึกไม่ค่อยดีกับแม่เลี้ยง แม้ว่าจะดูแลเด็กของภรรยาเก่าที่ทิ้งไว้เสมือนลูกแท้ๆ ก็ยังถูกติฉินนินทาลับหลัง ยิ่งนางทำไม่ดีกับชุนฮวา นางยอมรับ
ใช่ หลี่ซิ่วยอมรับ
นางบอกว่า นางไม่ใช่คนใจร้าย มองดูภายนอกชุนฮวาดูเป็นคนซื่อ แต่กลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น
แม้กระทั่งวันนี้นางก็ไม่เคยรู้สึกเสียใจที่ปฏิบัติไม่ดีกับชุนฮวาเพราะเด็กคนนี้ไม่เคยดีกับนางเลย
ดูเด็กนั่นสิ มีลูกเลี้ยงคนไหนที่ใจกล้าเหมือนกับนาง? กล้าถึงขนาดนำปูนขาวมาเปลี่ยนเป็นแป้งทั้งหมดแล้วแอบเอาไปให้แม่แท้ๆ ของตนเอง ก็รู้ได้ว่าชุนฮวาไม่ใช่เด็กธรรมดา นางใจร้าย
เพราะชุนฮวาไม่เคยคิดถึงน้องชาย เพราะไม่ได้เกิดจากแม่คนเดียวกัน แต่ก็มีพ่อคนเดียวกัน นั่นเป็นน้องชายแท้ๆ ของนางเหมือนกัน รวมทั้งพ่อแท้ๆของนาง ที่อพยพหลบหนีมาด้วยกัน นางไม่สนใจว่าอาหารที่เก็บไว้ในครอบครัวจะพอกินหรือไม่ ไม่สนใจว่าพวกเขาจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ก็รู้ได้ว่าเด็กคนนี้เป็นคนที่ไม่ฟังใคร
นอกจากนี้ หลี่ซิ่วก็ยังบอกอีกว่า เริ่มแรกไม่ใช่ว่านางทำไม่ดีกับชุนฮวา แต่เป็นเพราะนิสัยของชุนฮวากดดัน ถึงทำให้เป็นแบบนี้
เพราะเมื่อก่อนทําอาหารให้เด็กคนนี้กิน เด็กคนนี้ก็ไม่กิน หิวจนร่างกายผอมแห้งเหมือนหนังหุ้มกระดูกเพราะต้องการประหยัดอาหาร ประหยัดหลายวัน จากนั้นก็แอบไปบ้านยายเพื่อเอาอาหารให้แม่แท้ๆ ของนาง
โหยหิวอยู่ข้างนอก ท้องร้องโครกคราก คนทั้งหมู่บ้านต่างตำหนินาง ต่อว่าว่าแม่เลี้ยงใจร้าย ไม่มีเมตตา ทําให้นางเสื่อมเสียชื่อเสียง นางมาค้นตัวชุนฮวาก็พบปัวปัวที่ซ่อนไว้จนมีราขนสีเขียวขึ้น ทุกวันก็คิดแต่จะวิ่งไปหาแม่แท้ๆ ของนาง
ตอนนั้นนางต่อว่าชุนฮวา อยากให้เด็กคนนี้กลับใจ ห้ามไม่ให้นางไปหาแม่อีก ให้ชุนฮวากินอาหารเอง แต่นางก็ไม่ฟัง ตียังไงก็ไม่ยอม
ท่านย่าหม่าคิดในใจ ก็จริงนะ ตอนที่ชุนฮวามีแม่เลี้ยง นางก็อายุสิบกว่าปีแล้ว แม่แท้ๆ ของนางก็ยังมีชีวิตอยู่ บางทีในสายตาของชุนฮวาคงเกลียดหลี่ซิ่วมาก นางคงคิดว่าเป็นเพราะหลี่ซิ่วที่ทำให้แม่ของนางต้องถูกขับไล่ออกจากบ้านไป อาจพูดได้ว่าเลี้ยงไม่เชื่อง
หลี่ซิ่วยังคงเล่าให้ท่านย่าหม่าฟัง
หลายครั้งที่นางถูกคนในหมู่บ้านติฉินนินทา ทำให้ใจของนางแข็งกระด้างขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติทั้งครอบครัว
น่าสนุกจัง...